พิมพ์หน้านี้ - มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนบอกรัก => ข้อความที่เริ่มโดย: nnn ที่ 02 มิถุนายน 2010, 01:20:PM



หัวข้อ: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: nnn ที่ 02 มิถุนายน 2010, 01:20:PM
  มาต่อกลอนให้ครบพันบทกันเถอะนะครับ
เอาเรื่องอะไรดีลาะอืม..ม
บทแรกขอฤกษ์งามๆจากรุ่นพี่ก็แล้วกัน
  งั้นผมขอตั้งบทนำนะครับ
รุ่นพี่ใจดีช่วยต่อด้วย  กลอนแปดนะครับ
..............................................................
  กลอนนั้นคืด  อะไร  ใครรู้บ้าง
คือหน้าต่าง  ทางความคิด  สิทธิ์อักษร
คือการแต่ง  แบ่งคำ  ทำวรรคตอน
คือบทกลอน  บทคำ  บทกวี


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 02 มิถุนายน 2010, 01:27:PM
แค่ครบร้อย..คอยอีกนาน..นะหลานเอ๋ย
ป้ากุลฝึก..มากมากเลย..เผยใจว่า
ยังไมถึงไหนเลย..เฉลยมา
ชอบก็ฝึก..ดึกเช้าหนา..มาบ้านกลอนฯ


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สายไหม ที่ 02 มิถุนายน 2010, 08:26:PM
จะแต่งกลอน ครบพัน นั้นไม่อยาก
เพราะบ้านกลอน หลายหลาก มากผู้รู้
ผู้ชำนาญ โครงฉันท์ เป็นชั้นครู
ก็มีอยู่ มากมาย ในบ้านกลอน

อิอิ สู้ๆครับ เป็นกำลังใจให้ *-*




หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: boomarang ที่ 02 มิถุนายน 2010, 10:04:PM
  มาต่อกลอนให้ครบพันบทกันเถอะนะครับ
เอาเรื่องอะไรดีลาะอืม..ม
บทแรกขอฤกษ์งามๆจากรุ่นพี่ก็แล้วกัน
  งั้นผมขอตั้งบทนำนะครับ
รุ่นพี่ใจดีช่วยต่อด้วย  กลอนแปดนะครับ
..............................................................
  กลอนนั้นคืด  อะไร  ใครรู้บ้าง
คือหน้าต่าง  ทางความคิด  สิทธิ์อักษร
คือการแต่ง  แบ่งคำ  ทำวรรคตอน
คือบทกลอน  บทคำ  บทกวี

ทั้งโคลงฉันท์กาพย์กลอนอักษรศิลป์
ศิลปินร้อยเรียงคำพิสุทธิ์ศรี
งามสง่าเลิศค่ากานท์กวี
สดุดีกราบถ้อยร้อยคำเรียง




หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 02 มิถุนายน 2010, 10:25:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)

ทั้งโคลงฉันท์กาพย์กลอนอักษรศิลป์
ศิลปินร้อยเรียงคำพิสุทธิ์ศรี
งามสง่าเลิศค่ากานท์กวี
สดุดีกราบถ้อยร้อยคำเรียง....(บูมเมอแรง)

แค่พันบท กำหนด ได้ ถ้าใจรัก
แต่เธอจัก ต้องประกาศ อย่าขาดเสียง
คอยคิดมุก บุกต่อให้พอเพียง
ให้มีเลี่ยง มีรัก แล้วหักมุม

 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 03 มิถุนายน 2010, 08:30:AM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)

ทั้งโคลงฉันท์กาพย์กลอนอักษรศิลป์
ศิลปินร้อยเรียงคำพิสุทธิ์ศรี
งามสง่าเลิศค่ากานท์กวี
สดุดีกราบถ้อยร้อยคำเรียง....(บูมเมอแรง)

แค่พันบท กำหนด ได้ ถ้าใจรัก
แต่เธอจัก ต้องประกาศ อย่าขาดเสียง
คอยคิดมุก บุกต่อให้พอเพียง
ให้มีเลี่ยง มีรัก แล้วหักมุม... (สายใย)

 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)

หนึ่งพันบท จดจาร เป็นงานยาก
แต้ถ้าหาก รวมพลัง กันทั้งกลุ่ม
สมาชิก หญิงชาย ร่ายระรุม
คงครอบคลุม ครบพัน สักวันนึง..( hathaichanok)

ใครซ่อนแอบ ออกแรงมาช่วยก่อน
คัดบทกลอน งอนง้อ อย่าขัดขึง
วันละนิด ช่วยกันคิด สักนิดนึง
ขาดที่พึ่ง ไม่กี่ร้อย ช่วยหน่อยงาน...(e-no)




หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: my smile ที่ 03 มิถุนายน 2010, 08:56:AM
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif[/url])

ทั้งโคลงฉันท์กาพย์กลอนอักษรศิลป์
ศิลปินร้อยเรียงคำพิสุทธิ์ศรี
งามสง่าเลิศค่ากานท์กวี
สดุดีกราบถ้อยร้อยคำเรียง....(บูมเมอแรง)

แค่พันบท กำหนด ได้ ถ้าใจรัก
แต่เธอจัก ต้องประกาศ อย่าขาดเสียง
คอยคิดมุก บุกต่อให้พอเพียง
ให้มีเลี่ยง มีรัก แล้วหักมุม... (สายใย)

 ([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif[/url])

หนึ่งพันบท จดจาร เป็นงานยาก
แต้ถ้าหาก รวมพลัง กันทั้งกลุ่ม
สมาชิก หญิงชาย ร่ายระรุม
คงครอบคลุม ครบพัน สักวันนึง..( hathaichanok)

ใครซ่อนแอบ ออกแรงมาช่วยก่อน
คัดบทกลอน งอนง้อ อย่าขัดขึง
วันละนิด ช่วยกันคิด สักนิดนึง
ขาดที่พึ่ง ไม่กี่ร้อย ช่วยหน่อยงาน...(e-no)




วันละนิด คิดคำเรียง เสียงเล็กน้อย
ภาษาร้อย ถ้อยคำ ล้ำประสาน
จากหนึ่งบท ครบจบพัน คำกลอนกานท์
จดเขียนงาน  ครั้งละสี่ วรรคบทกลอน...(my smile)
 



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 03 มิถุนายน 2010, 09:09:AM
กลอนนั้นคืด  อะไร  ใครรู้บ้าง
คือหน้าต่าง  ทางความคิด  สิทธิ์อักษร
คือการแต่ง  แบ่งคำ  ทำวรรคตอน
คือบทกลอน  บทคำ  บทกวี.......//tingtong
 
แค่ครบร้อย..คอยอีกนาน..นะหลานเอ๋ย
ป้ากุลฝึก..มากมากเลย..เผยใจว่า
ยังไมถึงไหนเลย..เฉลยมา
ชอบก็ฝึก..ดึกเช้าหนา..มาบ้านกลอนฯกุลมาตา.......//(singlemom99)

จะแต่งกลอน ครบพัน นั้นไม่อยาก
เพราะบ้านกลอน หลายหลาก มากผู้รู้
ผู้ชำนาญ โครงฉันท์ เป็นชั้นครู
ก็มีอยู่ มากมาย ในบ้านกลอน.......//สายไหม

ทั้งโคลงฉันท์กาพย์กลอนอักษรศิลป์
ศิลปินร้อยเรียงคำพิสุทธิ์ศรี
งามสง่าเลิศค่ากานท์กวี
สดุดีกราบถ้อยร้อยคำเรียง.......//boomarang

แค่พันบท กำหนด ได้ ถ้าใจรัก
แต่เธอจัก ต้องประกาศ อย่าขาดเสียง
คอยคิดมุก บุกต่อให้พอเพียง
ให้มีเลี่ยง มีรัก แล้วหักมุม.......//สายใย

 หนึ่งพันบท จดจาร เป็นงานยาก
แต้ถ้าหาก รวมพลัง กันทั้งกลุ่ม
สมาชิก หญิงชาย ร่ายระรุม
คงครอบคลุม ครบพัน สักวันนึง.......// hathaichanok

 ใครซ่อนแอบ ออกแรงมาช่วยก่อน
คัดบทกลอน งอนง้อ อย่าขัดขึง
วันละนิด ช่วยกันคิด สักนิดนึง
ขาดที่พึ่ง ไม่กี่ร้อย ช่วยหน่อยงาน.......//(e-no)

บรรจงถ้อยร้อยคำลำนำนี้
รวมน้องพี่เพื่อนพ้องร้องประสาน
เปิดหัวใจให้เห็นเป็นตำนาน
บันทึกกานท์สานสายใยในบ้านกลอน.......//ทอฝัน

วันละนิด คิดคำเรียง เสียงเล็กน้อย
ภาษาร้อย ถ้อยคำ ล้ำประสาน
จากหนึ่งบท ครบจบพัน คำกลอนกานท์
จดเขียนงาน  ครั้งละสี่ วรรคบทกลอน...(my smile)
 
...
กลอนสุภาพ
       เป็นคำประพันธ์อีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมกันทั่วไป เพราะเป็นร้อยกรองชนิดที่มีความเรียบเรียงง่ายต่อการสื่อความหมาย และสามารถสื่อได้อย่างไพเราะ ซึ่งกลอนแปดมีการกำหนดพยางค์และสัมผัส มีหลายชนิดแต่ที่นิยมคือ กลอนสุภาพ

        กลอนสุภาพนับเป็นกลอนหลักของก่อนทุกชนิด ซึ่งจำแนกเป็นกลอน ๖ กลอน ๗ กลอน ๘ และกลอน ๙ ซึ่งมีหลักของการแต่งคล้ายคลึงกัน ในที่นี้จะกล่าวถึงหลักการแต่งกลอน ๘ ซึ่งเป็นกลอนที่นิยม ดังนี้

1. จำนวนคำของกลอนแต่ละวรรคมี 8 คำ หรือ 9 คำ , 2 วรรคเป็นหนึ่งบาท , สองบาทเป็นหนึ่งบท
2. คำสุดท้ายของวรรคหน้า (วรรคที่ 1) ต้องสัมผัสกับ คำที่ 3 หรือคำที่ 5 ของวรรคหลัง(วรรคที่2)
3. คำสุดท้ายของวรรคที่ 2 ต้องสัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ 3
4. คำสุดท้ายของวรรคที่ 3 ต้องสัมผัสกับ คำที่3 หรือคำที่ 5 ของ วรรคที่ 4 ( แต่งครบ 4 วรรค หรือ สองบาท เป็น หนึ่งบท )
ถ้าจะขึ้นบทใหม่ ต้องให้คำสุดท้ายของวรรคที่ 4 ของบทที่หนึ่ง สัมผัสกับคำสุดท้ายของ วรรคที่ 2 ของบทใหม่ คล้องจองอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ดังแผนผังข้างล่าง

สัมผัสในกลอนแปด
กลอนแปดจะมีลักษณะการสัมผัส 4 ลักษณะ ดังนี้
1. สัมผัสสระ
เป็นสัมผัสระหว่างคำที่ใช้สระเสียงเดียวกัน ถ้าเป็นคำที่มีตัวสะกดก็ต้องอยู่ในมาตราเดียวกันด้วย เช่น รบ พบ จบ คบ แต่มีข้อควรระวัง คือ ห้ามใช้สระเสียงสั้นกับสระเสียงยาวมาสัมผัสกัน เช่น คำ กับ คร้าม เป็นต้น
2. สัมผัสอักษร (สัมผัสพยัญชนะ) 
เป็นสัมผัสระหว่างคำที่ใช้พยัญชนะต้นตัวเดียวกันหรือเสียงพยัญชนะพ้องกัน โดยไม่จำกัดสระและวรรณยุกต์ เช่น กก กอ กิ่ง แก้ว เป็นต้น
3. สัมผัสนอก 
เป็นสัมผัสบังคับที่ส่งและรับสัมผัสจากวรรคหนึ่งไปยังอีกวรรคหนึ่งในบทเดียวกัน รวมทั้งสัมผัสระหว่างบทด้วยกัน ถือว่าเป็นสัมผัสบังคับของร้อยกรองทุกประเภท แต่ต้องจำให้ดีว่าสัมผัสนอกจะใช้สัมผัสสระเท่านั้น
ภาพความหลัง ยังตราตรึง คะนึงคิด ในดวงจิต เปี่ยมรัก แม่หนักหนา
สุดซาบซึ้ง ถึงความรัก ความเมตตา ดวงอุรา ที่งดงาม มิเคยเลือน …………จบบทที่ 1
เฝ้าถนอม กล่อมเกลี้ยง เลี้ยงดูบุตร ลออสุด น้ำใจ หาใครเหมือน
เฝ้าอบรม บ่มนิสัย เฝ้าตักเตือน แม่เหมือนเพื่อน เฝ้าปลอบใจ ยามลูกตรม………….จบบทที่ 2
4. สัมผัสใน 
เป็นสัมผัสที่ส่งและรับภายในวรรค ใช้ได้ทั้งสัมผัสสระและสัมผัสอักษร เพราะสัมผัสในไม่ใช่สัมผัสบังคับ แต่เป็นสัมผัสที่ช่วยให้ร้อยกรองมีความไพเราะมากยิ่งขึ้น และเป็นการแสดงฝีมือของผู้แต่งด้วย
ภาพความหลัง ยังตราตรึง คะนึงคิด ในดวงจิต เปี่ยมรัก แม่หนักหนา
สุดซาบซึ้ง ถึงความรัก ความเมตตา ดวงอุรา ที่งดงาม มิเคยเลือน …………จบบทที่ 1
เฝ้าถนอม กล่อมเกลี้ยง เลี้ยงดูบุตร ลออสุด น้ำใจ หาใครเหมือน
เฝ้าอบรม บ่มนิสัย เฝ้าตักเตือน แม่เหมือนเพื่อน เฝ้าปลอบใจ ยามลูกตรม………….จบบทที่ 2
(...copy จาก ห้องเขียนกลอนให้ถูกต้องตามฉันทลักษณ์ค่ะ ค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้าแรกนะคะ...)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: nasmok ที่ 03 มิถุนายน 2010, 10:22:AM
กลอนนั้นคืด  อะไร  ใครรู้บ้าง
คือหน้าต่าง  ทางความคิด  สิทธิ์อักษร
คือการแต่ง  แบ่งคำ  ทำวรรคตอน
คือบทกลอน  บทคำ  บทกวี.......//tingtong(1)
 
แค่ ครบร้อย..คอยอีกนาน..นะหลานเอ๋ย
ป้ากุลฝึก..มากมากเลย..เผยใจว่า
ยัง ไมถึงไหนเลย..เฉลยมา
ชอบก็ฝึก..ดึกเช้าหนา..มาบ้านกลอนฯกุล มาตา.......//(singlemom99)(2)

จะแต่งกลอน ครบพัน นั้นไม่อยาก
เพราะ บ้านกลอน หลายหลาก มากผู้รู้
ผู้ชำนาญ โครงฉันท์ เป็นชั้นครู
ก็มี อยู่ มากมาย ในบ้านกลอน.......//สายไหม(3)

ทั้งโคลงฉันท์กาพย์กลอน อักษรศิลป์
ศิลปินร้อยเรียงคำพิสุทธิ์ศรี
งามสง่าเลิศค่ากานท์กวี
สดุดี กราบถ้อยร้อยคำเรียง.......//boomarang(4)

แค่พันบท กำหนด ได้ ถ้าใจรัก
แต่ เธอจัก ต้องประกาศ อย่าขาดเสียง
คอยคิดมุก บุกต่อให้พอเพียง
ให้มี เลี่ยง มีรัก แล้วหักมุม.......//สายใย(5)

 หนึ่งพันบท จดจาร เป็นงานยาก
แต้ถ้าหาก รวมพลัง กันทั้งกลุ่ม
สมาชิก หญิงชาย ร่ายระรุม
คง ครอบคลุม ครบพัน สักวันนึง.......// hathaichanok(6)

 ใครซ่อนแอบ ออกแรงมาช่วยก่อน
คัดบทกลอน งอนง้อ อย่าขัดขึง
วันละนิด ช่วยกันคิด สักนิดนึง
ขาดที่พึ่ง ไม่กี่ร้อย ช่วยหน่อยงาน.......//(e-no)(7)

บรรจง ถ้อยร้อยคำลำนำนี้
รวมน้องพี่เพื่อนพ้องร้องประสาน
เปิดหัวใจให้เห็น เป็นตำนาน
บันทึกกานท์สานสายใยในบ้านกลอน.......//ทอฝัน(8)

วันละ นิด คิดคำเรียง เสียงเล็กน้อย
ภาษาร้อย ถ้อยคำ ล้ำประสาน
จากหนึ่งบท ครบจบพัน คำกลอนกานท์
จดเขียนงาน  ครั้งละสี่ วรรคบทกลอน...(my smile)(9)

เข้ามาช่วยเพิ่มเติมและเสริมแต่ง
มาร่วมแรงเชิดชูอนุสรณ์
ด้วยหลงไหลลำนำในคำกลอน
ทุกวรรคตอนครุ่นคิดให้ติดตรึง.....(nasmok)(10)



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: nnn ที่ 03 มิถุนายน 2010, 10:33:AM
กลอนพันบท  อดใจรอ เดี๋ยวก็ครบ
แต่งให้จบ  ต่อจนครบ  คงครบฝัน
ครบไม่ครบ  จบไม่จบ  คงพบกัน
ได้แค่นั้น  คงสร้างสรรค์  กว่าสิ่งใด(11)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: นัท ผู้ชายฯ รักในหลวง ที่ 03 มิถุนายน 2010, 10:43:AM
กลอนพันบท  อดใจรอ เดี๋ยวก็ครบ
แต่งให้จบ  ต่อจนครบ  คงครบฝัน
ครบไม่ครบ  จบไม่จบ  คงพบกัน
ได้แค่นั้น  คงสร้างสรรค์  กว่าสิ่งใด(11)....tingtong  


มาเรียงร้อย   ถ้อยคำหวาน  ผ่านกวี
มาเรียงร้อย     ถ้อยวลี    ที่อ่อนไหว
มาเรียงร้อย มาร้อยเรียง เอียงชิดใกล้
มาเรียงร้อย   คอยถามไถ่    ให้คิดถึง (12)
[/color]


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: nasmok ที่ 03 มิถุนายน 2010, 11:00:AM
กลอนพันบท  อดใจรอ เดี๋ยวก็ครบ
แต่งให้จบ  ต่อจนครบ  คงครบฝัน
ครบ ไม่ครบ  จบไม่จบ  คงพบกัน
ได้แค่นั้น  คงสร้างสรรค์  กว่าสิ่งใด(11)....tingtong

มาเรียงร้อย   ถ้อยคำหวาน  ผ่านกวี
มาเรียงร้อย     ถ้อยวลี    ที่อ่อนไหว
มาเรียงร้อย มาร้อยเรียง เอียงชิดใกล้
มาเรียงร้อย   คอยถามไถ่    ให้คิดถึง (12)

จะต่อกลอนให้มันส์ต้องปั้นแต่ง
เรื่องตำแหน่งแบ่งคำทำให้ทึ่ง
เขียนให้ถูกผูกสัมผัสให้รัดรึง
อ่านแล้วจึงให้คุณค่าขึ้นกว่าเดิม.....(nasmok)(13)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 03 มิถุนายน 2010, 11:04:AM
กลอนนั้นคืด  อะไร  ใครรู้บ้าง
คือหน้าต่าง  ทางความคิด  สิทธิ์อักษร
คือการแต่ง  แบ่งคำ  ทำวรรคตอน
คือบทกลอน  บทคำ  บทกวี.......//tingtong(1)
 
แค่ ครบร้อย..คอยอีกนาน..นะหลานเอ๋ย
ป้ากุลฝึก..มากมากเลย..เผยใจว่า
ยัง ไมถึงไหนเลย..เฉลยมา
ชอบก็ฝึก..ดึกเช้าหนา..มาบ้านกลอนฯกุล มาตา.......//(singlemom99)(2)

จะแต่งกลอน ครบพัน นั้นไม่อยาก
เพราะ บ้านกลอน หลายหลาก มากผู้รู้
ผู้ชำนาญ โครงฉันท์ เป็นชั้นครู
ก็มี อยู่ มากมาย ในบ้านกลอน.......//สายไหม(3)

ทั้งโคลงฉันท์กาพย์กลอน อักษรศิลป์
ศิลปินร้อยเรียงคำพิสุทธิ์ศรี
งามสง่าเลิศค่ากานท์กวี
สดุดี กราบถ้อยร้อยคำเรียง.......//boomarang(4)

แค่พันบท กำหนด ได้ ถ้าใจรัก
แต่ เธอจัก ต้องประกาศ อย่าขาดเสียง
คอยคิดมุก บุกต่อให้พอเพียง
ให้มี เลี่ยง มีรัก แล้วหักมุม.......//สายใย(5)

 หนึ่งพันบท จดจาร เป็นงานยาก
แต้ถ้าหาก รวมพลัง กันทั้งกลุ่ม
สมาชิก หญิงชาย ร่ายระรุม
คง ครอบคลุม ครบพัน สักวันนึง.......// hathaichanok(6)

 ใครซ่อนแอบ ออกแรงมาช่วยก่อน
คัดบทกลอน งอนง้อ อย่าขัดขึง
วันละนิด ช่วยกันคิด สักนิดนึง
ขาดที่พึ่ง ไม่กี่ร้อย ช่วยหน่อยงาน.......//(e-no)(7)

บรรจง ถ้อยร้อยคำลำนำนี้
รวมน้องพี่เพื่อนพ้องร้องประสาน
เปิดหัวใจให้เห็น เป็นตำนาน
บันทึกกานท์สานสายใยในบ้านกลอน.......//ทอฝัน(8)

วันละ นิด คิดคำเรียง เสียงเล็กน้อย
ภาษาร้อย ถ้อยคำ ล้ำประสาน
จากหนึ่งบท ครบจบพัน คำกลอนกานท์
จดเขียนงาน  ครั้งละสี่ วรรคบทกลอน...(my smile)(9)

เข้ามาช่วยเพิ่มเติมและเสริมแต่ง
มาร่วมแรงเชิดชูอนุสรณ์
ด้วยหลงไหลลำนำในคำกลอน
ทุกวรรคตอนครุ่นคิดให้ติดตรึง.....(nasmok)(10)

กลอนพันบท  อดใจรอ เดี๋ยวก็ครบ
แต่งให้จบ  ต่อจนครบ  คงครบฝัน
ครบไม่ครบ  จบไม่จบ  คงพบกัน
ได้แค่นั้น  คงสร้างสรรค์  กว่าสิ่งใด.....(tingtong)(11)

มาเรียงร้อย   ถ้อยคำหวาน  ผ่านกวี
มาเรียงร้อย     ถ้อยวลี    ที่อ่อนไหว
มาเรียงร้อย มาร้อยเรียง เอียงชิดใกล้
มาเรียงร้อย   คอยถามไถ่    ให้คิดถึง (12)

จะต่อกลอนให้มันส์ต้องปั้นแต่ง
เรื่องตำแหน่งแบ่งคำทำให้ทึ่ง
เขียนให้ถูกผูกสัมผัสให้รัดรึง
อ่านแล้วจึงให้คุณค่าขึ้นกว่าเดิม.....(nasmok)(13

...โดนปาดหน้าแซงไปเลยไร้สัมผัส(ระหว่างบท)ขอโทษนะค้า...!!!
กลอนลับลับล่อล่อรอลุงเวป
กลอนเจ็บเจ็บเหน็บเด็ดเกล็ดขยาย
กลอนเจ้าชู้เสน่ห์ร้อนอ้อนสายใย
กลอนละไมน่ารักซะต้องนะโม...(14)

กลอนพริ้วไหวยกให้ระนาดเอก
กลอนเด็กเด็กงอแงแค่ทอฝัน
กลอนหวาดเสียวแต่งามงดกชนันท์
กลอนมันส์ๆขอบอกดอกกระเจียว...(15)

กลอนชีวิตป้ากุลเธอหนุนส่ง
กลอนงงๆจริงใจคนไร้ค่า
กลอนหวานๆไพเราะดีพี่เมฆา
กลอนบ้าๆน่ารักต้องทักษมน...(?)(16

อีกมากมายหลายท่านในบ้านนี้
เอ่ยนามมีให้เห็นเป็นเบื้องต้น
ต่อครั้งหน้ามาพบครบทุกคน
ล้วนน่ายลโปรดติดตามตอนต่อไป.......(ทอฝัน)(17)

...ใครที่ยังมิได้เอ่ยนามอย่าคิดว่าจะรอดนะฮะ...แล้วเจอกัน...!!!


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 03 มิถุนายน 2010, 01:01:PM
อีกมากมายหลายท่านในบ้านนี้
เอ่ยนามมีให้เห็นเป็นเบื้องต้น
ต่อครั้งหน้ามาพบครบทุกคน
ล้วนน่ายลโปรดติดตามตอนต่อไป.......(ทอฝัน)(17)

หนูทอฝัน ขยันคัดเรียงร้อย
หยิกหยอกหน่อย ผ่านวจี สีสดใส
เหล่ามวลมิตร อมยิ้ม พริ้มละไม
อย่าเกรงใจ ให้ผ่านเลยอย่าเอ่ยนาม ....e-no (18)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: (ฟ้า) มารสุรา ที่ 03 มิถุนายน 2010, 01:14:PM
อีกมากมายหลายท่านในบ้านนี้
เอ่ยนามมีให้เห็นเป็นเบื้องต้น
ต่อครั้งหน้ามาพบครบทุกคน
ล้วนน่ายลโปรดติดตามตอนต่อไป.......(ทอฝัน)(17)

หนูทอฝัน ขยันคัดเรียงร้อย
หยิกหยอกหน่อย ผ่านวจี สีสดใส
เหล่ามวลมิตร อมยิ้ม พริ้มละไม
อย่าเกรงใจ ให้ผ่านเลยอย่าเอ่ยนาม ....e-no (18)

ขอต่อด้วยช่วยกันครบพันบท
มธุรสบทกวีศรีสยาม
ช่างไพเราะเสนาะหูทุกผู้นาม
ในข้อความงามซึ้งซึ่งกวี


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Monnangrum ที่ 03 มิถุนายน 2010, 02:01:PM
 emo_107จะเขียนกลอนอย่างที่ใจใฝ่จะเขียน
แล้วมั่นเพียรเขียนลักษณ์อักษรศรี
ทั้งมุ่งหวังให้ก้าวหน้ามีท่าที
ให้น้องพี่สานต่อได้ไม่เลอะเลือน


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 03 มิถุนายน 2010, 03:45:PM
อีกมากมายหลายท่านในบ้านนี้
เอ่ยนามมีให้เห็นเป็นเบื้องต้น
ต่อครั้งหน้ามาพบครบทุกคน
ล้วนน่ายลโปรดติดตามตอนต่อไป.......(ทอฝัน)(17)

หนูทอฝัน ขยันคัดเรียงร้อย
หยิกหยอกหน่อย ผ่านวจี สีสดใส
เหล่ามวลมิตร อมยิ้ม พริ้มละไม
อย่าเกรงใจ ให้ผ่านเลยอย่าเอ่ยนาม ....e-no (18)


ขอต่อด้วยช่วยกันครบพันบท
มธุรสบทกวีศรีสยาม
ช่างไพเราะเสนาะหูทุกผู้นาม
ในข้อความงามซึ้งซึ่งกวี ((ฟ้า)มารสุรา)(19)


 emo_107จะเขียนกลอนอย่างที่ใจใฝ่จะเขียน
แล้วมั่นเพียรเขียนลักษณ์อักษรศรี
ทั้งมุ่งหวังให้ก้าวหน้ามีท่าที
ให้น้องพี่สานต่อได้ไม่เลอะเลือน ( monnangrum)(20)


เขียนกลอนคนละวันแค่พันบท
คงมันหยดมุ่งมาหาความเหมือน
บ้างต่อกลอนสอนใจไว้คอยเตือน
บ้างยลเยือนกลบทตามกฏเกณฑ์  (“ลุงปรางค์  สามยอด จ้า”)(21)
 


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 03 มิถุนายน 2010, 04:38:PM

จะดีไหมหากต่อกลอนอวยพรพ่อ
ผู้เกิดก่อบารมีอย่างที่เห็น
ศิริราชบริบาลราษฎร์ร่มเย็น
องค์ทรงเน้นเย็นมีที่ประชา   (22)


ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะฯ
 emo_46


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 03 มิถุนายน 2010, 09:23:PM
เป็นนิยายนั้นเข้าทีจะดีแน่
ติดตรงแค่เรื่องอะไรใสเนื้อหา
เป็นตอนตอนต่อไปได้ปัญญา
ยังจะดูดูเข้าท่าน่าต่อจัง

อุปโลกตัวละครสักท่อนเถิด
เหลือประเสริฐมากดีมีมนตร์ขลัง
คนมาอ่านจะตั้งตาคืนมายัง
ทั้งนอนนั่งรออ่านกลอนตอนต่อไป

สำหรับผมขอจองบทพระเอก
อยู่วิเวกเอกาน้ำตาไหล
หวังmasapaerเป็นขวัญใจ
ต่อกลอนให้แว่วหวานในบ้านกลอน

ยังสอดแทรกเรื่องได้หลายหลายอย่าง
เป็นแนวทางสืบส่งวงอักษร
จะถึงพันนั้นไซร์ไม่อาทร-
นึกหนาวร้อนในใจใช่ไหมเออ
emo_12 emo_12


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 03 มิถุนายน 2010, 10:02:PM
คนอย่างมะสะแปร์แหมไม่เก่ง
จะออดอ้อนกลอนเพลงเร่งเสนอ
กับผู้ใดไหนยากมักไม่เจอ
หรือไม่ก็แบเบลอเผลอเล่นไป

เป็นนักกลอนอ่อนด้อยคอยฝึกหัด
ไม่เด่นรัดตัวเอกเลขตัวไหน
ตัวติดดินชินอย่างง่ายสบายใจ
เรื่องต่อคอพระเอกไทยยังไกลตน     (28)


 emo_25

ขอบคุณคุณดอกกระเจียวจ้า

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_126.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 04 มิถุนายน 2010, 09:50:AM
...มาต่อกลอนคนดังขลังทุกบท
เธองามงดลีลาพาฉงน
กลอนของเธอเกลาจิตลิขิตคน
บนความซนเธอสวยสะ"มะสะแปร์"...(29)

...กลอน"e-no"โชว์ดีฝีมือเฉียบ
ต่อกลอนเนี้ยบนุ่มนวลกวนดีแท้
เขียนกลอนรักได้งดงามยามอ่อนแอ
คือของแท้ไร้เทียมทานคู่บ้านกลอน...(30)

...,มิเอ่ยนามไม่ได้ผู้ใหญ่บ้าน
สร้างตำนานบรรลุอุทาหรณ์
"ลุงปรางค์"อยู่คู่คนกล้ามาทุกตอน
ครูผู้สอนกลอนพาภาษากานท์...(31)

...แค่นี้ก่อนตอนหน้าว่ากันใหม่
จะเลือกใครเป็นพระเอกเสกข้าวสาร
อยากยกให้พี่"ดอกกระเจียว"บาน
แต่"คำหวาน"เขาจองคงต้องชิง...//ทอฝัน(32)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 04 มิถุนายน 2010, 08:05:PM
...คุณ "tingtong"เจ้าของกระทู้อยู่ที่ไหน
เห็นไหมใครเขาดันกลอนมานอนนิ่ง
ทั้งพี่น้องครูบาเขามาจริง
ไข่แล้วทิ้งเดี๋ยวเจอกันวันเธอออน...(33)

...เป็นโอกาสของพวกเราเข้ามาฝึก
คือบันทึกเริ่มต้นมีคนสอน
เขียนทุกวันปันคำลำนำกลอน
ลองเริ่มก่อนเดี๋ยวนี้ที่นี่เลย...//ทอฝัน(34)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 04 มิถุนายน 2010, 10:00:PM
ทอฝันดันกระทู้ดูดีนัก
เล่นแทงกั๊กยักไล่ไม่นิ่งเฉย
ดึงเหล่านามมวลมิตรมาชิดเชย
เอามาเอ่ยล่าไล่ให้เพลินจริง   (35)

ขยันดีแบบนี้มีของแถม
จะหอมแก้มแจมด้วยช่วยกันกลิ้ง
ลากกระทู้ดูมันส์ขันเป็นลิง
หัวใสปิ๊งวิ่งไหลในเพลงกลอน   (36)

จะกะล่อนหลอนใครให้มีลุ้น
เดี๋ยวแม่คุณทอฝันนั้นจะอ้อน
ล่ารายชื่อถือไว้ไม่ยอมนอน
กรนเป็นกลอนตอนนี้จี้หัวใจ  (37)


พี่มะสะแปร์จ้า

 emo_100


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 05 มิถุนายน 2010, 02:31:AM
มาต่อเติมเสริมห้องคล้องประสงค์
แต้มบรรจงลงลักษณ์รูปอักษร
ให้เต็มลานกานท์ถ้อยร้อยสุนทร
งามชะอ้อนออกคำตามใจคิด (40)

เหล่ เล๊ เล๊ เหล่ เรียม เร
เห่เอยเห่ เอ่ช้า... มาใช้สิทธิ์
ช่วยอีกแรงแข็งขันนฤมิต
เพื่อลิขิตบทกลอนให้ครบพัน (41)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แม่ค้าหน้าหวาน ที่ 05 มิถุนายน 2010, 03:12:AM
มาช่วยต่อคำกลอนอ้อนสักนิด
ให้ลิขิตรเป็นไปดั่งใจฝัน
มาขับกล่อมบรรเลงเพลงกลอนกัน
หาใช่ฝันถ้าร่วมกันครบพันเอย (42)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 05 มิถุนายน 2010, 03:20:AM
อีกบทนะอีกบท
ร่วมร่ายพจน์รดรินอวลกลิ่นเอ๋ย
บัดนี้สองเรามารำเพย
ขอเขนยเกยกลอนนอนฝันดี (43)
[/font
]


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: nnn ที่ 05 มิถุนายน 2010, 04:00:PM
  ไข่แล้วทิ้ง  ไม่จริง  ไม่มีหลอก
เลยมาบอก  ยังติดตาม  ความคิดเห็น
แต่ไม่ค่อย  ตอบต่าง  อย่างที่เป็น
เลยว่างเว้น  เช่นนี้  อย่ามีเคือง
 


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 05 มิถุนายน 2010, 04:07:PM
  ไข่แล้วทิ้ง  ไม่จริง  ไม่มีหลอก
เลยมาบอก  ยังติดตาม  ความคิดเห็น
แต่ไม่ค่อย  ตอบต่าง  อย่างที่เป็น
เลยว่างเว้น  เช่นนี้  อย่ามีเคือง..47
 

เจ้าของมา ทำไงหนูดรีมจ๋า
ดันไปว่า เค้าไข่ทิ้ง ชิงหาเรื่อง
นี่มาหยอก ออดแซว อย่าขุ่นเคือง
ไม่อยากเปลือง ค่ายา ปล่อยป้าไป..48


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 05 มิถุนายน 2010, 08:13:PM
...ถ้าไม่ยั่วกลัวไม่มาค่ะ" tingtong"
แหมแอบย่องมาออนเอาตอนไหน
ทอฝันมาไม่ทันไม่เป็นไร
เห็นใครใครเขามาเราหน้าบาน...(49)

...กลเม็ด"เกล็ดนาคา"พาสรวลสรรค์
มาทุกวันนะคนดีมาช่วยสาน
เราจะร่วมเรียงร้อยร่ายถ้อยกานท์
สร้างตำนานหนึ่งนี้ที่บ้านกลอน...(50)

...นั่น"สุวรรณ"มาดันกลอนคนนอนดึก
เห็นแล้วคึกคักใจไหวสะท้อน
อบอุ่นเหลือเยื่อใยใส่บทกลอน
อนุสรณ์แห่งเราย่อมเข้าใจ...(51)

...ปลื้มที่สุดรักแท้คือ"แม่ค้า
โพสต์กลอนมาพร้อมหน้าหวาน"เจ้าขานไข
อย่าทิ้งกันช่วยดันกลอนอ้อนละไม
ช่วยกันให้ครบพันฝันเป็นจริง...(52)

..."หทัยชนก"ยกคำสำนวนเพราะ
ท่วงทำนองไพเราะเสนาะยิ่ง
สัญญาญเน็ตขาดไปไม่ประวิง
สัญญาญใจเรายังวิ่งไม่ทิ้งกัน...(53)

...ได้โปรดเถิดวนเวียนมาเขียนต่อ
อย่าเพิ่งท้อโลเลใจเหหัน
มิตรภาพท่วมทบจนครบพัน
เพื่อยืนยันยืนยงดำรงกลอน...(54)

...พี่"ฮอท"อยู่ที่ไหนไม่มาต่อ
น้องเขารอพี่ชายให้มาสอน
"ปรอท"เปรียวเที่ยวไกลไยตัดรอน
มาต่อกลอนโชว์ด้วยช่วยช่วยกัน...(55)

...ถ้าไม่อยากให้ตามตัวกลัวเสียชื่อ
รีบลงมือร่ายกลอนอ้อนขยัน
ทั้งพี่เก่าน้องใหม่ด้วยนะช่วยกัน
สื่อสัมพันธ์สามัคคีที่บ้านกลอน...ทอฝัน(56)

.......น้องใหม่อยากเก่งรีบๆมาโพสต์ เดี๋ยว"ลุงปรางค์"เค้าโกรธไม่สอนนะฮะ...!!!


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 05 มิถุนายน 2010, 09:43:PM


เมื่อแรกเริ่มเติมฝันเข้าบ้านนี้
ด้วยใจที่ใฝ่ฝันอันฟูเฟื่อง
ดุจแมงเม่าหลงแรงแสงเรืองเรือง
แสนขุ่นเคืองทุกข์เศร้าปวดร้าวใจ(61)

ยังอยู่ยืนคงทน ณ หนนี้
เหมือนแรกที่ย่างกรายไม่ไปไหน
มี เกล็ดนาคา ลุงสายใย
หนุ่มนะโม และใครอีกหลายคน(62)

มีบางท่านห่างหายไม่พบหน้า
อย่างเจ้านาง  พลอยพาคิดสับสน
หมอวฤกก็หายไปอีกคน
อีกรุ่นหลังต่างหลีกพ้นค่อยตามไป(63)

มาถึงเราเข้าทีนี้ยังคิด
จะตามติดหรือเล่าเศร้าไฉน
อินเตอร์เน็ตโลกกว้างหนทางไกล
ทั้งชื่อแซ่เปลี่ยนไปเกินจดจำ(64)

ยังอีกมากหลากชื่อหรือจำหมด
เคยปรากฎชื่อไว้ในโลกล้ำ
ด้วยสังคมกว้างไกลให้ระกำ
จะโน้มนำเหนี่ยวไว้ให้คงเดิม(65)

ขอร่วมแรงแฝงฝากเมื่อยากไร้
อยู่ในบ้านกลอนไทยใจส่งเสริม
ด้วยน้ำใจใฝ่ฝันนั้นต่อเติม
เหมือนแรกเริ่มมิเปลี่ยนไปที่ไหนเลย(66)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 06 มิถุนายน 2010, 09:16:AM
...ตอบทันทีเห็นพี่"เจียว"มาเทียวต่อ
หลายคนรอพี่ชายคลายเฉลย
เพื่อนพ้องเราเก่าใหม่ไม่ผ่านเลย
คนคุ้นเคยสักวันต้องผันมา...(67)

...ชื่อจารึกเป็นตำนานสานต่อแล้ว
เริ่มมีแววผูกพันร่วมหรรษา
คือสิ่งนี้ที่ยิ่งใหญ่ในเจตนา
"ทอฝัน"กล้าบันทึกผนึกคำ...(68)

...ช่วยกระจายข่าวไปถึงใครด้วย
รีบมาช่วยระเลงรัวอย่ามัวขำ
คอลัมล์นิสต์คนเก่าเจ้าประจำ
อย่าลืมคำสัญญามาทุกวัน(นะ)...(69)

...ครบพันบทรวมเล่มคงเข้มข้น
เราทุกคนคือเจ้าของลองดูไหม
บันทึกนี้ชื่อ"ตำนานบ้านกลอนไทย"
ใครเป็นใครเปิดดูก็รู้เอง...(70)

...ต้องไปก่อนเขียนกลอนยาวกว่าเขาแล้ว
เดี๋ยวโดนแซวนอนซมโดนข่มเหง
"หทัยชนก"มาบ่อยบ่อยนะตัวเอง
พี่เริ่มเล็งคล้ายจะรู้หนูคือใคร...//ทอฝัน...(71)



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: nnn ที่ 06 มิถุนายน 2010, 03:56:PM
  กลอนมากมาย  หายสิบ  เขาหยิบเข้า
กระทู้เรา  น่าภูมิใจ  ให้หนักหนา
คุณสานฝัน  ที่ไม่เห็น  เป็นผมมา
หรือคงจา  ลืมเลือน  ขอเตือนใจ
   (กระซิกๆ)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แม่ค้าหน้าหวาน ที่ 06 มิถุนายน 2010, 05:38:PM
ใครจะลืมช่างเขาเราไม่ว่า
แต่ช่วยมาสานต่อจะได้ไหม
เชิญพี่น้องบ้านกลอนไทยมาร่วมใจ
สานแต่งให้ครบพันบทน่าจดจำ  (73)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 06 มิถุนายน 2010, 06:22:PM
..."มนวิภา"มาหรือยังขอฟังเสียง
ส่งสำเนียงเชิงกลอนอ้อนถลำ
อย่าลังเลรีบมาพร้อมยาดำ
พี่ยังจำรสยาเด็ดมันเข็ดใจ...(74)

..."ตุลย์"อยู่ไหนไยเก็บตัวกลัวใครหรือ
ล่ารายชื่อครบแล้วแจวมาได้
บรรเลงกลอนอ้อนมายังคาใจ
รีบมาไขทวนทบให้ครบพัน...//ทอฝัน...(75)
(...ตุลย์....ตุลาทิตย์)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 06 มิถุนายน 2010, 09:14:PM
คุณดรีมเป็น โต้โผ แม่งานใหญ่
เหมากลอนไป กว่าสิบบท อดสงสัย
ครบรึยัง สมาชิก บ้านกลอนไทย
ขาดท่านใด ให้ช่วยคิด รีบติดกลอน..78


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กหนุ่มไม่รู้จักโต ที่ 06 มิถุนายน 2010, 09:20:PM
เห็นเขาว่าแต่งให้ครบจบพันบท         เราก็อดใจไม่ได้ต้องมาเอี่ยว
แต่เสียดายที่หัวผมมันบิดเบี้ยว               ดีแต่เที่ยวหาความสุขไปวันวัน
 emo_85
ชีวิตไร้แก่นสารจริงจริ๊งง   
มั่วอีกแล้วครับผม(79)       


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 06 มิถุนายน 2010, 10:41:PM
...ว่าจะพักสักหน่อยค่อยค่อยต่อ
แต่มันรอไม่ได้คล้ายใครเร่ง
ที่มิเอ่ยนามไปใจยังเกรง
ด้วยคว้างเคว้งตัวเราไม่เก๋าพอ...(83)

...ทั้งใหม่เก่าเชิญพวกเราเข้ามาช่วย
ที่มาแล้วฝากด้วยช่วยกันต่อ
คงไม่ไกลเกินฝันแค่พันพอ
รู้ว่าแคร์แล้วอย่าท้อต้องรอนาน...(84)

...ขอบคุณขาประจำสม่ำเสมอ
มั่นใจเธอทุกนามตามประสาน
ร่วมเรียงร้อยจนเสร็จสำเร็จการ
คือตำนานบ้านกลอนไว้ย้อนเตือน...//ทอฝัน...(85)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 07 มิถุนายน 2010, 09:05:AM
...แปดโมงเช้ารีบเข้าบ้านสานงานต่อ
เพื่อนมารอแสนดีใจคลายสับสน
ไฟฟ้าดับเมื่อตอนดึกนึกกังวล
รีบรานรนส่งน้องเจ้าไปเข้านอน...(97)

...นิยายรักพักอ่านมานานแล้ว
เปลี่ยนอ่านแนวอีโรติคเริ่มริกร้อน
เพื่อสะสมประสบการณ์งานบางตอน
การพักผ่อนของเราคือเฝ้าเรือน...(98)

...สัญญาญหนึ่งส่งถึงตรึงใจมิตร
คล้ายเราคิดตรงกันฝันจึงเหมือน
ขอเพียงเธออย่าร้างไปใจลางเลือน
เพราะเราเพื่อนกันแล้วอย่าแคล้วครา...ทอฝัน...(99)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 07 มิถุนายน 2010, 09:15:AM
...แปดโมงเช้ารีบเข้าบ้านสานงานต่อ
เพื่อนมารอแสนดีใจคลายสับสน
ไฟฟ้าดับเมื่อตอนดึกนึกกังวล
รีบรานรนส่งน้องเจ้าไปเข้านอน...(97)

...นิยายรักพักอ่านมานานแล้ว
เปลี่ยนอ่านแนวอีโรติคเริ่มริกร้อน
เพื่อสะสมประสบการณ์งานบางตอน
การพักผ่อนของเราคือเฝ้าเรือน...(98)

...สัญญาญหนึ่งส่งถึงตรึงใจมิตร
คล้ายเราคิดตรงกันฝันจึงเหมือน
ขอเพียงเธออย่าร้างไปใจลางเลือน
เพราะเราเพื่อนกันแล้วอย่าแคล้วครา...ทอฝัน...(99)

แสนขยัน..ทอฝันสาว..เจ้าอักษร
เจ้าอิงอร..เขียนกลอนเข้า..แต่เช้าหนา
ป้ากุลเลย..มาขอแจม..แช่มอุรา
ไม่นานช้า..คงจะครบ..จบที่พัน(100)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 07 มิถุนายน 2010, 01:55:PM
ขยันจริง ขยันจัง ผลัดกันเขียน
เข้าวนเวียน เขียนอ่าน รวมสานฝัน
เป็นกระทู้ ฮอตฮิต ในทันควัน
เจ้าของพลัน หน้าระรื่น สดชื่นใจ..101

e-no นอนพึ่งตื่น ลืมเข้าบ้าน
ร่างกายพาล เกเร เทเป็นไข้
เลยหมดแรง สมองหดงดงานใด
เห็นสาวใหญ่  น้อยหนุ่ม รุมเขียนกลอน..102

เทพารา กำใหญ่ เข้าใส่ปาก
บ้วนน้ำหมาก คดเคี้ยว  เลี้ยวถึงหมอน
ขอนอนอีกเก็บแรง ไว้ต่อกลอน
เย็น เย็นก่อน พลังร้อน ค่อยเจอะเจอ..103


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: มารเงา ที่ 07 มิถุนายน 2010, 07:00:PM
ปั่นการบ้าน อ่านหนังสือ จนหัวหมุน
ชุลมุน วุ่นวาย จนกายเผลอ
ไปแอบหลับ ยามเรียน เนียนจริงเธอ
เอากลุ่มเกลอ นั่งบัง ฝั่งอาจารย์...104

ในยามนี้ การบ้าน กองสุมหัว
อาจซี้ซั้ว มั่วงาน ตามสังขาร
แต่ขอย่อง มาดู บ้านกลอนกานท์
จากไปนาน คิดถึง ทุกทุกวัน...105

เจอกระทู้ ชวนแต่งกลอน หนึ่งพันบท
ขอแต่งสด ร่วมด้วย ช่วยสร้างสรรค์
ช่วยกันแต่ง ไม่นาน คงครบพัน
ขอทุกท่าน โชคดี ไม่มีภัย...106



จากไปนาน เพราะการบ้าน และงานกรรมการนักเรียน สุมหัวกองโต๊โต
ไม่มีเวลาแวะมาเท่าไหร่
หากว่างเมื่อใด จะแวะเข้ามาขอรับ
คิดถึงบ้านกลอนมากๆๆๆๆ
 emo_116 emo_116

 
 


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 07 มิถุนายน 2010, 08:30:PM

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)
อายุมาก อยากช่วย ด้วยความแก่
มาเล็งแล แต่แย่ง แต่งไม่ไหว
ขอพี่น้อง ผองเพื่อน ช่วยเตือนใจ
มาช่วยให้ ครบพัน  เชิญท่านมา( ๑๐๗)

มาช่วยกัน ผันดิน ของถิ่นเกิด
ให้งามเลิศ เหนือใคร  ที่ในหล้า
ปลูกต้นรัก สามัคคี มีเมตตา
เกิดขึ้นมา ให้ได้ ในครอบครัว( ๑๐๘)

ให้พ่อแม่ แหย่เย้า กระเซ้าลูก
เพื่อพันผูก สายใย ได้ยิ้มหัว
ทำตัวอย่าง ที่ถูก แก่ลูกตัว
อย่าเมามัว มั่วสุม กลุ่มเสี่ยงภัย ( ๑๐๙)

เอาใจใส่ พัฒนา การอาชีพ
ใช่หวังรีบ ร่ำรวย ถูกหวยใหญ่
ควรยึดหลักพอเพียงเลี้ยงกันไป
ให้หัวใจ ล้ำค่า  สูงกว่าเงิน( ๑๑๐)

 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 08 มิถุนายน 2010, 10:59:AM
…เข้าบ้านกลอนวันนี้มีความสุข
ลืมความทุกข์รุกรานมานานเนิ่น
อบอุ่นนักกลิ่นรักหนุนกรุ่นเหลือเกิน
อ่านแล้วเพลินหัวใจในบ้านกลอน...(113)

…เพียงแค่ใจรับรู้ก็หรูแล้ว
มองเห็นแววสานสุขมิซุกซ่อน
รินน้ำใจใสสดรดบทกลอน
เสียงสะท้อนย้อนรักให้พักเรือน...(114)

…อยู่ที่ไหนกันบ้างเคยร้างที่
วอนคนดีทวนทบมาพบเพื่อน
ฝากกลอนไว้ให้จดจำเพื่อย้ำเตือน
เป็นเสมือนคำมั่นสัญญาเรา.../ทอฝัน...(115)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 08 มิถุนายน 2010, 11:57:AM

อยู่ที่ไหนกันบ้างเคยร้างที่
วอนคนดีทวนทบมาพบเพื่อน
ฝากกลอนไว้ให้จดจำเพื่อย้ำเตือน
เป็นเสมือนคำมั่นสัญญาเรา............../ทอฝัน...(๑๑๕)

...มาร่วมแจมแซมถ้อยมาร้อยเพิ่ม
มาต่อเติมเสริมก่อนตอนจะเหงา
คำสัญญาฝากไว้ให้เป็นเงา
คอยบรรเทาเราต่ออย่าท้อไป....(๑๑๖)

...จะเก็บคำย้ำเตือนเสมือนว่า
หมู่ดาราพราวผ่องท่องฟ้าใส
ถึงห่างไกลใต้หล้าสุลาลัย
ส่งดวงใจให้เสมอเธอคนดี.....(๑๑๗)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 08 มิถุนายน 2010, 12:10:PM
..."ตะวันขึ้นตรงนี้ที่ขอบฟ้า
ฉาย"แสงมาเกื้อหนุนอุ่นเหลือที่
น้ำใจรินหลั่งรดบทกวี
ร่วมสรรค์สร้างทางชี้ไมตรีเตือน...(118)

...ส่งกระแสใจตรงไม่หลงทิศ
ใครจูนติดจิตแสดงแฝงความเหมือน
เชื่อมั่นในรักแท้ไม่แชเชือน
กลอนจะเลื่อนเคลื่อนทบจนครบพัน.../ทอฝัน...(119)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กริชอักษร ที่ 08 มิถุนายน 2010, 12:12:PM
ฉันยังอยู่ตรงนี้เพื่อนกลอนจ๋า
ยังไม่ร้างห่างลายังเหมือนเก่านั้น
เพราะมีเธอมีฉันมีเรื่องราวแบ่งปัน
และจะคงอีกยาวนานในบ้านกลอน ๑๒๐

จะว่าไปเธอจ๋ารู้สึกไหม
ไม่ว่าใครมาหลังหรือมาก่อน
มาแบ่งปันงานกวีศรีสุนทร
ยังได้เจอเพื่อนกลอนอีกมากมาย  ๑๒๑

จนคล้ายๆว่าเป็นกิจวัตร
ต่างหมุนผลัดงัดคำมาขยาย
ฉันมาอ่านงานคุณๆเพลิดเพลินใจ
ขอบคุณมากมายที่ให้ความรู้สึกดีๆ   ๑๒๒   














หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 08 มิถุนายน 2010, 11:33:PM
ก่อนหลับตา ขอมาแวะพักหน่อย
บรรจงค่อย เขียนกลอน วอนสงสาร
เขียนไม่ออก บอกเกรงใจ มิตรอาจารย์
ดึกแล้วพาล งานไม่เดิน ว่าเขินจริง..125


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 09 มิถุนายน 2010, 10:12:AM
...อบอุ่นใจหลายครั้งฟังคำมิตร
ร่ายลิขิตซึ้งนักรักหนักหนา
จิตวิญญาญแห่งกวินจินตนา
คือคนกล้ามาร่วมสวมชีวิน...(128)

...ประสงค์เพียงปลุกเร้าเย้าสำนึก
กระตุ้นลึกตามเตือนให้เยือนถิ่น
ใจผ่องแผ้วสะอาดใสย่อมได้ยิน
สลายสิ้นคลางแคลงแสลงใจ...(129)

...หากมุ่งมั่นในสิ่งดีมีคุณค่า
จะเร็วช้าต้องเห็นเป็นไปได้
เราต่างรักสิ่งเดียวกันมั่นหัวใจ
จะร่วมชัยหรือพ่ายแพ้เห็นแก่ตัว...(130)

...สายเข้าบ้านเห็นกลอนกานท์ยิ้มหวานให้
สัญญาใจยืนยงคงเย้ายั่ว
หิวหรือยังตั้งโต้ะไว้แล้วในครัว
แกงสายบัวหม้อใหญ่ให้ได้ลอง.../ทอฝัน...(131)
 


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 09 มิถุนายน 2010, 12:35:PM
แกงสายบัวหม้อใหญ่ไว้คอยท่า
มีทั้งปลาราดพริก แกงเขียนหวาน
น้ำพริกอ่อง แคบหมู ดูน่าทาน
เสร็จยังงาน รีบหน่อย อย่าคอยนาน..132

ข้าวหอมอุ่น นุ่มลิ้นส่งกลิ่นหอม
สาหริ่มพร้อม จัดเสริ์ฟ ออเดริ์ฟหวาน
ท้องร้องบ่อย คอยท่า ว่าคงนาน
งั้นขอทาน ล่วงก่อน อย่าค้อนงอน…133


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ใบลาน ที่ 09 มิถุนายน 2010, 01:12:PM
แกงสายบัวหม้อใหญ่ไว้คอยท่า
มีทั้งปลาราดพริก แกงเขียนหวาน
น้ำพริกอ่อง แคบหมู ดูน่าทาน
เสร็จยังงาน รีบหน่อย อย่าคอยนาน..132

ข้าวหอมอุ่น นุ่มลิ้นส่งกลิ่นหอม
สาหริ่มพร้อม จัดเสริ์ฟ ออเดริ์ฟหวาน
ท้องร้องบ่อย คอยท่า ว่าคงนาน
งั้นขอทาน ล่วงก่อน อย่าค้อนงอน…133

เดินตามกลิ่น กับข้าว ทั้งคาวหวาน
จัดใส่จาน เรียงราย ใครช่างสอน
แต่รีบหา คว้าแก้ว แล้วส้อมช้อน
เพราะe-no มาก่อน ไม่รอใคร................134

ถ้าหยุดมอง พินิจ อาหารศิลป์
คงไม่ทัน ได้กิน หรอกใช่ไหม
เชิญผองเพื่อน วิ่งมา กันเร็วไว
e-noจ๋า ช้าก็ได้ เดี๋ยวติดคอ...................135


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 09 มิถุนายน 2010, 01:51:PM

...มาตามกลิ่นอักษรศิลป์กวินแว่ว
ใจผ่องแผ้วแนวร่วมฮ่วมกันหนอ
เข้ามาตามทรามสมรกลอนลออ
แกงเหลือพอขอสักหน่อยนะกลอยใจ.....(๑๓๖)

...จะมานั่งกินอ่านกับงานศิลป์
ชวนยุพินถิ่นบ้านร่วมจารไข
มาเถอะพ่อน้องพี่เร็วรี่ไว
พิมพ์ต่อไปไม่ลดละนะกวี...................(๑๓๗)

...จะเทียวมาเติมต่อพอไม่เหงา
จะคอยเข้าเฝ้าต้นทางไม่ห่างหนี
จะประคองอักษราให้พาที
จะเปรมปรีดิ์หากเพื่อนพ้องมาคล้องใจ.....(๑๓๘)

...ร่วมเป็นหนึ่งต่อถ้อยมาร้อยกาพย์
เหมือนดั่งภาพวาดมาพาเคลื่อนไหว
มาร่วมด้วยช่วยกันประพันธ์ไป
ทั้งมาใหม่หรืออยู่เก่าลำเนามา................(๑๓๙)

...อาจไม่เพราะเสนาะแว่วไร้แนวส่ง
แต่บรรจงลงถ้อยประดอยหา
หวังต่อเติมมวลหมู่อักษรา
จึงจารมาหวังค่าถ้อยจะร้อยงาม...............(๑๔๐)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 09 มิถุนายน 2010, 10:19:PM


๐ ถอดถ้อยถัก รักจด เป็นพจน์พร่ำ
ทุกน้ำคำ ย้ำเตือน  กับเพื่อนหนอ
อยู่ตรงนี้ มีใจ รักใฝ่รอ
เขียนกลอนต่อ ล้อกัน......ทุกวันไป....(๑๔๓)



แบบว่า.....ไม่รู้สิครับ ขอแจมด้วยคน  หุหุ

    emo_12

(http://img117.imageshack.us/img117/6945/7466bp0.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: boomarang ที่ 09 มิถุนายน 2010, 10:34:PM
ปลายปากกาจรดไว้หัวใจสั่น
มาแต่มแต้มแกมพู่กันพรั่นหวั่นไหว
จรดรอยดินสอด้วยท้อใจ
นานเท่าไหร่จึงจะไปถึงฝันเรา ( ๑๔๔ )


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 10 มิถุนายน 2010, 10:42:AM
...แสนดีใจไชโยโอ้โหซึ้ง
หลายคนซึ่งจุนเจือมาเอื้อฝัน
มาถักทอเรียงถ้อยร้อยรำพัน
ล้วนอิ่มหมีพีมันในวันนี้...(146)

...เมื่อวานนี้ฝนตกอกใจสั่น
ทำทอฝันเปียกปอนวอนเพื่อนพี่
หาหยูกยามาให้แก้ไข้ที
วันพรุ่งนี้ค่อยมาอ้อนกลอนยาวยาว.../ทอฝัน...(147)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 10 มิถุนายน 2010, 11:29:AM

...เข้ามาส่งยารักจะรับไหม
ทิพฟี่ไงมาทีหลังทั้งผ้าขาว
มาซับให้ไข้ลดทดบางคราว
ได้อ้อนยาวตอนหายหมายหมู่กลอน...........(๑๔๘)

...อันตัวเราเป็นไข้ก็ใกล้หาย
แต่สลายที่ใจยังไถ่ถอน
เจ็บหลายปีมิคลายวายอาวรณ์
ยังร้าวรอนตอนเขาจากยังบาดใจ..................(๑๔๙)

...ใช้ยาใดก็ไม่หายคลายความเศร้า
จะบรรเทาเงาจางทางหวั่นไหว
ให้เวลาเลียแผลที่แช่ใน
ยาขนานใดที่ใจใช้บรรเทา..........................(๑๕๐)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: N ที่ 10 มิถุนายน 2010, 12:39:PM

...เข้ามาส่งยารักจะรับไหม
ทิพฟี่ไงมาทีหลังทั้งผ้าขาว
มาซับให้ไข้ลดทดบางคราว
ได้อ้อนยาวตอนหายหมายหมู่กลอน...........(๑๔๘)

...อันตัวเราเป็นไข้ก็ใกล้หาย
แต่สลายที่ใจยังไถ่ถอน
เจ็บหลายปีมิคลายวายอาวรณ์
ยังร้าวรอนตอนเขาจากยังบาดใจ..................(๑๔๙)

...ใช้ยาใดก็ไม่หายคลายความเศร้า
จะบรรเทาเงาจางทางหวั่นไหว
ให้เวลาเลียแผลที่แช่ใน
ยาขนานใดที่ใจใช้บรรเทา..........................(๑๕๐)







แม้ไข้ใจได้ยาคงว่าหาย
และได้ยาคลายใจคงคลายเหงา
แต่ยาใดจักคลายโศกในอกเรา
คิดถึงเขาเศร้าประจำทุกค่ำคืน..................๑๕๑

อกก็หนักหนักใจใจช้ำรัก
อกคงหักหักใจใจต้องฝืน
เศร้าเพราะรักรักไหม้ไม่ได้คืน
คงต้องฝืนฝืนใจใจจงจำ...........................๑๕๒

เห็นความเก่าเศร้าใจไปสะกิด
หวนไปคิดคิดไปใครคงขำ
เจ็บในอกเศร้าจังดังเสี้ยนตำ
เคยคู่คำเคียงข้างไม่ห่างกาย.....................๑๕๓


เข็ดขยาดชาติชายเคยใกล้ชิด
เข้าใจผิดผิดใจใจจึงหาย
ได้แต่มองเศร้าเสียบเสียดร่างกาย
ดุจจะตายเจ็บแสนแค้นในใจ......................๑๕๔


ใครมียาโปรดช่วยเราป่วยจิต
สุดจะคิดทานทนทนไม่ไหว
โปรดให้ยามาช่วยเราป่วยใจ
อยากจะได้คนใจดีที่มียา...............................๑๕๕



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 11 มิถุนายน 2010, 10:52:AM
...ใครเรียนหมอขอยาเอามาด้วย
มีผู้ป่วยในบ้านเราเขาถามหา
ด้วยไข้ใจเร้ารุกซุกอุรา
หลงทางมาหาหลักที่พักพิง...(156)

...พี่" e-no" โชว์ตัวด้วยช่วยกันหน่อย
น้องไม่ค่อยเป็นประสายาทุกสิ่ง
ยาอยู่ไหนไม่รู้เลยจริงจริง
ลุง"สายใย"เขาก็นิ่งไม่ยอมมา...(157)

...พี่"เมฆา"เดินไวไวเรียกไว้ด้วย
ให้มาช่วยกันด้นรีบค้นหา
อย่าให้ถึงหู"ลุงปรางค์"เข้าเชียวนา
รีบรักษาให้ทันก่อนผันแปร.../ทอฝัน...(158)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 11 มิถุนายน 2010, 11:37:AM
e-no ขอลาล่ะ อย่าให้ช่วย
ตัวยังม้วย ช่วยไม่รอดจอดแน่แท้
โถ!! ทอฝันผู้เก่งกาจ..ไยอ่อนแอ
อย่ายอมแพ้ช่วยแก้ก่อน..นอนกลางวัน..159


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 11 มิถุนายน 2010, 11:57:AM
เสียงท้องร้องดังจ๊อกมองตาลิ่ว
เที่ยงแล้วหิวตาลายคล้ายกับฝัน
ทอฝันจ๋าเลี้ยงข้าวเที่ยงหน่อยแล้วกัน
ช่วยแบ่งปันสักสามจาน งานจึงเดิน..160

จะสั่งยาลดสวยช่วยทอฝัน( ทดแทนค่าข้าวน่ะ)
หนุ่มติดพันขวัญผวาดูเขอะเขิน
คงกลุ้มใจในความงามว่ามากเกิน
มารีบเดิน เชิญมาลองก่อนสวยไป..161

แต่ถ้าไม่เลี้ยงข้าว จะเข้าฝัน
ทั้งกลางวันกลางคืน สะอื้นไห้
ปีศาจมาสามตัว ระทมใจ
ให้กลับกลายเป็นชายหนุ่มมารุมตอม..162

(http://i374.photobucket.com/albums/oo185/khate-khate/a150.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 11 มิถุนายน 2010, 12:26:PM
...หิวข้าวแล้วเหมือนกันฝันผวา
ต้องเลี้ยงข้าวขวัญตาแทนยาหอม
กลัวเธอเข้าฝันมาพาหนุ่มตอม
จึงต้องยอมเสียตังค์เพราะยังกลัว...(163)


...นึกขึ้นได้"ตะวันฉาย"นัดไว้ว่า
ร้าน"แม่ค้า"วันนี้มีตำซั่ว
ชวน"หทัย"ไปด้วยช่วยกันรัว
"tingtong" ยั่วยืนรอหน้ามอ"โม".../ทอฝัน...(164)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 11 มิถุนายน 2010, 12:33:PM

      อันลำพัง ตัวกระผม ก็ลมจับ
  จะให้รับ จับไว้ ไข้หนาวสั่น
  ยังแสวงหา ยาหยูก อยู่ทุกวัน
  มารักษา อาการสั่น ครั่นหัวใจ...(165)

      จนป่านนี้ วี่แวว ยังแห้วอยู่
  ห้องหัวใจ ไร้คู่ ก็ถูไถ
  หลบเลียแผล แก้ช้ำ อย่างทำใจ
  คงช่วยใคร ได้ยาก หากจำเป็น...(166)
 
      ถ้าจะเน้น เห็นปลอบ พอตอบได้
  แต่เรื่องแผล แก้ไข ให้ยากเข็ญ
  เอาเป็นว่า แก้ขื่นขม ชานมเย็น
  ผมจะเข็น ไปฝาก หากบรรเทา...(167)
 
     ใครจะเอา กล่าวคือ ยกมือขึ้น
  แก้ความหลง งงมึน มึนพร้อมเศร้า
  จะชงให้ ใส่บัวบก กระดกเอา
  แล้วความเหงา จะเบาบาง อย่างชื่นใจ....(168)  ***เมฆา...***
 
 
   

   
   
 


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 11 มิถุนายน 2010, 12:39:PM
ช้างกระทืบโล่ง..สามเป๊กรินใส่ขวด
คงหายรวด ปวดร้าว หนาวจับไข้
ร้อนถึงหู ดูท่า หายเศร้าใจ
มารีบไป กินตำซั่ว...มัวลีลา..169

ขอเผ็ด เผ็ด แสบทะลุผุลำไส้
สั่งเผื่อไว้ ห้ามใครแตะแม่ถามหา
นั่งรอกัน ใจเย็น รอ e-no มา
รีบบึ่งหนา หกร้อยโล โถ....ไม่นาน..170


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ฌลา ที่ 11 มิถุนายน 2010, 01:31:PM


มองซ้ายขวา ไม่เห็นแวว แจวเข้าใกล้
รี่เร็วไว รีบคว้าไว้ ก่อนใครหัน
ตำใครหว่า ขอจกมา ก่อนสักจาน
ใครถามหา ก็ช่างมัน ซัดเร็วไว................171

e-noจ๋า โปรดหนา อย่าโกรธฉัน
ก็รอนาน ท้องกิ่ว ทนหิวไม่ไหว
นะe-no หกร้อยโล มันยังไกล
ขอกินนำ ก่อนได้ไหม ไม่ไหวจะรอ.....................172 



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดินแล้งหมดแรงใจ ที่ 11 มิถุนายน 2010, 02:25:PM
ใยเล่า ไกลนัก จักถึงฝั่ง
มาร่วมนั่ง นึกคิด ประดิษฐ์หา
จับอักษร มาร้อย เป็นถ้อยทา
ร่วมสรรหา กลอนรัก จักถึงพัน (๑๗๓)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: boomarang ที่ 11 มิถุนายน 2010, 04:45:PM
หากร่วมกันเรียงร้อยถ้อยผสาน
คงไม่นานก็จะไปถึงฝั่งฝัน
จากหนึ่งสิบรวมร้อยสายกลายเป็นพัน
ถึงวันนั้นความฝันคงเป็นจริง ( ๑๗๔ )


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 11 มิถุนายน 2010, 05:09:PM
หมู่มวลมิตร คิดสงสารพามาต่อ
ไม่นานก่อ กำเนิด ประเสริญสิ่ง
เกือบครบพัน ไม่นานเกินอย่าประวิง
มิตรไม่นิ่ง ยังรีบนับขับคำกลอน...๑๗๕

หมวดกลอนรัก เราทำมันซะมั่ว
e-noกลัว ไม่ถึงฝันพลันหลอกหลอน
จึงผันแปรกลอนบ้าง..อย่าตัดรอน
ทอฝันนอน..ตื่นแล้ว รีบแจวมา..๑๗๖

ปล่อยเราทำงานหนัก อยากพักหน่อย
ทำเป็นคอยเมียงมอง ลอบมองหา
นอนตื่นเถิด เย็นย่ำ ค่ำแล้วหนา
รีบ รีบมา ใกล้จะเมื่อย เลื้อยต่อเวร....๑๗๗
... emo_26 emo_101 รักหรอกจึงหยอกเล่น..


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 11 มิถุนายน 2010, 08:13:PM
หมู่มวลมิตร คิดสงสารพามาต่อ
ไม่นานก่อ กำเนิด ประเสริญสิ่ง
เกือบครบพัน ไม่นานเกินอย่าประวิง
มิตรไม่นิ่ง ยังรีบนับขับคำกลอน...๑๗๕

หมวดกลอนรัก เราทำมันซะมั่ว
e-noกลัว ไม่ถึงฝันพลันหลอกหลอน
จึงผันแปรกลอนบ้าง..อย่าตัดรอน
ทอฝันนอน..ตื่นแล้ว รีบแจวมา..๑๗๖

ปล่อยเราทำงานหนัก อยากพักหน่อย
ทำเป็นคอยเมียงมอง ลอบมองหา
นอนตื่นเถิด เย็นย่ำ ค่ำแล้วหนา
รีบ รีบมา ใกล้จะเมื่อย เลื้อยต่อเวร....๑๗๗
... emo_26 emo_101 รักหรอกจึงหยอกเล่น..

มาขอต่อ..หนออีกนิด..คิดอยากช่วย
น้องอุ้มสวย..ป้าช่วยต่อ..ขอตาเถร
ส่วนเจ้าดล..ไม่พ้นได้..ให้บวชเณร
เจ้าอุ้มเวร..เป็นเพราะหนุ่ม..รุมขอมา..๑๗๘

หมวดกลอนรบ..ขอขบคิด..มาชิดชก
ป้ากุลขอ..ต่อหลายยก..ชกช่าช่า
หรือจะชก..วกจังหวะ..มารุมบ้า
แล้วค่อยมา..ท่าประเลง..เพลงไทยเดิม..๑๗๙

หากลุงเวบ..เห็นดี..มีกลอนรบ
ชกสยบ..คนใจร้าย..ให้หมวดเพิ่ม
จะได้ชก..หลายยกไง..ใครจะเติม
ป้ากุลเหิม..ฮึกนัก..รบยักษ์มาร..๑๘๐
(อิอิอิ..แบบว่า..รบหนักไปหน่อย..ขออภัยนะคะลุงเวบ..ประสาคนแก่..สาวๆอย่างหนูอุ้มเขาถึงจะอยู่หมวดกลอนรัก)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: nnn ที่ 12 มิถุนายน 2010, 03:14:PM
มาต่อกร  หรือต่อกลอน  เราควรคิด
ว่าชีวิต  ถูกลิขิต  เป็นแบบไหน
ต้องต่อกร  กับผู้อื่น  หรืออย่างไร
หรือเอาใจ  ใช้ต่อกลอน  เติมเต็มกัน


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดินแล้งหมดแรงใจ ที่ 12 มิถุนายน 2010, 05:34:PM
หมู่มวลมิตร คิดสงสารพามาต่อ
ไม่นานก่อ กำเนิด ประเสริญสิ่ง
เกือบครบพัน ไม่นานเกินอย่าประวิง
มิตรไม่นิ่ง ยังรีบนับขับคำกลอน...๑๗๕

หมวดกลอนรัก เราทำมันซะมั่ว
e-noกลัว ไม่ถึงฝันพลันหลอกหลอน
จึงผันแปรกลอนบ้าง..อย่าตัดรอน
ทอฝันนอน..ตื่นแล้ว รีบแจวมา..๑๗๖

ปล่อยเราทำงานหนัก อยากพักหน่อย
ทำเป็นคอยเมียงมอง ลอบมองหา
นอนตื่นเถิด เย็นย่ำ ค่ำแล้วหนา
รีบ รีบมา ใกล้จะเมื่อย เลื้อยต่อเวร....๑๗๗
... emo_26 emo_101 รักหรอกจึงหยอกเล่น..

มาขอต่อ..หนออีกนิด..คิดอยากช่วย
น้องอุ้มสวย..ป้าช่วยต่อ..ขอตาเถร
ส่วนเจ้าดล..ไม่พ้นได้..ให้บวชเณร
เจ้าอุ้มเวร..เป็นเพราะหนุ่ม..รุมขอมา..๑๗๘

หมวดกลอนรบ..ขอขบคิด..มาชิดชก
ป้ากุลขอ..ต่อหลายยก..ชกช่าช่า
หรือจะชก..วกจังหวะ..มารุมบ้า
แล้วค่อยมา..ท่าประเลง..เพลงไทยเดิม..๑๗๙

หากลุงเวบ..เห็นดี..มีกลอนรบ
ชกสยบ..คนใจร้าย..ให้หมวดเพิ่ม
จะได้ชก..หลายยกไง..ใครจะเติม
ป้ากุลเหิม..ฮึกนัก..รบยักษ์มาร..๑๘๐
(อิอิอิ..แบบว่า..รบหนักไปหน่อย..ขออภัยนะคะลุงเวบ..ประสาคนแก่..สาวๆอย่างหนูอุ้มเขาถึงจะอยู่หมวดกลอนรัก)



ฮ้า ฮ้า ฮ้า ดูปา ช่างเก่งนัก
จะกลอนรัก กลอนรบ สยบหา
มีแรงหรือ จะไปชก เป็นยกยา
อยู่นิ่งๆ ดีกว่า ป้ากุล ...(๑๗๙)



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 12 มิถุนายน 2010, 07:35:PM
เจ้าสาวๆ..เหล่ากวี..ศรีสง่า
จะให้ป้า..ไม่กล้าชก..ปาครกไหม
แค่ฟุทเวิร์ค..ตามจังหวะ..ชะช่าไง
เพราะว่าไขมันเยอะ..เชอะอ้วนจัง...๑๘๕
.
แค่มาเต้น..เป็นจังหวะ..หามิได้
มิต่อกร..ค้อนไป..ให้รู้มั่ง
อย่ารังแก..คนแก่เฒ่า..เฝ้าระวัง
เพียงมานั่ง..ต่อกลอนกานท์..สานสัมพันธ์..๑๘๖
.
เหล่ากวี..ที่บ้านไทย..น้ำใจนั้น
มาร่วมกัน..ได้พันครบ..จบสนั่น
อีกแปดร้อยบทกว่าๆ..มาช่วยกัน
วันไหนคัน..ป้ายันต่อ..ขอกานท์กลอน..๑๘๗
..
อิอิอิ..ไม่คัน..แต่งไม่ออกนะสาวๆ..แก่แล้วนิ่งมากไป..ตะคริว..ขอรบแบบออกกำลัง..หมอสั่งจ้า
มิสามารถกลับไปหุ่นดีแบบสาวๆแล้ว..ลดมากสุดได้ ๕๕..ประมาณ..ตอนป้าสาวๆ..๔๕..มันมาจากเจ้าดล..เอิ๊กๆๆ


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 12 มิถุนายน 2010, 11:14:PM
(http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/33.gif)

หนึ่งนาทีที่ฉันนั้นนอนหลับ
กลอนขยับกลับตื่นกลืนฟ้าสาง
ลำนำพจน์จรดพันนั้นไม่วาง
ด้วยฝันต่างมุ่งมั่นกลั่นออกมา  (19 1 )

อ่านกลอนได้ให้ยิ้มแซมปริ่มแก้ม
สีสันแต้มลานกวีมีคุณค่า
ขอให้หลั่งกวีกานท์ธารธารา
สมตั้งตาเหล่าท่านผู้บรรเลง  (192)


(http://yamiejung22.webs.com/photos/DD1/53.gif)

(http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/33.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 12 มิถุนายน 2010, 11:26:PM
อยากให้คลายปลายทางสว่างไส
กลัวมิตรไร้ใครสู้คอยอยู่ข้าง
ไร้ความสุขทุกข์ในโลกเศร้าโศกจาง
อันทางร้างอ้างว้างแท้ ไม่แน่นอน..193

มองหันกลับลับตานี่หนาเพื่อน
ไม่เคยเลือนเชือนมิตรที่คิดสอน
อันความจริงสิงสู่ดูอาวรณ์
หากเหนื่อยอ่อนวอนพัก...อย่าหนักใจ..194

สัมผัสหายซะแล้ว...ไม่ทันคุณมะสะแปร์....เร็วจริงๆ... emo_85


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดินแล้งหมดแรงใจ ที่ 13 มิถุนายน 2010, 06:25:AM
สู้ สู้ สู้  สู้ตาย เอาไว้ก่อน
อย่ามัวนิ่ง มัวนอน ก่อนหลับฝัน
มาร่วมขีด ร่วมข่วน สำนวนพลัน
จะได้ไกล้ ถึงฝัน กันสักที


emo_90


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ปากะญอ ที่ 13 มิถุนายน 2010, 12:16:PM

มาร่วมด้วยช่วยกันผันอักษร
ผมคนจรวอนคำนำสักขี
มาต่อบทจดถ้อยร้อยวลี
ส่งวจีทีละบทมาจดจาร............(๑๙๘)

หวังต่อเติมเพิ่มคำนำเสนอ
แต่กลับเผลอไม่เพราะเสนาะขาน
อยากร่วมด้วยช่วยนำคำสราญ
จึงอาจหาญจารถ้อยแล้วค่อยไป.........(๑๙๙)

อยากให้ถึงฝั่งพันวันข้างหน้า
ต่อบทมาไม่เยอะกลัวเลอะไข
กลอนผมมันไม่เข้าท่าอย่าว่าไป
โปรดอภัยในกลอนกาพย์ที่ทาบมา...........(๒๐๐)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 13 มิถุนายน 2010, 02:46:PM
...สองร้อยบทผ่านแล้วต้องแจวต่อ
แม้เจ็บคอครางครวญจวนจะล้า
จ๋อยเลยลิงทะโมนโดนฉีดยา
พอไข้ซามาเร่งรำระบำกลอน...(201)

...เพื่อนพี่เรามากันตรึมซึมไม่ได้
แอบอู้ไปหลายวันมันรุ่มร้อน
ขยับเลื่อนเคลื่อนเข้มเต็มทุกตอน
สื่อสะท้อนสบทบใกล้ครบพัน.../ทอฝัน...(202)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 14 มิถุนายน 2010, 09:01:AM

...มาต่อกลอนร้อยกานท์ร่วมจารไข
น้องคนไกล อย่าตัดพ้อ ท้อเลยหนา
ส่งแรงใจ ให้เจ้า รีบเข้ามา
รีบบึ่งพา อักษร วอนคนไกล...........(๒๐๖)

...อย่าเพิ่งจร แดนดง พงไพรสัณ
ร่วมแบงปัน อักษรา ให้พาไหว
แม่นางฟ้า ยาวี พาทีไป
มิตรของใจ  ยังคอย ที่ซอยเดิม.........(๒๐๗)

...ซอยประจำบ้านกลอนคือตอนเศร้า
เหมือนซอยเข้า...ใจขาด...เฝ้าบาดเสริม
กลอนรสรัก ขาดไป  ใครจะเติม
จะประเดิม  ให้หายขาด รอยบาดใจ.......(๒๐๘)

...มาเถิดน้องมาต่อร่วมทอฝัน
อ้อนบทกันวันละนิดจิตแจ่มใส
ต่างเข้ามาว่ากลอนอย่าจรไกล
ส่งมิตรใจให้เจ้าเฝ้าตามมา...................(๒๐๙)

...ยังมีเพื่อนน้องพี่มวลหมู่มิตร
ช่วยลิขิตนิมิตฝันครันห่วงหา
ส่งออดอ้อนกลอนแว่วเป็นแนวพา
บ่งรอท่าว่าตอบรับขับกลอนกล................(๒๑๐)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: มังกรเดียวดาย ที่ 14 มิถุนายน 2010, 09:12:PM
โอ้ว!!พันบทเยอะแยะยากแกะอ่าน
ต่างผลงานต่างกวีหลากสีสัน
มารายร้อยเรียงถ้อยให้ครบพัน
ขอตามด้วยสักอันก็ยังดี.....(๒๑๑)  emo_28







หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 15 มิถุนายน 2010, 05:30:PM
...สุดตระหนกอกหวั่นขวัญผวา
เจ้าหทัยกัลยามาล้าหนี
เชื่อมสัมพันธ์แต่วันแรกแจกไมตรี
สาวยาวีฟังพี่หน่อยอย่าน้อยใจ...(212)

...กลอนของน้องฟ้องคำล้ำสาระ
ช่างฉานฉะชั้นเชิงระเริวไหว
พี่ตะวันยืนยันย่อมฝันไกล
ทั้งเก่าใหม่ใครอ่านล้วนขานชม...(213)

...ทุกท่วงทีลีลาน่าเรียนรู้
ใช้เป็นครูลำนำกานท์ผสานสม
พี่ทอฝันนั้นรักเจ้าเฝ้านิยม
ด้วยเห็นคมเหลี่ยมเพชรแท้จึงแน่ใจ...(214)

...ล้วนวับวาวพราวแพรวแววสลอน
ในบ้านกลอนมีครูบามาขานไข
ลองเขียนซีพี่เพื่อนหนุนเราอุ่นใจ
บันทึกไว้ให้ครบจบที่พัน.../ทอฝัน...(215)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 16 มิถุนายน 2010, 06:44:PM
...เวียนมาดูประตูบ้านผ่านสวนซุ้ม
แวะหลบมุมพักร้อนแล้วร่อนฝัน
ใครเดินผ่านขานขับรับจำนรร
มาช่วยกันต่อกลอนอ้อนวจี...(216)

...คงอีกหลายเพ-ลากว่าจะครบ
หนึ่งพันจบเจนทางพร่างวิถี
กระทู้เศร้าเหงาร้างบ้างบางที
วอนเพื่อนพี่ปลุกใจให้ไฟคืน...(217)

...พิกุลโรยโปรยพวงร่วงชานบ้าน
กลิ่นสะอ้านเคล้าปรุงจรุงรื่น
ปีบสลัดดอกขาวพร่างพราวพื้น
บัวเผยตื่นฟื้นกลับรับตะวัน...(218)

...จวบเย็นย่ำค่ำแล้วแว่วเพลงซึ้ง
ระนาดคลึงครวญครางทางเพลงผัน
พิรุณร่ำนำมิตรชิดสัมพันธ์
ร้อยเรียงฝันปันพจน์เพื่อจดจาร.../ทอฝัน...(219)





หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดินทราย ที่ 16 มิถุนายน 2010, 07:05:PM


แด่กวีที่ซ่อนในกลอนเก่า
แอบเห็นเงาเจ้าเอ่ยเสียงเปรยหวาน
คงมีสุขสนุกดีที่ปั้นกานท์
ขอวิญญาณท่านสุขหมดทุกข์เทอญ.......(220)
 



****ไม่เพราะนะค่ะ หนูพึงฝึกแต่งจะพยายามค่ะ****

   emo_79


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 16 มิถุนายน 2010, 07:17:PM
...เอางั้นเลยหรือน้อง"ดิน"กวินน้อย
ส่งวิญญาณพี่ลอยระหกเหิน
กลอนของน้องไพเราะเพราะเหลือเกิน
จึงขอเชิญขึ้นเรือนเป็นเพื่อนเกลอ.../ทอฝัน...(221)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ๐นายกระจอก๐ ที่ 16 มิถุนายน 2010, 07:54:PM
ขอต่อเติม๐๐๐แต่งแต้ม๐๐๐แถมอีกบท๐๐๐
ด้วยมธุรส๐๐๐บทกลอน๐๐๐ออดอ้อนฉันท์๐๐๐
เพิ่งเป็นกวี๐๐๐ฝึกหัด๐๐๐ไม่กี่วัน๐๐๐
ข้อร่วมปั้น๐๐๐กลอนบท๐๐๐ให้ครบพัน๐๐๐
ฝากเนื้อฝากใจกับพี่ท่านทุกคนที่เป็นกวีด้วยครับผม


 emo_62 emo_62 emo_62 emo_62


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ส่วนเกิน ที่ไร้ค่า ที่ 16 มิถุนายน 2010, 07:57:PM
ถึงพันบทหมื่นบทก้อไม่ท้อ
ไม่ต้องรอให้ใครไหนมาช่วยสร้าง
ให้โลกรู้ว่าบ้านกลอนไม่เคยร้าง
ไม่เคยห่างหนีไปไกลจากบทกลอน  (225)

ในบ้านกลอนมิตรไมตรียังคงอยู่
อยากให้สู้ต่อไปอย่าใจร้อน
ใจเย็นเย็นแล้วนั่งคิดประพันธ์กลอน
เอาไว้สอนต่อสานกานต์กวี   (226)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 16 มิถุนายน 2010, 08:07:PM
ยังเหลืออีกหลายร้อยจะคอยนับ
มาร่วมขับสับเว้น อย่าเร้นหนี
เริ่มเห็นลางสร้างฝัน ..พันวลี
วอนน้องพี่ หนีห่าง อย่าร้างนาน..227


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 16 มิถุนายน 2010, 09:05:PM
แม่หทัยใจงาม นามก็เพราะ
เรียงรายเหมาะเคาะส่งประสงค์ศรี
ชวนเพื่อนพ้องร้องขับ สดับที
สาวแสนดี พี่อวย ให้สวยวัน....(231)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 16 มิถุนายน 2010, 11:00:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)

หทัยชนก แปลได้ ดวงใจพ่อ
e-no ก็ แปลได้ ดวงใจฉัน
เอ๊ะนี่แปลไปได้ อย่างไรกัน
แล้วตัวฉัน ไปไหน อย่างไรนะ (๒๓๒)

 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 17 มิถุนายน 2010, 10:08:AM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)
 
แค่กระเซ้า เย้าเล่น เช่นน้องนุ่ง
แหมว่าลุง เร่งรีบ มาจีบได้
หทัยชนก น้องก็แน่ ไม่แพ้ใคร
แต่อยู่ไกล ไปหา เปลืองค่ารถ...(๒๓๔) อิ อิ 
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 17 มิถุนายน 2010, 10:45:AM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)
 
ความอดอยาก ยากแค้น แม้นเคืองขัด
ไม่อึดอัด เท่าภัย ที่ใครมุ่ง-
หมายให้ร้าย ป้ายสี ตีนังนุง
ทั้งเมืองกรุง เมืองไกล ไม่ร่มเย็น (เลยเนอะ)(๒๓๖)
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 17 มิถุนายน 2010, 10:58:AM
อยู่อีกถิ่น ดินนี้ ยังมีสุข
ไร้เรื่องทุกข์ ปลุกป้าย มิคล้ายเห็น
ไม่สดสวย รวยทรัพย์ ไม่ลำเข็ญ
ยังคงเป็น เช่นถิ่น ดินเมืองทอง....(237)  


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 17 มิถุนายน 2010, 04:24:PM
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif[/url])
 
ความอดอยาก ยากแค้น แม้นเคืองขัด
ไม่อึดอัด เท่าภัย ที่ใครมุ่ง-
หมายให้ร้าย ป้ายสี ทีนังนุง
ทั้งเมืองกรุง เมืองไกล ไม่ร่มเย็น (เลยเนอะ)(๒๓๖) (ลุงสายใย)
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif[/url])

อยู่อีกถิ่น ดินนี้ ยังมีสุข
ไร้เรื่องทุกข์ ปลุกป้าย มิคล้ายเห็น
ไม่สดสวย รวยทรัพย์ ไม่ลำเค็ญ
ยังคงเป็น เช่นถิ่น ดินเมืองทอง....(237) (e-no)

ที่สุไหง- ปาดี ยามนี้เกิด
มีระเบิด เกิดคลั่ง ไปทั้งผอง
ให้เหน็บหนาว เช้า-ค่ำ ถูกจำจอง
อยู่ในห้อง มองฝ้า กับฝาเรือน.......(238)

ใต้ร่มเย็นเป็นแค่ตัวหนังสือค่ะลุงสายใย
ชีวิตจริงนั้นมันคนละเรื่องค่ะ
เสียงปืนเป็นเสียงเพลง
เสียงระเบิด
ไว้กล่อม
เด็กค่ะ


 
อยู่แห่งหน ตำบลใด ขอให้รู้
ยังยืนอยู่ คู่เคียง เยี่ยงมิตรเพื่อน
กำลังใจ ใส่ห่วง ร้อยดวงเดือน
ส่งย้ำเตือน เหมือนเคย เอ่ยจากทรวง...(๒๓๙)
   จะเหนือใต้ ออกตก วกอิสาน
ก็เรือนชาน บ้านไผท ของในหลวง
จักร่มเย็น เป็นไป ไทยทั้งปวง
ด้วยบารมี ที่พ่อหลวง ทรงห่วงเรา...(๒๔๐)
   อย่าได้หวั่น สิ่งใด ''หทัย''จ๋า
ความห่วงหา อาทร คอยอ้อนเฝ้า
ลุงสายใย ให้ข้อคิด พินิจเอา
พร้อมกระเซ้า เย้าแหย่ แต่จริงใจ...(๒๔๑)
  ทั้งพี่อุ้ม (e-no)ซุ่มสวย ยังช่วยเสริม
เหมือนคอยเติม เพิ่มห่วง ให้ดวงใส
และอีกมาก ฝากมา แม้ว่าไกล
จะคอยเฝ้า ส่งใจ ไปนราฯ....(๒๔๒)  (เมฆา...)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 17 มิถุนายน 2010, 08:09:PM
...เห็นพี่เพื่อนเยือนเรือนกลอนนอนไม่หลับ
ต้องขยับแป้นอักษรมาวอนหา
น้องหทัยพี่สายใยพี่เมฆา
พี่อีโนพลังศรัทธามาทุกคน...(243)

...ดื่มน้ำเย็นกันก่อนนอนพักได้
จากเหนือใต้เดินทางกลางแดดฝน
โน่นป้าหมูป้ากันนาสาระวน
เข้าครัวชนฝีมือระบือไกล...(244)

...อย่ารีบกลับกินข้าวก่อนตอนบ่ายจัด
ป้ากุลหัดชงชาเอามาให้
บัวลอยไข่หวานบ้านกวีที่ซื้อไว้
รับน้องใหม่พึ่งเข้าสู่เหย้าเรือน.../ทอฝัน...(245)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ส่วนเกิน ที่ไร้ค่า ที่ 17 มิถุนายน 2010, 08:26:PM
ค่ำคืนนี้ขออวยพรให้ทุกท่าน
ที่ขับขานบทกวีและเพื่อนเพื่อน
วานท้องฟ้ารวมถึงหมู่ดาวเดือน
ขอให้เพื่อนของข้านั้นฝันดี  (246)

 
ก้อขอให้ฝันดีกันถ้วนหน้า
ทั้งพี่ยาผองเพื่อนให้สุขศรี
ขอความสุขทั่วโลกาเท่าทีมี
ให้อยู่ดีมีสุขทั่วหน้ากัน  (247)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 17 มิถุนายน 2010, 08:59:PM

(http://i230.photobucket.com/albums/ee70/chongter_group/Articles/general/Dream/02.jpg)


ชื่อทอฝัน ฟังแล้วเพราะ เสนาะหู
ใคร่มาดู รู้แจ้ง ให้เห็นจริง
แต่งกลอนครบ พันบท ใจประวิง
รอน้องหญิง ให้ฝันใฝ่ ใจละเมอ...(248)

ถึงทอฝัน นวลน้อง ประชันกลอน
เจ้าเว้าวอน พี่ยา ให้คราใจ
แพ้ชนะ ใช่สำคัญ ที่เยื่อใย
ถึงยังไง พี่ก้อแพ้ น้องอยู่ดี...(แพ้ใจ นะคับ..)(249)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดินทราย ที่ 17 มิถุนายน 2010, 09:12:PM


กลอนพันบทจดคำมานำต่อ
นอกในรอรับกันอย่าพลันหนี
เขียนต่อกันนะท่านงานกวี
จึงจะดีชี้แจงเชิญแต่งกัน.....(250)



***กลอนพันบทหนูว่าสัมผัสนอกต้องเขียนต่อกันถูกไหมค่ะ ผิดต้องอภัยด้วยค่ะ กำลังฝึก**

   emo_79


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดินทราย ที่ 17 มิถุนายน 2010, 09:16:PM


ย่องมาเยือนเรือนกลอนเพราะนอนดึก
ใจเต้นตึกนึกหาคนบ้าฝัน
ดินทรายน้อยร้อยคำมารำพัน
ดอกไม้จันทน์วันนี้ยังมีเธอ......(251)

ขอให้หลับกับกาลอย่าพานพบ
รักให้จบจากกันฉันเสนอ
บุญเคยสร้างทางเคยเดินขอเมินเจอ
สุขนะเออเผลอไปอภัยกัน.....(252)




***หนูแต่งไม่เพราะนะค่ะ ไม่รู้แต่งอะไรขอโทษพี่ๆด้วยค่ะ จะพยายามแต่งค่ะ***

    emo_79


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 17 มิถุนายน 2010, 09:26:PM
มาถ่อมตัวทั่วบ้าน วางพานหลอก
มิตรจักบอก สอบผ่านได้สานฝัน
ทั้งเก่งกลอน อ้อนออด สอดแซงมันส์
รีบช่วยพลันวันละนิด ประดิษฐ์กลอน... emo_28.


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 17 มิถุนายน 2010, 09:54:PM
(http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/newimages/200632119444451646.jpg)
อันบทกลอนสอนสั่งให้เรียนรู้
ยังยืนสู้ดูน้าให้ตราตรึง
ถึงเรียงร้อยถ้อยคำให้คนึง 
ใจนึกถึงหว่งหาให้ถูกกาล  (256)

ขออภัยท่านพี่กันทั้งหลาย
 คงไม่สายน้องนี้ขอเล่าขาน
ผ่านลำนำขับกล่อมให้ชำนาญ
คงไม่นานจะเก่งเหมือนพี่เอย   (257)
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_024.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 17 มิถุนายน 2010, 10:38:PM
(http://www.lkdesk.com/photo/or2/2008/mar/Crystal/Crystal_13.jpg)

                       ....เฉกเช่นกัน  น้องหนู  เข้ามาใหม่
                           ทั้งดวงใจ  กลั่นมา  อยากเฉลย
                           เอ่ยลำนำ  คำกลอน  จากทรามเชย
                           มิเฉยเมย  สรรค์สร้าง  เรียงร้อยคำ.... (258)

                       ....เสียงสัมผัส  อักษร  หนูพอรู้
                           อยากสู้สู้  แต่ช่าง  มิจดจำ
                           วอนพีน้อง  ฟังดู  พอขำขำ
                           ใจเจ้ากำ  โง่เขลา  เบาปัญญา....(259)

             
                           (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_024.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 17 มิถุนายน 2010, 11:01:PM

เพชรน้ำหนึ่ง
ประพันธ์โดย....ส. เชื้อหอม.........

(http://img117.imageshack.us/img117/6945/7466bp0.gif)

๏...กลอนเก้าคำ จำไว้ ด้อยไพ"เราะ"
เขียนให้"เหมาะ" แปดคำ เพชรน้ำ"หนึ่ง"
แต่ละวรรค หนักแน่น ดุจแกน"กลึง"
กลอนจะ"ซึ้ง" ติดใจ และให้"คุณ"

..คำสุดท้าย วรรคแรก แยกพิ"เศษ"
สามัญ"เขต" หวงห้าม ตามเกื้อ"หนุน"
ท้ายวรรคสอง ต้องรู้ อยู่เป็น"ทุน"
เอก-โท"จุน" จัตวา คราประ"พนธ์"

..ท้ายวรรคสาม วรรคสี่ นี้จำ"มั่น"
เสียงสา"มัญ" -ตรีใช้ ได้ทุก"หน"
สัมผัสซ้ำ จำจด งดปะ"ปน"
จงคิด"ค้น" ถ้อยคำ ที่จำ"เป็น"

..ไม้ไต่คู้ ใช้กับ ไม้ไต่"คู้"
เมื่อฟัง"ดู" เด่นดี ดั่งที่"เห็น"
เสียงสั้นยาว ก้าวก่าย หลายประ"เด็น"
อย่าบำ"เพ็ญ" พ้องกัน นิรัน"ดร"

..อย่าเขียนให้ ใจความ ตามเพ้อ"นึก"
จงตรอง"ตรึก" ตระหนัก เรื่องอัก"ษร"
คติธรรม นำใส่ ให้สัง"วร"
รวมสุน"ทร" ถ้อยไว้ ให้งด"งาม"

..จุดจบก็ ขอให้ กินใจ"หน่อย"
มิควร"ปล่อย" เปะปะ เหมือนสะ"หนาม"
จบให้เด่น เห็นชัด จำกัด"ความ"
ให้ตรง"ตาม" เค้าโครง เรื่องโยง"ใย"

..เขียนเสร็จสรรพ กลับมา ตรวจตรา"ผิด"
ตรวจช"นิด" เรียงตัว ทั่วกัน"ใหม่"
เมื่อเห็นเพราะ เหมาะด ีจี้หัว"ใจ"
จึงเผย"ให้" ประชา ชนตรา"ตรึง"

..กลอนเก้าคำ จำไว้ ด้อยไพ"เราะ"
เขียนให้"เหมาะ" แปดคำ เพชรน้ำ"หนึ่ง"
แต่ละวรรค หนักแน่น ดุจแกน"กลึง"
ผู้อ่าน"จึง" จะชอบ ชมขอบ"คุณ"



แบบว่า.....บทกลอนสำนวนนี้ของท่าน ส.เชื้อหอม ไม่ขอนับรวมในกลอนพันบทนะครับ
ที่ยกมาให้เป็นตัวอย่างสำหรับท่านที่ต้องการฝึกแต่งกลอนครับ หวังว่าคงมีประโยชน์บ้างนะครับ


  emo_12
(http://i15.tinypic.com/6b3cilw.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แม่ค้าหน้าหวาน ที่ 18 มิถุนายน 2010, 01:25:AM
เฉกเช่นกัน...น้องหนู..เข้ามาใหม่
ทั้งดวงใจ...กลั่นมา...อยากเฉลย
เอ่ยลำนำ...คำกลอน...จากทรามเชย
มิเฉยเมย...สรรค์สร้าง...เรียงร้อยคำ...(258)

เสียงสัมผัส...อักษร...หนูพอรู้
อยากสู้สู้...แต่ช่าง...มิจดจำ
วอนพี่น้อง...ฟังดู...พอขำขำ
ใจเจ้ากำ...โง่เขลา...เบาปัญญา...(259)..น้องยามพระอาทิตย์อัสดง

ฝึกบ่อยบ่อย...ก็เก่ง...เองน้องหนู
ให้คุณครู...ที่บ้านกลอน...สอนภาษา
เหล่ามิตรรัก...ณ บ้านกลอน..วอนเมตตา
สอนภาษา...ให้น้องหนู...ผู้อยู่ไกล...(260)...พี่แม่ค้าหน้าหวาน

พี่ๆที่นี่ใจดีทุกคนค่ะ น้องพระอาทิตย์ถามได้ค่ะ ขนาดพี่แม่ค้าพึ่งเข้ามาใหม่เวลาเขียนกลอน
ลงผิดบ้างไม่คล้องจองกันบ้าง ยังมีมาช่วยบอกพี่เลยค่ะ น้องยามพระอาทิตย์ไม่เข้าใจอะไรถามไปเลยค่ะ emo_47


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 18 มิถุนายน 2010, 02:21:AM
(http://www.mohanamai.com/webboard_upload/1233588241.jpg)

วันสิบแปด เดือนหก ตกเข้ามา
จึงต้องลา วันเก่า ที่ผ่านไป
ค่อยขับขาน บรรเลง กวีไกล     
ให้ดั่งใจ พันบท ให้ครบทัน   (261)

ชวนพี่น้อง บ้านกลอน นักกวี     
มาเติมศรี พันบท ให้ถึงฝัน
คนละไม้ ละมือ ค่อยช่วยกัน   
อีกไม่ทัน พันบท สำเร็จเอย (262)
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 18 มิถุนายน 2010, 04:03:AM

ลุงปรางค์อยู่ทะเลทรายมาสายหน่อย
ใครที่คอยคงรู้ไม่อยู่เฉย
ไม่เคยทำเป็นคนจนละเลย
อยากเฉลยลูกหลานที่บ้านเรา (263)
ที่ลุงอยู่หัวค่ำจำไว้มั่น
ช้ากว่ากันสี่ชั่วโมงโด่งกว่าเขา
เราดึกแล้วลุงจึงมาหาหมู่เฮา
เป็นผีเฝ้าบ้านกลอนตอนคนซา (264)

 emo_55

"ปรางค์  สามยอด"


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ส่วนเกิน ที่ไร้ค่า ที่ 18 มิถุนายน 2010, 09:41:PM
อันตัวผมพึ่งมาเป็นน้องใหม่
อยากขอให้พี่พี่ช่วยติสอน
สอนข้อคิดปรัชญาคารมณ์กลอน
วอนพี่สอนทั้งติชมกลอนน้องที(267)


ตัวน้องนี้มิใช่จะเก่งกาจ
อาจอุจาดบางบทหรือบางที
ก้อเลยอยากวอนขอพวกพี่พี่
ช่วยติทีหรือชมให้กำลังใจ(268)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 19 มิถุนายน 2010, 12:13:AM
...จินตนาพาใจให้ความรัก
ตรึงสลักอักษรามิล้าอ่อน
ละเมียดคำจำนรรผลิกผันกลอน
คือสะท้อนซ้อนทบประสบการณ์...(272)

...กลั่นลำนำพร่ำวอนคนนอนดึก
เผยผลึกแห่งเรามาเล่าขาน
ทั้งเก่าใหม่ใหญ่เล็กเด็กเมื่อวาน
บันทึกจารตำนานใจไว้อ้างอิง...(273)

...วันหนึ่งเราเก่งกาจสามารถแล้ว
เหลียวดูแนวทางเดินเผชิญสิ่ง
ร่องรอยแผลผิดพลาดถูกกวาดทิ้ง
เหลือความจริงปรากฏจึงงดงาม.../ทอฝัน...(274)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ส่วนเกิน ที่ไร้ค่า ที่ 19 มิถุนายน 2010, 07:56:PM
ขอบคุณพี่หทัยที่ช่วยเตือน
เรื่องลืมเลือนสัมผัสไว้แต่งตาม
และพี่พี่ผมขอไม่เอ่ยนาม
แต่ส่งความขอบคุณให้กลับคืน(275)


ต่อไปนี้น้องขอก้าวเดินตาม
แต่งกลอนงามของไทยให้เลื่องลือ
ให้ระบือโด่งดังก้องโลกา
ให้ภาษาไทยอยู่ชั่วนิรันดร์(276)


พอได้ไหมคับพี่ บทนี้


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 20 มิถุนายน 2010, 04:58:PM
...เขียนต่อไปไม่หยุดย่อมรุดหน้า
"หยาดน้ำฟ้า"สู้เขาเราสร้างสรรค์
เขียนแล้วอ่านทานทบจนครบพัน
ครูช่วยดันเด่นได้หากไฝ่เรียน...(277)


...อ่านกลอนเก่าคนเก่งแล้วเร่งรู้
ย้ำตรองดูทุกคำนำมาเขียน
เสียงสูงต่ำตำแหน่งแต่งให้เนียน
อย่าให้เพี้ยนเวียนวนต้องจนมุม...(278)


..."เพชรน้ำหนึ่ง"ตรึงกฏกลอนฉกาจ
หากฉลาดแปรกลย่อมพ้นหลุม
ชัดเจนแจ้งแจงมอบไว้ครอบคลุม
อ่านจนชุ่มแจ่มใจจึงไล่กลอน.../ทอฝัน...(279)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 21 มิถุนายน 2010, 03:28:PM
...ฝนขาดเม็ดเสร็จกิจจิตตระหนก
หวั่นวิตกอกใจไม่ถ่ายถอน
รีบเข้าบ้านพบเพื่อนในเรือนกลอน
แล้วเริ่มอ้อนลีลาประสาเรา...(280)

...รู้สึกมีหลายคนอยู่บนบ้าน
ทรวงสะท้านรานรัวกลัวเจอเขา
ใครคนนั้นวันก่อนสะท้อนเงา
คล้ายคอยเฝ้าเข้าชิดสนิทใจ.../ทอฝัน...(281)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 22 มิถุนายน 2010, 09:57:PM
ณ บ้านกลอนตอนนี้มีแต่ฝัน
ที่มุ่งมั่นปั่นทอรอฟ้าใส
แม้เส้นทางห่างออกบอกว่าไกล
แต่ดวงไฟให้แสงยังแรงดี  (282)

ด้วยศรัทธากล้ามั่นจะฟันฝ่า
สู่เป้าหมายภายหน้าไม่ล้าหนี
หนึ่งพันบททดไว้ใจเปรมปรีดิ์
ฝันยังมีมากมายไม่กังวล (283)

ณ บ้านกลอนตอนนี้มีทอฝัน
คอยมุ่งมั่นปันรักปักทุกหน
ทุกกระทู้ดูเจ้าเฝ้าคอยยล
เหมือนวางมนต์จนเราเฝ้าเคลิ้มไป (284)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: chaipan1999 ที่ 22 มิถุนายน 2010, 10:07:PM
เอ๊ะ!!ฮัดช่า! มาแล้วขอแจ้วฝัน
นายชัยพันธุ์กระเทยแจ่มแจมได้ไหม
เห็นเพื่อนกลอนต่อขานสำราญใจ
ขอฝากตัวฝากใจไว้สักคน...(285)

เห็นหนุ่มหนุ่มรุมต่อ(กลอน)พี่ทอฝัน
หนูชัยพันธุ์เหี่ยวใจไร้คนสน
อยากมีหนุ่มรุมตอมนวลหน้ามล
จะสู้ทนด้านหน้าคว้าใจเธอ...(286)

 emo_85 emo_85 emo_85


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 23 มิถุนายน 2010, 09:29:AM
...ทำยังไงดีเราเจ้าทอฝัน
หนูชัยพันธ์วิงวอนอ้อนเสนอ
รักพี่แปร์หมดใจไปแล้วเออ
จะให้เผลอรักซ้อนซ่อนอย่างไร...(287)

...งั้นเอางี้ละกันนู๋พันธ์จ๋า
ชวนพี่แปร์เจรจากันก่อนใหม
กระทู้จบครบพัน ณ วันใด
กลอนของใครหลายบทจดทะเบียน.../ทอฝัน (288)

............ภาษาเพี้ยนไป ไม่ว่ากันนะคะ..............


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 23 มิถุนายน 2010, 09:52:AM

...ถึงบทที่เท่าไหร่ไถ่ถามเจ้า
งานเป็นเงาเลยลางทางกานท์เขียน
จึงห่างถ้อยร้อยกาพย์มาทาบเวียน
อย่าติเตียนที่จางคำลำนำมา................(๒๘๙)

...เมื่อว่างเว้นจะเร้นกายมาทายข้าง
เคียงใจนางนวลอนงค์ที่หลงหา
เคียงหนุ่มใหญ่น้อยเฒ่าเฝ้าอักษรา
จึงจารพานำพจน์มารดริน...................(๒๙๐)

....เห็นเขาอ้อนอ้อนกันพลันอิจฉา
ร้อนตรงตาวูบวาบทาบบนถิ่น-
ใจก็ร้อนเหมือนไฟในองค์อินทร์
แทบพังพิณฑ์เพราะไร้สิ้นกลิ่นไอแอร์   emo_45 emo_45 emo_20 emo_20.........(๒๙๑)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 23 มิถุนายน 2010, 11:53:AM
มาแต่งกลอน วอนมวลมิตร จิตแจ่มใส
ต่อกลอนให้ ใจสุข สนุกแท้
รักษ์ศาสตร์ศิลป์ จินตนา พาดวงแด
มิสิ้นแม้ แท้ไทย ไกลขจร(๒๙๒)

อีกเจ็ดร้อย ถ้อยพจน์ บทจะครบ
รวมน้ำใจ แต่งให้จบ สพสมร
ทั้งหญิงชาย ฝ่ายกวี รี่ต่อกร
สยามอมร กลอนกานท์ สานอักษรา
(๒๙๓)
.


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 24 มิถุนายน 2010, 07:59:PM
คิดถึงกลอน วอนให้แต่ง แพร่งอักษร
กลัวอิงอร ศรรามกวี  บ้านนี้หนา
ลืมต่อกลอน วอนให้ครบ จบพันพา
ได้สรวลเส เฮฮา ว่ามีชัย(๒๙๔)
.
ถึงสิ้นปี ไหมนี่ กวีจ๋า
เพราะเจ้าป้า กุลนั้น ดันพิศมัย
ลุ้นให้จบ ครบพัน ดั้นมาลัย
คล้องดวงใจ ให้กวี ศรีบ้านกลอน(๒๙๕)
.
ถือเป็นชัย บ้านไทยร่วม รวมถ้อยพจน์
ได้จารจด รจนา คุณค่าสอน
รวมสำนวน ชวนคิด ศิษย์บ้านกลอน
ครูกวี ดีๆสอน กลอนกานท์เรา(๒๙๖)
.
ป้าจะต่อ ขอสามร้อย ชักถอยหลัง
จะถึงยัง ตั้งสามบท ชักหดเข้า
ไม่ค่อยจะ สันทัด คัดกลอนเรา
แต่งแต่เศร้า ยาวไม่เป็น เห็นไหมเออ(๒๙๗)
.
แต่ก็ผ่าน สานอีกบท ค่อยสดชื่น
ตาสว่าง พลางตื่น ชื่นเสนอ
แค่แต่งครบ จบสามร้อย คอยละเมอ
เหล่าน้องเกลอ เสนอต่อ รอครบพัน(๒๙๘)
.
ทั้งทอฝัน ท่านลุงปรางค์ น้องนางอุ้ม
อีกเมฆา สายใยรุม หนุ่มๆขัน
หนุ่มนะโม โอ้สายไหม หทัยนั้น
น้องตะวัน ฉายช่วยกัน ปันเวลา(๒๙๙)
.
คุณพระนาย อย่าหน่ายนัก อักษรศิลป์
ช่วยมากิน เอ๊ยมาแต่ง แผลงกรกล้า
กชนันท์ สุวรรณ ผันอักษรา
ละอองดาว สาวโสภา พิมพิลาไลย(๓๐๐)
..
ปาดเหงื่อ..ป้าดเลยป้า..ขออภัย..ชื่อใดไม่ได้ใส่..จะมาแต่งต่อจ้า..


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 24 มิถุนายน 2010, 08:11:PM
...สามร้อยบทผ่านไปใจกระหยิ่ม
รวมรอยยิ้มแห่งเราเย้าสดใส
คือศักดิ์ศรีกวีกานท์บ้านกลอนไทย
ครบพันไซร้นามจบพบทุกคน.../ทอฝัน...(301)
....กินแรงป้ากุลแต่งหนุนแค่บทเดียวนะค้า...!!!


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: yutter ที่ 24 มิถุนายน 2010, 08:32:PM
อะไรนะ..!?! แต่งให้ครบ พันบทกลอน
ตัวอักษร มากมาย ดุจสายฝน
จากความคิด อันสร้างสรรค์ จากหลายคน
ร่วมปะปน ผสมเข้า ให้คล้องจอง (302)

ด้วยอะไร ใครคิด ว่าจะได้
ชั่งเป็นคน ที่มั่นใจ ปนจองหอง
แต่เอาเถอะ ไหนไหนมา ก็จะลอง
เพื่อพวกพ้อง ผมจะร่วม ช่วยกันทำ (303)
)

 emo_108


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 25 มิถุนายน 2010, 07:42:PM
...เจตนาร่วมก่อต่อกลอนยืด
บางครั้งอืดฝืดช้าดูน่าขำ
เพียงเพื่อฝึกปรือปรนฝนถ้อยคำ
ให้งามล้ำสมคิดศิษย์บ้านกลอน...(304)

...หนึ่งพันบทจดจารเราขานไข
กาลล่วงไปย้อนดูรู้จุดอ่อน
กระทู้นี้พี่เพื่อนเตือนทุกตอน
ลองเขียนก่อนแล้วปรับประทับใจ...(305)

...รู้ไว้เถิดครูเราเฝ้าดูอยู่
เรื่องไม่รู้ท่านแนะให้แก้ไข
บ้านหลังนี้ปรี่ล้ำเรื่องน้ำใจ
สัมผัสได้ใสสมอารมณ์ดี...(306)

...อันคนเก่งไม่ปรับย่อมดับได้
ที่อ่อนแอเพียรไว้ให้ศักดิ์ศรี
ชื่อว่าบ้านการชิงชัยนั้นไม่มี
มิตรไมตรีหยิบยื่นจึงชื่นใจ...(307)

...ก่อนชื่อลบกลบไกลไปจากนี้
หวังเพียงมีกลอนเด่นเน้น!ใช่ใหม?
อุดมการณ์งานกวีชี้ที่ใด
จะยิ่งใหญ่"กลอนกร่าง"หรือ"สร้างคน"...(308)

...พึงเรียนรู้ต่อยอดตลอดชีวิต
เป็นครูได้ต้องมีศิษย์ติดทุกหน
เป็นศิษย์ได้ด้วยครูค้ำชูตน
เมื่อผ่านพ้นเวลารู้ค่าเอง...(309)

...เห็นกระทู้จึงแจงแถลงต่อ
หวังเพียงก่อมิให้ใครข่มเหง
คนบ้านกลอนยิ่งใหญ่ใจนักเลง
ใครอยากเก่งเขียนต่ออย่าท้อใจ...(310)

...ต่อกลอนยาวไปนิดด้วยจิตน้อม
"ทอฝัน"ยอมคนชังยังทนได้
เพื่อชีวิตคิดสร้างแม้ทางไกล
ฝากไว้ให้จำจดในบทกานท์.../ทอฝัน...(311)




หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 25 มิถุนายน 2010, 08:01:PM
งามทั้งคำ งามน้ำจิต ที่คิดให้
สร้างงานใหญ่  ไกลถึงพัน ทอฝันสาน
ร่วมรวมพล  คนกวี  ริกลอนกานท์
ฝึกฝนจน  เชี่ยวชาญ  งานกวี(๓๑๒)
.
เด็กชายเต็ง  เล็งการณ์ไกล  ให้กระทู้
รวมน้ำใจ  บ้านไทยสู้  สู่ศักดิ์ศรี
เราคนไทย  ใจรัก อักษรดี
ภูมิใจที่  มีภาษา มาช้านาน(๓๑๓)
.
กุลมาตา  มาช่วยเชิญ  อย่าเมินหนี
มะสะแป  สาวกวี มีถ้อยสาน
ทั้งyutter  เจอแม่ค้า  คนหน้าหวาน
ชัยพันธ์ท่าน มาต่อ  รอข่าวดี(๓๑๔)
.
มุขป้ากุล  ลุ้นเรียกชื่อ  คือทุกท่าน
มาร่วมงาน  กานท์ป้าง่าย  ร่ายชื่อชี้
มิมีมุข  จึงคลุกชื่อ  คือกวี
บ้านไทยนี้  มีเป็นร้อย  คอยแต่งกลอน(๓๑๕)
.
คำหวานหาย  ไปกับสาว  ไม่เม้าท์ต่อ
หยาดน้ำฟ้า   มาละพ่อ  ต่อกลอนอ้อน
น้องน้ำหวาน  ดอกกระเจียว   เหลียวมาวอน
ช่วยต่อกลอน  อย่าอ่อนแรง  แล้งจากไกล(๓๑๖)

..หมดแรงแค่นี้..หนูทอฝัน..คนแก่ค่อยๆไป..อิอิ


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 25 มิถุนายน 2010, 08:14:PM
 
    กำลังเพลิน เดินเล่น เห็นหัวข้อ
  น้องทอฝัน นั้นทอ ต่อเติมใส่
  กลอนพันบท จรดรื่น ยังยืนไกล
 ต้องสานต่อ ก่อไป ให้ถึงพัน....317
      เมฆาคล้อย ลอยเคลื่อน กลางเดือนฉาย
 ยังเวียนว่าย สายสาน ต่อกานท์ฝัน
 ให้สมดั่ง ตั้งเจตนา มาร่วมกัน
 ขอทุกท่าน ร่วมด้วย ช่วยแต่งเติม ....318
      เพราะกลิ่นกลอน สอนสม บ่มความรู้
 อันแฝงอยู่ คู่คำ ลำนำเสริม
 เป็นคุณค่า ภาษาไทย ใช้ดั้งเดิม
 ที่ริเริ่ม เรียนรู้ อยู่อาจิณ ....319
      ว่าแต่ว่า ตอนนี้ มีใครบ้าง
 มีกำลัง สร้างสาน งานกลอนศิลป์
 ช่วยยกมือ สื่อใจ ให้ได้ยิน
 จะชวนกิน พิชซ่า หน้าซีฟูดด์... (ปลาทูเค็ม..ฮ่าๆๆ)../ เมฆา.../...320
 
 
 


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 25 มิถุนายน 2010, 09:14:PM


พี่เมฆา   อยากทาน   พิซซ่าหรอ
น้องจะขอ   เลี้ยงพี่   อย่างใจพูด
พาไปดูด   ตาลหวาน   อุ้ย!มันบูด
ออกไปสูด   อากาศ   ดอนหวายกัน....(321)

โห พี่เมฆา เล่นเอาคำยากลง แต่หนูอยากต่อพี่ เลยทำใจหน่อยนะค่ะ อาจไม่สวยงามหาคำยากมากค่ะ  พยายามแต็มความสามารถที่มีแล้ว เจ้าค่ะ ขอบคุณค่ะ


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ส่วนเกิน ที่ไร้ค่า ที่ 25 มิถุนายน 2010, 11:11:PM
พอแต่งกลอนต่อกวีแสนมีสุข
ไร้ความทุกข์มีแต่ความสุขสันต์
อยากเห็นชนบ้านกลอนมาช่วยกัน
สานความฝันพันบทให้เป็นจริง


จะขออ้อนอีกครั้งจะได้ไหม
ขอให้ใจฟันฝ่าซึ่งทุกสิ่ง
ขออ้อนให้สู้ต่ออย่าพึ่งทิ้ง
เพราะรักจริงได้ไหมอย่าหมดไฟ


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 26 มิถุนายน 2010, 10:10:AM
พอแต่งกลอนต่อกวีแสนมีสุข
ไร้ความทุกข์มีแต่ความสุขสันต์
อยากเห็นชนบ้านกลอนมาช่วยกัน
สานความฝันพันบทให้เป็นจริง....322


จะขออ้อนอีกครั้งจะได้ไหม
ขอให้ใจฟันฝ่าซึ่งทุกสิ่ง
ขออ้อนให้สู้ต่ออย่าพึ่งทิ้ง
เพราะรักจริงได้ไหมอย่าหมดไฟ...323../ หยาดน้ำฟ้า...

 
 
    ตื่นขึ้นจาก ฟากนิทรา มาแต่เช้า
นั่งจับเจ่า เกาหัว กลัวเป็นไข้
รีบอาบน้ำ ล้างหน้า ว่าว่องไว
ด้วยคิดถึง บ้านกลอนไทย อุ่นไอกลอน...324

    น้องอาทิตย์ อัสดง คงงงตึบ
ปวดหัวหนึบ คำลงท้าย ปลายอักษร
ที่วางยา ลาคำยาก แล้วจากจร
ก็ขอวอน จงอภัย ให้เมฆา ....325
 
    เป็นลูกเล่น เล่นลูก มุกเล็กเล็ก
ประสาเด็ก หัดกลอน อ่อนภาษา
แค่อยากเล่น เน้นขำขำ นอกตำรา
พอเฮฮา ยิ้มแย้ม เติมแต้มสูตร ...326
 
    เพราะคำไทย หลายหลาก หากพินิจ
ขอให้คิด วิเคราะห์  เหมาะชะลูด  (ชะลูด = ยาว,ยื่น,ต่อยอด)
ทั้งการอ่าน การเขียน เรียนการพูด
อย่างราชทูต พูดสำเนียง เสียงชาติไทย .....327

    ขอชื่นชม อาทิตย์ เพียรคิดต่อ
คำไทยหนอ น่ารัก จงฝักใฝ่
จะถูกผิด คิดเห็น ไม่เป็นไร
เอาเป็นว่า แต่งต่อไป ให้ครบพัน...../เมฆา...328
     
 
 


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 26 มิถุนายน 2010, 10:17:AM
มาแต่งต่อ รอครบพัน มาบรรจบ
หยาดน้ำฟ้า หลานช่วยรบ คงครบได้
ยามพระอาทิคย์อัสดง ก็ลงไว้
ป้ากุลไซร้ ขอแต่งเสร็จ เจ็ดบทจาร(๓๒๙)
.
หวังหลานหลาน กระดานมา นางฟ้ามิวสิค
พลังศรัทธา อย่าซิค พลิกแพร่งสาร
มนฤทธิ์หนุ่ม อุ้มมาณพ มาพบพาน
หัวจัยพิการ ป้ากันนา มาร่วมกัน(๓๓๐)

.
hort39 อย่าเศร้าสร้อย สอยRallow
Devilโชว์ โผปรางทิพย์ สิบบทนั่น
ระนาดเอก เสกสรรค์ถ้อย ร้อยเรียงปัน
monwipa..vunpraนั่น หมั่นร้อยคำ(๓๓๑)

note16026 อกสะท้าน
สวาหะ มาช่วยงาน สานเช้าค่ำ
กริชอักษร วอนnasmokมิหลอกอำ
นายป.ปลา มาช่วยทำ คลำถึงพัน(๓๓๒)

Somboon2535 ก็มาด้วย
ลุงwebช่วย อวยชัย ใจมุ่งมั่น
ppn  เห็นชื่อดี  ไมตรีปัน
BeamPower เสนอกัน ดั้นด้นกลอน(๓๓๓)

chaosmanz นั้นมาใหม่ ยังใสสด
kalช่วยจด สดๆแต่ง แข่งกานท์อ้อน
มหาซัง อย่าร้างรา มาแต่งกลอน
ผู้ชายใต้เงาจันทร์ วอน อย่าอ่อนใจ(๓๓๔)

ชมพูไพร ใจกวี รี่มาช่วย
มังกรเดียวดาย อย่าป่วย ช่วยมาให้
อยากให้ครบ จบถึงพัน ลุ้นมันใส่
สนุกใกล้ ได้ดูบอล เชียร์กลอนกานท์(๓๓๕)

..แหะ แหะ..ก่อนรับใช้ชาติ..มาลุ้นกลอนพันบทหน่อยจ้า..ยังไม่เซ็ง..คริ คริ..


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 26 มิถุนายน 2010, 10:49:AM
...ค่อยค่อยย่องเข้าห้องกลอนตอนสายสาย
ยลหญิงชายสาวหนุ่มรุมประสาน
เคยหนาวเหน็บเก็บกดดั่งพจมาน
กลับชื่นบานหวานคำนำไมตรี...(336)

...บ้านทรายทองของชายกลางไม่ร้างรัก
ย่อมนำชักนวลน้องไม่หมองศรี
บ้านกลอนไทยใจกว้างทางกวี
เชิญน้องพี่ชี้ชักมาทักกัน...(337)
...................../ทอฝัน แค่นี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวมาใหม่...


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แม่ค้าหน้าหวาน ที่ 26 มิถุนายน 2010, 11:15:AM
อยากมาขาน...กล่าวถ้อย...เรียงร้อยกลอน
ใช้อักษร...อ้อนไป...ดั่งใจฝัน
ให้คนอ่าน...ซาบซึ้ง...สื่อถึงกัน
มาสานฝัน...เป็นกลอน...อ้อนบอกไป...(338)

กลั่นจากใจ...ให้กลาย...เป็นอักษร
สื่อเป็นกลอน...วอนขอ..อย่าหวั่นไหว
ทุกถ้อยคำ...เรียงร้อย...จากหัวใจ
มาขานไข...อักษร...ผ่านบ้านกลอน...(339)
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_034.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 26 มิถุนายน 2010, 08:17:PM
กลีบมาดู หมู่กวี ที่บ้านไทย
ค่ำแล้วใจ ไยวูบไหว ไม่หลอกหลอน
อ่านทุกบท จดจาร สานเป็นกลอน
สาวหนุ่มอ้อน วอนคำ ล้ำเลิศเลอ(๓๔๐)

เห็นชื่อเจ้า เพรางาย สาวปลายฟ้า
Evil-eye ไงล่ะPamooเพ้อ
สารพัดเพี้ยน เขียนมา นะจ๊ะเธอ
อย่าให้เก้อ เธอดินทราย  ไงEUNHYONG(๓๔๑)

หนุ่มฮกหลง ตรงมา รักครั้งสุดท้าย
นักสู้พิราบขาวจ่าย กลอนไวว่อง
มารเงาเข้า เจ้าbirdมา ท้าทดลอง
เด็กหนุ่มไม่รู้จักโตย่อง ลองต่อกลอน(๓๔๒)

chutipalto โอone love so beautiful
มาเพิ่มพูน จูนสะเก็ดดาว ก้าวไปก่อน
nampuzaa01 ซึ้งกานท์กลอน
ผนึกน้ำค้างสีน้ำเงินอ้อน ต่อกลอนกานท์(๓๔๓)

I love gray อย่าเหหัน ผันจรจาก
กวีหลาก มากมาย บ้านไทยสาน
วันใหม่ที่เหมือนเก่า  เย้า ใบลาน
JIMMEE123 วาน สานต่อกลอน(๓๔๔)

ทั้ง"ตัวฉัน" sweetrockman แม่นแล้วนั่น
YzJoe  โผมากัน นั้นสลอน
tongpwnt นั่นมิตรรัก อีกษรกลอน
เชื่อมบทตอน อ้อนใช้ชื่อ ระบือนาม(๓๔๕)

..ขอเล่นมุขรวมชื่อ..นักกลอนไปพลางๆก่อนนะ..


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 27 มิถุนายน 2010, 10:45:PM
...ก่อนลาไปพักผ่อนแล้วนอบหลับ
หันหลังกลับกล่าวกลอนสะท้อนถาม
ถึงคนหนึ่งของใจใคร่ติดตาม
หากเอ่ยนามตามตรงอาจงงใจ...(346)

...เสียงอึ่งอ่างข้างบ้านขานรับตอบ
คล้ายอยากมอบสัมพันธ์อันยิ่งใหญ่
ฝนหล่นรินกลิ่นแก้วแว่วเรไร
คิดถึงใครบางคราผวาวอน../ทอฝัน...(347)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: chaipan1999 ที่ 27 มิถุนายน 2010, 11:14:PM
เอ้าอีกหก ร้อยกว่ากว่า ช่วยกันหน่อย
อย่าใจน้อย พันบท มาหลอกหลอน
เติมกันนิด แจมกันหน่อย อย่ากร่อยกลอน
ขอออดอ้อน ช่วยกัน ให้คันมือ(348)

ต่อกันอีก กลอนดี ไม่มีจบ
ใครได้ครบ พันกลอน วอนนับถือ
ผมยังด้อย กลอนกร่อย อยากฝึกปรือ
ขอยึดถือ แบบอย่าง ทางอาจารย์(349)

แต่งติดลม เติมแต้ม กันอีกนิด
ช่วยกันคิด กวีไทย ไว้สืบสาน
ของมีค่า อย่าสูญหาย กลายวันวาน
เราลูกหลาน ปราชญ์กระเดื่อง เรืองสุนทร(350)


 emo_85 emo_85 emo_85


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: nnn ที่ 28 มิถุนายน 2010, 11:14:AM
อีกหกร้อย  คอยครบ  จบกระทู้
เหงาน่าดู  ไม่มีใคร   มาถามหา
ตั้งกระทู้  จบกระทู้  ตามเวลา
คงตั้งตา  ครบพัน  ให้ทันใจ


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 28 มิถุนายน 2010, 12:35:PM
อีกหกร้อย  คอยครบ  จบกระทู้
เหงาน่าดู  ไม่มีใคร   มาถามหา
ตั้งกระทู้  จบกระทู้  ตามเวลา
คงตั้งตา  ครบพัน  ให้ทันใจ...351

เจ้าของเรื่องเคืองขุ่น ว้าวุ่นบอก
ไร้ใครปลอบสอบถาม เฝ้าถามไถ่
ท่าจะเหงาเศร้าสร้อย ทำน้อยใจ
อย่าซึมไป ใครจะลืม จะปลื้มเอง..352

(http://dl5.glitter-graphics.net/pub/5/5985fna1mq07oq.gif)

ใกล้ครบพัน ทันโลกดับ จะนับถอย
ยังเฝ้าคอย กลอยใจ ใช้หน่ายแหนง
เพื่อนมากมาย เวียนว่ายใช่วังเวง
หลายคนเก่ง เร่งรีบ อย่างีบนาน..353



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ไหมไทย ที่ 28 มิถุนายน 2010, 03:10:PM
เป็นเพื่อนใหม่ในบ้านกลอนแห่งนี้
ขอน้องพี่แนะนำคำพื้นฐาน
เพิ่งหัดแต่งกลกลอนไม่ชำนาญ
ขอท่านผู้เชี่ยวชาญช่วยแนะนำ

มีใจรักบทกลอนอ่อนความรู้
ช่วยแนะนำเป็นครุชื่นใจฉ่ำ
จะฝึกฝนยลเยือนเป็นประจำ
เขียนผิดซ้ำทำให้เคืองขออภัย


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: chaipan1999 ที่ 28 มิถุนายน 2010, 11:22:PM
งั้นคราวนี้ขอร่ายยาวกันหน่อย
ไม่อยากปล่อยงีบนานพาลอดสู
จะถูกผิดไปบ้างขอโทษ(คุณ)ครู
เพราะความรู้มีน้อยมาร้อยกลอน..........(356)

ก. กอไก่ไก่กอไก่กุ๊กกุ๊ก
ข. ขอไข่ไข่ขลุกในรังใหญ่
ฃ. ฃอฃวดขวดงามใส่น้ำใส
ค. คอควายควายไทยใช้ทำนา(357)

ฅ. ฅอฅนขึงขังดูน่ากลัว
ฆ. ฆอระฆังดังทั่วทุกทิศา
ง. งองูคดเคี้ยวเลี้ยวไปมา
จ. จอจานมีค่าน่าใช้ดี(358)

ฉ. ฉอฉิ่งตีดังฟังไพเราะ
ช. ชอช้างใจเสาะรีบวิ่งหนี
ซ. ซอโซ่ช่ายล่ามห้ามไว้ที
ฌ. ฌอเฌอเรียงสี่คู่คี่กัน(359)

ญ. ญอหญิงโสภาดูน่ารัก
ฎ. ฎอชฎาบอกศักดิ์ดูภูมิฐาน
ฏ. ฏอปฏักปักมาแต่นมนาน
ฐ. ฐอฐานยึดมั่นไม่หวั่นภัย(360)

ฑ. ฑอนางมณโฑนั่งแท่นทำอวดองค์
ฒ. ฒอผู้เฒ่ายืนไม่ตรงน่าสงสัย
ณ. ณอเณรเดินมาเห็นแต่ไกล
ด. ดอเด็กวิ่งไล่ดูซุกซน(361)

ต. ตอเต่าต้วมเตี้ยมติดตรึงตา
ถ. ถอถุงนำมาช่วยกันขน
ท. ทอทหารมีมานะและอดทน
ธ. ธอธงไตรรงค์ของคนไทย(362)

น. นอหนูตัวน้อยร้องจิ๊ดจิ๊ด
บ. บอใบไม้ปกปิดเขียวสดใส
ป. ปอปลาว่ายน้ำฉ่ำชื่นใจ
ผ. ผอผึ้งตอมดอกไม้เฝ้าดอมดม(363)

ฝ. ฝอฝาป้องปิดไว้มิดชิด
พ. พอพานวางผิดไม่เหมาะสม
ฟ. ฟอฟันสวยงามดูน่าชม
ภ. ภอสำเภาลู่ลมแล่นไปไกล(364)

ม. มอม้าวิ่งเร็วดูคึกคัก
ย. ยอยักษ์ตัวโตดูสูงใหญ่
ร. รอเรือลอยลำในน้ำใส
ล. ลอลิงวิ่งไล่หยอกล้อกัน(365)

ว. วอแหวนแวววาวพราวไสว
ศ. ศอศาลาพักได้ใจสุขสันต์
ษ. ษอฤษีมีวิชาอยู่ครบครัน
ส. สอเสือตัวนั้นจ้าวไพรี(366)

ห. หอหีบเก็บของสิ่งสะสม
ฬ. ฬอจุฬาเล่นลมดูหลากสี
อ. อออ่างรองน้ำไว้ใช้ดี
ฮ. ฮอนกฮูกตาหยีตอนกลางวัน(367)


เล่นอักษรกลอนไทยไว้เตือนจิต
หวนให้คิดตอนท่องร้องขบขัน
แต่จะมีใครบ้างจำได้กัน
สี่สิบสี่ตัวนั้นอักษรไทย...(368)


 emo_85ลืมกันรึยังครับ  emo_85


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 28 มิถุนายน 2010, 11:31:PM
แวะเข้ามา ขาดึก ดูคึกคัก
ดลมันหลับ แม่กลับตื่น ขืนไม่ได้
ลูกไม่หลับ แต่หัวค่ำ จำตื่นไว้
ยากลำบาก  ฝากให้ไซร้  ใครลำเค็ญ(๓๖๙)

คนไม่รู้  สู้นินทา  ว่าแม่นั่ง
ดึกๆยัง  นั่งบนเวบ  เห็บเหาเห็น
ลูกไม่หลับ  แม่หลับไหม  ใครเคยเป็น
ปากเน่าเหม็น  เขม่นด่า  ระอาใจ(๓๗๐)

ไม่อยากบ่น  ต้องทนคำ  คนพร่ำด่า
สุขนักหนา  ข้าเลี้ยงได้  ง่ายจะให้
ก็แค่คน  นินทา  พวกบ้าใบ้
ทำจริงๆ  วิ่งเผ่นใส่  ย้ายกลับรัง(๓๗๑)

มีพี่เลี้ยง เลี้ยงตอนเด็ก  ต้องเขกหัว
มันมั่วๆ  เทข้าวน้อง  ต้องเลิกนั่ง
ยายแอบดู  หนูป้อนข้าว เอาเทจัง
ยายมาบอก  มันหลอกพัง  สั่งออกเลย(๓๗๒)

มีอีกราย  ส่ายหน้า  ระอาเหลือ
หน้ามันเบื่อ  ชอบเสื้อแม่  แย่จริงเอ๋ย
แม่ทำงาน  มันต้องใส่  ไม่ให้เชย
แม่คุณเอ๋ย  มันเลยไม่  ใคร่ดูแล(๓๗๓)

สกปรก  ตกใจ  น้องได้ผื่น
แดงเป็นปื้น  โยเย  โผเผแย่
ไม่ค่อยเปลี่ยน  ผ้าอ้อม  ยอมแพ้แม่
หลานๆแม้  อ่านซึ้ง พึงรู้คุณ(๓๗๔)

แม่ถนอม  กล่อมเลี้ยง  เพียงดวงจิต
เสียสละ  ไม่ให้ผิด  จิตเกื้อหนุน
เลี้ยงเราดี  กว่าพี่เลี้ยง  เสี่ยงนะคุณ
ลูกได้บุญ หากว่าแม่ แท้เลี้ยงเอง(๓๗๕)


..สงสารแม่ยุคนี้ที่ต้องทำงานนะ..เลี้ยงลูกเอง..ดีกว่าคนอื่นเลี้ยงเยอะ..ยกเว้นปู่ย่าตายาย..ของป้ากุลท่านชรามากนะ..จ้างพี่เลี้ยงช่วย..ดีๆทั้งนั้นตามที่บรรยายในกลอน
เพื่อนป้า..เจอหนักๆกว่าป้า..มันตีลูก..ตอนยายหลับ..แทบจะออกจากงานเลยล่ะ..ดีที่แก้ไขได้..คนเลี้ยงดีๆหายากจ้า..มีแต่ฝืนใจทำ..กับพวกขี้โม้ทั้งที่ไม่เคยเลี้ยงเด็ก..


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 30 มิถุนายน 2010, 02:45:PM
ยังจดจ่อ  ต่อกลอน  วอนให้ครบ
พันบทจบ  สบใจ  บ้านไทยเก่ง
ทั้งกวี  ทั้งนักกลอน  ผ่อนครื้นเครง
ป้าช่วยเร่ง  บรรเลงครบ  จบถึงพัน(๓๗๖)

คนสาธารณะ  nara  อาร์ตี้นั้น
ดวงไฟมั่น  หมั่นแต่งเขียน  เพียรถึงฝัน
ดอกยางนา นะjawjom  ยอมช่วยกัน
ณัฐกวินทร์  คนขยัน  หมั่นต่อเติม(๓๗๗)

sure2009  อ้าวNazaSodaHot
อย่าเพิ่งจอด  ให้รอดเถอะ  อีกเยอะเสริม
ลุ้นกันนะ  kongkaab รับทราบเติม
Toetoo88.5 เพิ่ม  เติมทุกวัน(๓๗๘)

นั่นแงซาย  อย่าอายเหนียม  เจี๋ยมเจี้ยมนัก
พ่อหำน้อย..คอยรัก  จักสานฝัน
คนละบท  สองบท  สดทุกวัน
สนุกกัน  วันละนิด  จิตกวี(๓๗๙)

ปากะญอ  มาง้องอน  ต่อกลอนกาพย์
Yuyeeจ๊าบ  puthanukorn  ต่อกลอนนี้
คนรักษ์ถิ่น  สานจินตนา  มาเร็วรี่
ป้ากุลชี้  ชักชวน  ล้วนเก่งกานท์(๓๘๐)





หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: kongkaab ที่ 30 มิถุนายน 2010, 03:14:PM
ผมมาใหม่ อยากร่วม เปรื่องความคิด
อยากต่อติด บทกลอน อักษรศิลป์
ต่อกลอนแปด แบบพลับพลึง ซึ้งกวี
อยากจะมี ส่วนร่วม รวมเป็นพัน(๓๘๑)

หนึ่งกลอนสอน รวมรอน บรรจงสร้าง
หนึ่งกลอนอ่าน ซาบซึ้ง อารมณ์หมาย
หวังลึกลึก สุขใจ ไม่เสื่อมคลาย
เข้าทักทาย กลอนไทยคลับ รับอารมณ์(๓๘๒)

 emo_26 emo_26 emo_26 emo_26


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 01 กรกฎาคม 2010, 01:06:PM
   
   ๐ กลอนพันบท หดหาย ไปไหนหนอ
      คนเคยต่อ ก่อสร้าง ห่างร้างขม
      หรือหนีเที่ยว เกี่ยวก้อยแฟน แล่นกินลม
      ลืมผสม บ่มกลอน อักษรกวี...........383
        ๐ อย่าพึ่งเหนื่อย พี่น้อง ให้ว่องหน่อย
      อย่าใจน้อย คล้อยเคลื่อน เขยื้อนหนี
      รังสรรค์เสก เลขกลอน ขอวอนที
      ให้มีสี แสงสัน ทุกวันไป......384
       ๐ ดั่งเมื่อวาน อ่านกลอน สุนทรภู่
       อยู่ในตู้ เก่าเก็บ เหน็บค้นใหม่
       มานั่งอ่าน ให้แฟนฟัง อย่างตั้งใจ
       เพราะอยู่ไกล ใช้โฟน โอนสำเนียง......385
       ๐หนังสือเก่า เล่มหนา หน้านิราศ
       ไปพระบาท ดาษดื่น ฟื้นสุ้มเสียง
       อ่านทำนอง ครรลองเศร้า เขาอายเอียง
       เราก็เลี่ยง อ่านรัว กลัวน้ำตา......386
       ๐แล้วต่อด้วย นิราศท่อง ล่องเมืองแกลง
       เราก็แสร้ง แกล้งเย้า ให้เขาหา
       ว่าบทไหน ใจจำ ย้ำความมา
       เธอบอกว่า บทแรก กระแทกใจ.....387
        ๐"จำนิราศ จากนุช สุดสวาท"
        แค่เพียงบาท บทนี้ ก็ชี้ให้
        เห็นความรัก ความห่วง ที่ทรวงใน
        เรียบเรียงไว้ ได้ความ งามอักษรา......388
        ๐ อ่านไปเรื่อย เหนื่อยง่วง ล่วงตีสอง
        แฟนยังจ้อง คอยห้าม ถามปํญหา
        ว่าเหตุการณ์ เป็นอย่างไร ในตำรา
        ด้วยขึ้นตา ขึ้นใจ ในสุนทร......389
        ๐ จึงแกล้งหลับ จับหมอน มานอนหนุน
        บอกแม่คุณ ง่วงแล้ว แนวออดอ้อน
        ไว้คืนหลัง จะนั่งอ่าน ประทานกลอน
        ให้งามงอน ฟังต่อ ขอวางไป......390
        ๐เป็นความสุข เล็กน้อย คนคอยฝัน
        ที่คนรัก อยู่ห่างกัน อย่างหวั่นไหว
        แต่ก็มี ดวงราตรี เป็นเพื่อนใจ
        ส่งสำเนียง เคียงไป มั่นหมายกัน.....เมฆา.../....391
       
       
       
         
       
 
 


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: webmaster ที่ 01 กรกฎาคม 2010, 02:03:PM
โห....กว่าจะครบพันบท.....

ตอนนี้ก็ประมาณร้อยกว่าเนาะ   พันบทก็ประมาณ 50 หน้าได้  emo_101


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ไหมไทย ที่ 01 กรกฎาคม 2010, 03:48:PM
เวลาว่างผ่านมาอ่านบทกลอน
บทครั้งก่อนคุณเมฆาร่ายมนต์ฝัน
บรรจงถ้อยร้อยเรียงเพื่อแบ่งปัน
ง่วงแค่ไหนไม่หวั่นเฝ้าติดตาม(392)

แต่ละหยดร่วมกันเป็นสายน้ำ
เย็นชื่นฉ่ำน้ำไหลแดนสยาม
แต่ละบทสะสมเรียงงดงาม
แต่ละนามปากกาคารมดี(393)

บทกวีที่อ่านมากคุณค่า
คุ้มเวลาโอกาสมากเหลือที่
แหล่งสะสมความคิดล้วนมากมี
บ่งบอกชี้จิตคนอุดมการณ์(394)

สามัคคีร่วมใจไปให้ถึง
จุดที่ซึ่งหลักชัยสืบประสาน
จากจุดเล็กเก็บเกี่ยวด้วยดวงมาน
ย่อมพบพานสมหวังมิผันแปร(395)
[/size]


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 02 กรกฎาคม 2010, 08:43:AM
กลอนพันบท  หดหาย    คล้ายใครว่า
หนุ่มเมฆา  ยังมาช่วย   ด้วยหวังแพร่
บทกานท์กลอน  วอนกวี  รี่มาแล
ไหมไทยแน่  แวะมา  น่าชื่นใจ(๓๙๖)

เจ้าทอฝัน  ท่านกระเจียว  เลี้ยวหลบหาย
e-noหน่าย  หนีไปเที่ยว  เซี้ยวสดใส
ไม่แวะมา  นารีล้ำ  นำกลอนใจ
ฤาเจ้ามี  ที่ใหม่ใหม่  ไปแวะเวียน(๓๙๗)

ป้ากุลยัง  นั่งแต่งให้  ได้พันบท
พ่ออาร์ตี้  อย่าเพิ่งงด  หดเพราะเลี่ยน
แค่เจอสาว  คาวเล่นน้ำ  เธอช้ำเพี้ยน
สงสัยไม่  ใส่ชุดเปลี่ยน  เวียนว่ายไป(๓๙๘)

บอกแล้วให้  ทำใจ  คนใคร่บ้า
แต่งกาพย์กลอน  อ้อนพา  สาวมาไซร้
สาวดีๆ  ไม่มีบ้า  ฆ่าใครได้
ขำๆไว้  ใจเป็นสุข  หมดทุกข์ทน(๓๙๙)

ขอจบลง  ตรงสี่ร้อย  คอยหลานต่อ
อีกหกร้อย  สำออยพ่อ  ขอสาวสน
กลอนกานท์นี้  ดีที่หนึ่ง  ซึ้งกมล
คุณค่าดล  คนไทย  ใฝ่รักษ์เอย(๔๐๐)




หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 02 กรกฎาคม 2010, 11:05:AM
(http://i123.photobucket.com/albums/o295/lozocat/dukdik/37143.gif)

พระอาทิตย์  อัสดง  รีบมาช่วย
แต่ไม่กล้วย  เหตุเพราะ  ของไม่เคย
อาจจะช้า  แต่ก็  มิเมินเฉย
จากคนเชย  คนนี้  อัสดง....(401)

ป้ากุลจ๋า  หนูมา  ช่วยสานฝัน
บอกต่อกัน  พี่น้อง  ยังมั่นคง
600บท  วานเซียน  มาช่วยลง
โอ้โฉมยงค์  เพื่อนกลอน  อย่าท้อใจ.....(402)

(http://www.yenta4.com/webboard/upload_images/1153819_4530746.gif)

ปล. ป้ากุลจ๋า  มาแดนส์กันค่ะ (หนูเป็นน้องหมีแพนด้านะค่ะ)



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แม่ค้าหน้าหวาน ที่ 02 กรกฎาคม 2010, 11:55:AM
emo_60ไม่ใช่เซียน...แวะเวียน...มาได้เปล่า
อยากมากล่าว...เรื่องราว...มาขานไข
เป็นเพียงแค่...คนรัก...อักษรไทย
และมีใจ...ใฝ่รัก...ปักกลอนกานท์....(403)

  (http://www.whenifallinlove.net/diary/images_animation/key_chain8/02000000.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 02 กรกฎาคม 2010, 11:59:AM
                            (http://www.addemoticons.com/emoticon/love3/AddEmoticons10913.gif)


พลังศรัธา  มิได้  มาวางกลอน
อยากเว้าวอน  เพราะเรียน  และทำงาน
เจียดเวลา  นิดหน่อย  จากทำการ
อีกไม่นาน  ต้องไป  จัดสวนครัว  (404)



                            (http://i123.photobucket.com/albums/o295/lozocat/dukdik/23978.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ปากะญอ ที่ 02 กรกฎาคม 2010, 04:13:PM

ภารกิจติดงานการทำก่อน
ค่อยมาออนอ้อนกันให้มันทั่ว
หากว่างเว้นเน้นมาพากลอนรัว
อย่าหมองมัวเพราะงานเข้าเศร้าฤดี........(๔๐๕)

ผมก็คนงานหนักพอพักได้
แต่งกลอนให้เพื่อบรรเทาเราสุขี
เจอเพื่อน-เพื่อนเลื่อนกาพย์ซาบชีวี
หลายกวีมีต่อกลอนเข้าอ้อนกัน.............(๔๐๖)

บางครั้งงานสุมหัวทัวร์ไม่ออก
อกซ้ำชอกมาบ้างไร้ทางฝัน
น้ำตาหลั่งพรั่งพรูกรูชีวัน
ลบล้างมันก็ไม่หายคลายชีวา..............(๔๐๗)

จึงพึ่งกลอนฝากถ้อยคนด้อยค่า
แวะเข้ามาจากหละปูนลำพูนหนา
ฝากเรียงร้อย สร้อยกานท์ ผ่านนำมา
คนจรมาว่ากลอนตอนอาลัย.................(๔๐๘)

อยากรู้จักมิตรกลอนอักษรศรี
นำชีวีมีสุขทุกข์หวั่นไหว
จะมีบ้างไหมเล่าคนเข้าใจ
จะมีใครไหนบ้างส่อทางรอ..................(๔๐๙)

เห็นแต่งกันพลันอยากฝากถึงฝั่ง
ถึงพันหวังยังอยากฝากไว้หนอ
มาร่วมแจมแซมถ้อยน้อยน้อยพอ
ปากะญอมีชื่อบ้างทางกลอนกล...............(๔๑๐)



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 03 กรกฎาคม 2010, 09:18:AM
ย่องเข้ามา  แต่เช้า  เข้าบ้านกลอน
อ่านหลานอ้อน  ต่อกลอนไว้  ไซร้น่าสน
ปากะญอ  ต่อกานท์กลอน  วอนน่ายล
หกร้อยบท  จดจารด้น  คนกวี(๔๑๑)

ป้ากุลยัง  ขึงขังต่อ  รอหลานหลาน
ช่วยประสาน  งานใหญ่  ใจเต็มปรี่
รวมน้ำใจ  ใสสะอาด  มิขาดดี
รวมกวี   ที่เต็มใจ  ไม่ขาดเกิน(๔๑๒)

มุ่งเผยแผ่  แพร่ภาษา  อักษราเทิด
ช่วยชูเชิด  กวีเกิด  เถิดอย่าเขิน
เติมถ้อยพจน์   รสหลาก  มากมายเพลิน
สำนวนใด   ใคร่สรรเสริญ  เพลินแท้จริง(๔๑๓)







หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 03 กรกฎาคม 2010, 01:37:PM
มาอ่านกลอนเพลงยาวเถิดชาวเพื่อน
บ่มิเลือนลาร้างแม้บางสิ่ง
จากความคิดสู่ถ้อยคำคือความจริง
ให้เลอยิ่งนึกเห็นความเป็นไทย(414)

ด้วยบ้านเมืองของเราแต่เก่าก่อน
ไม่เดือดร้อนเรื่องคำจึงทำให้
เกิดหลากหลายภาษานำพาใจ
เป็นกลไกกานต์กลอนสุนทรนัก  (415)

หลากเรื่องราวท่านคิดลิขิตไว้
ซ่อนภาษางามวิไลให้ตระหนัก
ต่างชาติชนเมืองใดในเอกลักษณ์
ควรรู้รักษ์สืบสร้างมิร้างลา  (416)

ในแบบอย่างอย่างผู้รู้ค่าคุณ
คอยนำหนุนบำรุงมุ่งอาสา
ให้โดเด่นเช่นเหมือนแต่ก่อนมา
ทั่วโลกายังเห็นความเป็นเรา  (417)

อันภาษาดาดดื่นใดชื่นรส
หรือจะทดแทนได้เท่าไทยเล่า
ภูมิใจเถิดเกิดเป็นไทยให้ยึดเอา
ความเป็นไทยนั้นเล่าที่เกิดมา  (418)

ทุกความดีมีมาแต่ความคิด
จึงสะท้อนถูกผิดเห็นคุณค่า
ยอดโกหกหรือพกคำใดนำพา
ได้หลีกพ้นภาษาที่เป็นจริง  (419)

บ้านจะดีเมืองจะดีคนดีสร้าง
ถึงจะเป็นเยี่ยงอย่างออันยอดยิ่ง
เมืองจะร้ายเพราะผู้ร้ายมากมายจริง
ที่ต่างทิ้งคุณธรรมประจำใจ(420)

ด้วยเดี๋ยวนี้มีอะไรได้ง่ายง่าย
แสนสบายตามยุคแห่งสมัย
เมื่อมีเงินย่อมบันดาลเอาตามใจ
คือเหตุผลน่าหลงไหลในทุกคน  (421)

เกิดแก่งแย่งแย่งชิงไม่สิ้นสุด
ขัดแย้งอุตลุตทั่วแห่งหน
แล้วความดีมีไหมในใจคน
สุดสับสนคิดเอาเถิดเข้าที(  422)

พุทธศาสน์สืบสร้างกว่าสองพัน
ให้ผู้คนยึดมั่นในวิถี
ร่วมกันส่งเสริมสร้างแต่ความดี
ถึงจะมีผ่องพ้นไร้มลทิน  (423)

เมื่อสุขเกิดแก่ใจทั่วรายรอบ
นั้นย่อมมอบสิ่งคล้ายให้ถวิล
แต่เดี๋ยวนี้ความจนคือมลทิน
ไม่สุดสิ้นนึกในหัวใจคน  (424)

โลกจึงย้อนก่อนกาลกำเนิดพุทธ
คนใจไม่บริสุทธิ์ทั่วแห่งหน
ความอัปรีย์ซ่อนไว้ได้แยบยล
แล้วดิ้นรนผลประโยชน์ความโกรธเคือง  (425)

ผู้มีธรรมนำธรรมมาสำนึก
อย่างกระอึกกระอักในเนื้อเรื่อง
มันก็รู้ดูดีมีบ้านเมือง
ไยซ่อนร้ายใต้เบื้องว่าตัวดี  (426)

ในลึกลึกข้างในใฝ่อธรรม
ไม่เคยคิดเกรงกรรมทำบัดสี
เรื่องร้ายมายมากชั่วสิ้นดี
เหมือนเป็นอย่างทุกวันนี้..ดั่งนี้เอง  (427)


แบบว่าเขียนสดๆ  ผมคิดว่าออกสไตล์ปัวโรว์สรุปสืบคดี  อย่าลืมบวกหนึ่งนะ..แฮ่ emo_12



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 03 กรกฎาคม 2010, 07:18:PM
...แวะเข้าเรือนเอื้อนกลอนตอนเย็นย่ำ
ยลน้ำคำเพื่อนพี่ชี้เหมาะเหม็ง
ทอฝันเลื่อนแป้นพิมพ์ยิ้มเกร็งเกร็ง
สายตาเล็งหน้าจอแล้วท้อใจ...(428)


...สมองตันมันตึงจนขึงค้าง
ลากนิ้วกร่างกดลงตรงจนได้
ปล่อยอารมณ์ปมเงื่อนแชเชือนไป
เถลไถลไถถากช่างยากเย็น...(429)


...สองบทผ่านงานเคลื่อนคล้ายเตือนจิต
เริ่มลิขิตลีลาผวาเห็น
หากเขียนต่อต้องทรุดหลุดประเด็น
ขอผลัดเป็นพรุ่งนี้จะรี่มา.../ทอฝัน ขออู้นิด...แต่คิดถึงน๊า....(430)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 03 กรกฎาคม 2010, 08:16:PM

ดอกกระเจียว เที่ยวนี้ กลอนรี่ไหล
มาวางให้ สิบสี่บท แต่งสดจ้า
เป็นคำกลอน สอนธรรม พระสัมมา
เอ๊ะรึว่า เข้าวัด ฝึกหัดใจ (๔๓๑)

จนบรรลุ สัจจธรรม พระสัมพุทธ
บริสุทธิ์ เห็นทาง สว่างใส
ได้รู้เหตุ รู้ผล รู้กลไก
ที่นำให้ ใจตัว ชั่วหรือดี  (๔๓๒)

 


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: nnn ที่ 04 กรกฎาคม 2010, 01:44:PM
                     กลอนบทแรกแตกออกเป็นสองสาม      
ทั้งสี่ข้ามห้าหกเจ็ดไม่เสร็จสิ้น
ยังผ่านแปดเก้าสิบเป็นอาจิณ                               
คนตกเลขยังไม่ชินความเพิ่มพูน
บทที่พันมันต่อเนื่องจากบทแรก      
ที่มันแตกแขนงจดบทที่ศูนย์
โลกยิ่งใหญ่ที่มีค่าทวีคูณ            
มาจากมูลดินล้วนผวนรวมกันฯ
ศฤงคาร  แซ่โฮ่ – tingtong-เด็กชายเต็ง;นามแฝง


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 04 กรกฎาคม 2010, 02:53:PM
                     กลอนบทแรกแตกออกเป็นสองสาม      
ทั้งสี่ข้ามห้าหกเจ็ดไม่เสร็จสิ้น
ยังผ่านแปดเก้าสิบเป็นอาจิณ                               
คนตกเลขยังไม่ชินความเพิ่มพูน 433

บทที่พันมันต่อเนื่องจากบทแรก      
ที่มันแตกแขนงจดบทที่ศูนย์
โลกยิ่งใหญ่ที่มีค่าทวีคูณ            
มาจากมูลดินล้วนผวนรวมกันฯ 434
ศฤงคาร  แซ่โฮ่ – tingtong-เด็กชายเต็ง;นามแฝง


ขอแต่งกลอนให้ครบถึงพันบท
ตามกำหนดตัวเลขเอกฉันท์
เห็นพี่น้องลูกหลานมารำพัน
ช่วยประชันขันแข่งแบ่งกันมา 435

ไปทำงานทะเลทรายไกลถิ่นฐาน
ต้องจากบ้านเมืองไทยไกลสุดหล้า
เป็นเพราะความยากจนดั้นด้นมา
เพื่ออนาคตครอบครัวที่รอคอย 436

จากช่างไม้คนเก่งเร่งต่อสู้
เพื่อจะรู้ประสบการณ์งานต่ำต้อย
ทั้งตากแดดตากลมจนตาลอย
ไม่ท้อถอยทนทำจนชำนาญ 437

หลายสิบปีผ่านไปในโลกร้อน
แต่บางตอนทุกข์ทับเกือบพับฐาน
ทั้งสงครามทะเลทรายหนีซมซาน
เกือบจะอานจากบ็อมบ์ในบางคราว 438

ชีวิตฉันสนุกดีที่พานพบ
ได้ประสบเหตุการณ์วันเหน็บหนาว
ตัวเรานี้ไช่ขี้ผึ้งผึ่งชั่วคราว
ไปรบลาวมาแล้วไม่ละลาย 439

จากช่างไม้ได้เป็นหัวหน้าช่าง
งานทุกอย่างรับผิดชอบทุกขอบข่าย
ทำงานด้วยคุมคนด้วยช่วยเจ้านาย
แต่โชคร้ายโดนลดเงินเดือนลง 440

จะกลับบ้านก็ไม่ได้ลูกยังเล็ก
ต้องกระเผลกสู้ไปไม่ไหลหลง
มองดูเพื่อนร่วมงานยังอยู่ยง
ต้องมั่นคงอยู่ได้ไม่ตายน่า  441

 emo_55

"ปรางค์  สามยอด"

ใครสนใจฟัง ยังมีต่อ  emo_56



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 04 กรกฎาคม 2010, 08:59:PM
โอ้โฮเฮะ..เอ๊ะเข้ามา..น่าสนุก
ท่านปรางค์ปลุก  รุกแต่งกลอน  อ้อนสาวหนา
เล่าชีวิต  คิดย้อน  วันก่อนมา
รู้คุณค่า  หนาช่างไม้  ไกลบ้านเมือง(๔๔๒)

ดอกกระเจียว  เลี้ยวมาต่อ  เจ้าทอฝัน
ร่วมประชัน  งานเด็กเต็ง  เก็งไว้เฟื่อง
ตั้งกระทู้  สู่พันบท  พจน์นองเนื่อง
เห็นแสงเรือง  รำไร  ใกล้ครึ่งทาง(๔๔๓)

น่าชื่นชม  คมคำ  น้ำใจเลิศ
กวีเกิด  เปิดใจ  ไม่ไร้ร้าง
รวมพลพา  มาระดม   สมใจวาง
ใกล้ห้าร้อย  คอยต่อบ้าง  อย่างเต็มใจ(๔๔๔)

ป้ากุลหนอ  ขอมาช่วย  ด้วยสี่บท
อรรถรส  สดศรี  กวีใส
ไม่กี่วัน  ฝันเห็น  เส้นทางใกล้
ห้าร้อยบท  ต่อสดใส่  เส้นชัยชัวร์(๔๔๕)



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: knight_95 ที่ 04 กรกฎาคม 2010, 10:10:PM
คุณพระนาย

ห่างหายไปนานแล้วแก้วพี่เอ๋ย
ใช่เฉยเมยยังคิดถึงถึงถ้วนทั่ว
มีเรื่องร้อนอ่อนใจให้ขุ่นมัว
เลยไม่ได้มาสุมหัวเล่นกลอนกัน (446)

แต่บางครั้งหวังคิดสนิทสนม
หมายชื่นชมสมปองครรลองฉันท์
กลอนประกอบโครงประดับจับเรื่องกัณฑ์
นานแล้ววันนี้ไปใช่เลือนลืม (447)

แต่วันนี้พอว่างอย่างเขาหน่อย
เลยมาเขียนกลอนหลักร้อยพลอยตาตื่น
ตะหนกแน่นหนักหนาชั่วข้ามคืน
คนอย่างคลื่นครื้นเครงมาเร่งคำ(448)

ก็ฝากชื่อฝากสุนทรอักษรเสนาะ
ไม่ไพเราะเจาะจงคิดอิ่มหนำ
เอากลอนเล่นเป็นอักษรอ่อนอกนำ
ให้เพื่อนพี่น้องนี้จำคำบทกลอน (449)

ของเพื่อนชายนายหนึ่งไว้นึกหน่อย
ลำนำร้อยฝากให้ตรึกระลึกอ่อน
ยามนิทราหลับฝันวันตื่นนอน
นึกถึง  " คุณพระนาย" ตอนหลับฝันดี (450-ไม่รู้จะฝันร้ายหรือเปล่าอ่ะ อิอิ)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 05 กรกฎาคม 2010, 07:21:AM
คุณพระนาย  ร่ายบทกานท์  สานให้เสร็จ
ป้ากุลเล็ด  ลอดมาเข้า  แต่เช้านี้
หวังอีกบท  สองบท  จดจารชี้
ในฤดี  นี้ชื่นชม นิยมพา..๔๕๑

น่าเสียดาย  ไม่ได้ฝัน  นะหลานเอ๋ย
หลับสนิท  จิตมิเลย  เห็นเขยหน้า
หากหลานสาว  เนตรวาวงาม  (อาจ)หวามอุรา
ฝันเห็นหนา หน้าหลานเขย  ช่วยเผยใจ..๔๕๒

เห็นหลานๆ  นั่นอีโน  โชว์เขยน้อง
หนุ่มรุมปอง  น้องอุ้ม  ขยุ้มใหญ่
ทั้งน้องเขย  เอยหลานหนุ่ม  รุมอุ้มใส
สาวสวยใน  บ้านกลอนไทย  มากมายจริง..๔๕๓

จึงมีกานท์  คำหวานล้ำ  ฉ่ำถ้อยพจน์
ห้าร้อยบท  กว่ากว่า  อย่าละทิ้ง
ทั้งเพลงยาว  หนุ่มสาวเกี้ยว  แอบเกี่ยวพิง
ธรรมะนิ่ง  อิงสงบ  พบสายกลาง..๔๕๔

ทั้งกลอนธรรมชาติ  วาดอักษร
ภาพสิงขร  ไพรพนา  ฟ้าพราวพร่าง
ชมบุปผา  ลดาวัลย์ คำสรรค์สร้าง
กวีไทย  มิไร้ร้าง  ห่างอักษรา..๔๕๕


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: คนไร้ค่า ที่ 05 กรกฎาคม 2010, 08:52:PM
มาร่วมด้วยแม้ด้อยเชิงกวี
อาจมิดีมิไพเราะเพราะห่างหาย
มิได้ร่ายบทกวีเว้นว่างไป
จะกลับมาร่ายใหม่หากมีเวลา(๔๕๖)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 06 กรกฎาคม 2010, 07:53:PM
คนไร้ค่า  น่าสรรเสริญ  เพลินมาร่วม
ต่อบทกานท์  สานรวม  ร่วมหรรษา
ฝึกหัดไป  ไม่สิ้นไร้  สายใยพา
รวมคุณค่า ณ  กวี  ที่บ้านไทย..๔๕๗

ใครว่างๆ  ยังมีใจ  ใคร่แต่งต่อ
น้ำใจหนอ  พอท่วมท้น  คนไหนไหน
ถือว่าฝึก  ตรึกตรอง  ลองแต่งไป
แถมยังได้  รวมใจกวี  ที่บ้านกลอน..๔๕๘

วันละนิด  จิตแจ่มใส  ได้ยิ้มแย้ม
ดั่งแต่งแต้ม  แซมถ้อยพจน์  จรดก่อน
เป็นศักดิ์ศรี  แห่งกวี  ที่เว้าวอน
ทุกบทบาท  มิขาดตอน  วอนช่วยกัน..๔๕๙

ห้าร้อยบท  กว่าๆ  มิหนานัก
เสร็จจากพัก  การงาน  มาสานฝัน
เสร็จจากเชียร์ บอลโลก  วกมาปัน
เสร็จถึงพัน  เมื่อไหร่  เป็นได้เฮ..๔๖๐


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 07 กรกฎาคม 2010, 11:02:AM
ย่องเข้ามา  อีกครา  มาแต่งต่อ
วันนี้หนอ  ขอเล่า  เรื่องเจ้าเห้
ซื้อหมูปิ้ง  หกไม้  ได้โมเม
ห้าไม้เจ๊  เจตนา  หรือว่าไร..๔๖๑

ป้าไม่อาย  คนขายค้า  ไม่น่านะ
คนซื้อควร  ตรวจซะ  อย่าได้ไว้
ใจคนเรา  เอาทีเผลอ  เสมอไป
เอากำไร  เกินควร  รวนกันจัง..๔๖๒

จ่ายหกไม้  ได้ห้า  มันน่านัก
ใช่งกงัก หากไม่ซื่อ  ไม่ซื้อสั่ง
ไม่ชอบคน  ปนโลภ  ละโมบจัง
ถ้าผิดพลั้ง  ระวังไว้  ใครจะกิน..๔๖๓

สมัยนี้  ดูดีๆ  คนมีเหลี่ยม
ใจโหดเหี้ยม  เตรียมใจ  ไว้ทุกถิ่น
ซื่ออย่าเซ่อ  เผลอไผล  ให้โกงกิน
นิจศีล  เป็นอาจิณ  สิ้นชั่วโกง..๔๖๔

เกิดมาไม่  ได้ถึงร้อย (ปี)  คอยสร้างเสริม
หมั่นตามเติม  เพิ่มดี  ชีวีโล่ง
สะสมไว้  ให้ลือเล่า  ก่อนเข้าโลง
ขืนกินโกง  เข้าโลงไป  ใครด่าตาม..๔๖๕

เราคนไทย  ใจพุทธ  วิสุทธิ์ศรี
หลักธรรมชี้  ดีอย่างไร  ชั่วให้คร้าม
ใช่ป้ากุล  จุ้นมาสอน  วอนให้ตาม
เป็นหลักความ  ตามพุทธพจน์  พระโอษฐ์ชี้..๔๖๖

แผ่นดินไทย  แผ่นดินธรรม  นำสงบ
หยุดฆ่ารบ  จบอบาย  มลายหนี
ดั่งก่อนเก่า  ไทยเรารัก  สามัคคี
เป็นชุมชน  คนดี  มีสุขนาน..๔๖๗

อยากได้เห็น  เช่นวารวัน  ผันกลับหวน
ช่วยทบทวน  ควรไหม  ได้สุขศานติ์
กลับมาสู่   คู่ผองไทย  ไม่ร้าวราน
แตกแยกผลาญ  รานยื้อ  แข่งถือดี..๔๖๘

จะเป็นใคร  ชนชั้นใด  ใจดีแท้
เป็นพ่อแม่  แก่ชรา  ตายายนี้
เป็นหนุ่มสาว  คราวลูกหลาน  สานให้มี
คุณค่าที่  ดีแท้  แก้ไขกัน..๔๖๙

ป้ากุลมาตา  หนายกย่อง
คนใจผ่อง  ครองซื่อ  ถือสัตย์สรรค์
สร้างสิ่งดี  มีน้ำใจ  ให้แก่กัน
ไม่เบียดเบียน  เพียรปัน  กันถูกทาง...๔๗๐






หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 08 กรกฎาคม 2010, 10:07:AM
มาอีกแล้ว  ยังไม่แจว  ยาแนวต่อ
สงสัยหลาน  เซ็งกันหนอ รอเชียร์ห่าง
ป้ากุลนั้น  หมั่นมา  คราที่ว่าง
ต่อพันบท  ไปพลางๆ  ยังตื้องง..๔๗๑

คิดกลอนใหม่  ไม่ค่อยออก  ลอกของเก่า
เมื่อคืนเข้า  เอาซะห้า  มาใส่ส่ง
แต่งไว้แต่  ปีกลาย  ได้มาลง
ที่บ้านกลอนไทยตรง  เอาลงเลย..๔๗๒

เวลาว่าง  นั่งเขียนกานท์ ฉันท์โคลงกาพย์
ด้วยเพราะซาบซึ้งใจ  ใคร่เอื้อนเอ่ย
ดูแลลูก  สุขใจ  ไปพร้อมเอย
ลูกวาดรูปประกอบเผย  เปรยตามกลอน..๔๗๓

ทำนิทานคำกลอน  ไว้สอนลูก
เฝ้าสร้างปลูก  ให้ลูกไว้ ใช้สั่งสอน
ให้รักศาสตร์  ศิลปะ  ตระเตรียมก่อน
ได้คิดย้อน  ถึงกลอนกานท์  นั้นเมื่อโต..๔๗๔

วันละห้า  หกเจ็ดบท  สดๆต่อ
มิรีรอ  ขอทำเป้า  เจ้าอย่าโห่
สนุกกัน  ผ่านกลอน  อ้อนโยกโย้
เพราะว่าโอ  เคกว่า  ณ  บ้านกลอน..๔๗๕


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: my smile ที่ 08 กรกฎาคม 2010, 10:45:AM
มาอีกแล้ว  ยังไม่แจว  ยาแนวต่อ
สงสัยหลาน  เซ็งกันหนอ รอเชียร์ห่าง
ป้ากุลนั้น  หมั่นมา  คราที่ว่าง
ต่อพันบท  ไปพลางๆ  ยังตื้องง..๔๗๑

คิดกลอนใหม่  ไม่ค่อยออก  ลอกของเก่า
เมื่อคืนเข้า  เอาซะห้า  มาใส่ส่ง
แต่งไว้แต่  ปีกลาย  ได้มาลง
ที่บ้านกลอนไทยตรง  เอาลงเลย..๔๗๒

เวลาว่าง  นั่งเขียนกานท์ ฉันท์โคลงกาพย์
ด้วยเพราะซาบซึ้งใจ  ใคร่เอื้อนเอ่ย
ดูแลลูก  สุขใจ  ไปพร้อมเอย
ลูกวาดรูปประกอบเผย  เปรยตามกลอน..๔๗๓

ทำนิทานคำกลอน  ไว้สอนลูก
เฝ้าสร้างปลูก  ให้ลูกไว้ ใช้สั่งสอน
ให้รักศาสตร์  ศิลปะ  ตระหนักก่อน
ได้คิดย้อน  ถึงกลอนกานท์  นั้นเมื่อโต..๔๗๔

วันละห้า  หกเจ็ดบท  สดๆต่อ
มิรีรอ  ขอทำเป้า  เจ้าอย่าโห่
สนุกกัน  ผ่านกลอน  อ้อนโยกโย้
เพราะว่าโอ  เคกว่า  ณ  บ้านกลอน..๔๗๕



เหมือนกันแป๊ะ กับป้ากุล มึนที่หัว
เหมือนจิตรั่ว อยู่ไม่นิ่ง มักหลอนหลอน
ว่างก็ขีด นิ่งก็เขียน บทกานท์กลอน
เบื่อจะนอน เบื่อจะนั่ง ไปวันวัน........................476

แต่ตอนนี้ ทำไม่ถูก บอกไม่ได้
มันขาดหาย ตรงไหน สมองฉัน
หัวมันทื่อ กลอนไม่ออก มันตันตัน
ก็เลยนั่ง ต่อพัน ให้มึนกว่าเดิม .......................477


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 08 กรกฎาคม 2010, 02:47:PM
มาอีกแล้ว  ยังไม่แจว  ยาแนวต่อ
สงสัยหลาน  เซ็งกันหนอ รอเชียร์ห่าง
ป้ากุลนั้น  หมั่นมา  คราที่ว่าง
ต่อพันบท  ไปพลางๆ  ยังตื้องง..๔๗๑

คิดกลอนใหม่  ไม่ค่อยออก  ลอกของเก่า
เมื่อคืนเข้า  เอาซะห้า  มาใส่ส่ง
แต่งไว้แต่  ปีกลาย  ได้มาลง
ที่บ้านกลอนไทยตรง  เอาลงเลย..๔๗๒

เวลาว่าง  นั่งเขียนกานท์ ฉันท์โคลงกาพย์
ด้วยเพราะซาบซึ้งใจ  ใคร่เอื้อนเอ่ย
ดูแลลูก  สุขใจ  ไปพร้อมเอย
ลูกวาดรูปประกอบเผย  เปรยตามกลอน..๔๗๓

ทำนิทานคำกลอน  ไว้สอนลูก
เฝ้าสร้างปลูก  ให้ลูกไว้ ใช้สั่งสอน
ให้รักศาสตร์  ศิลปะ  ตระหนักก่อน
ได้คิดย้อน  ถึงกลอนกานท์  นั้นเมื่อโต..๔๗๔

วันละห้า  หกเจ็ดบท  สดๆต่อ
มิรีรอ  ขอทำเป้า  เจ้าอย่าโห่
สนุกกัน  ผ่านกลอน  อ้อนโยกโย้
เพราะว่าโอ  เคกว่า  ณ  บ้านกลอน..๔๗๕



เหมือนกันแป๊ะ กับป้ากุล มึนที่หัว
เหมือนจิตรั่ว อยู่ไม่นิ่ง มักหลอนหลอน
ว่างก็ขีด นิ่งก็เขียน บทกานท์กลอน
เบื่อจะนอน เบื่อจะนั่ง ไปวันวัน........................476

แต่ตอนนี้ ทำไม่ถูก บอกไม่ได้
มันขาดหาย ตรงไหน สมองฉัน
หัวมันทื่อ กลอนไม่ออก มันตันตัน
ก็เลยนั่ง ต่อพัน ให้มึนกว่าเดิม .......................477


ป้ามั่วๆ รัวๆแต่ง แม่แน่งนุช
หลานmy smile ใสพิสุทธิ์ รุดช่วยเพิ่ม
กลอนพันบท  สดๆไถล พอได้เติม
หากจะสริม  ต่อกลอนใหม่  ไม่เข้าที..๔๗๘

นึกไม่ออก  บอกไม่ถูก  ลูกหลานเอ๋ย
ก็คงเคยกันบ้าง  สมองว่างนี้
นึกอะไร  ไม่ออกเลย  เคยบ้างที่
ไม่ค่อยมี  อะไร  ในหัวเรา..๔๗๙

แถมป้านั้น  มันชรา  หัวช้าเสื่อม
มิพราวพราย  ลายเลื่อม  เชื่อมอย่างเจ้า
สาวๆหนุ่ม  กลุ่มกวี  ที่เร็วเร้า
ตามวัยเยาว์  จ้าวฟิตปั๋ง  ช่างรวดเร็ว..๔๘๐

..ขอบคุณหลานmy smileจ้า..สาวๆบางครั้งแต่งมิออก..เป็นธรรมดา..ของป้าบวกความชรา..ยิ่งแต่งไม่ออก..ลอกของเก่าตัวเองมาตั้งกระทู้จ้า


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: my smile ที่ 09 กรกฎาคม 2010, 03:11:PM
ป้ามั่วๆ รัวๆแต่ง แม่แน่งนุช
หลานmy smile ใสพิสุทธิ์ รุดช่วยเพิ่ม
กลอนพันบท  สดๆไถล พอได้เติม
หากจะสริม  ต่อกลอนใหม่  ไม่เข้าที..๔๗๘

นึกไม่ออก  บอกไม่ถูก  ลูกหลานเอ๋ย
ก็คงเคยกันบ้าง  สมองว่างนี้
นึกอะไร  ไม่ออกเลย  เคยบ้างที่
ไม่ค่อยมี  อะไร  ในหัวเรา..๔๗๙

แถมป้านั้น  มันชรา  หัวช้าเสื่อม
มิพราวพราย  ลายเลื่อม  เชื่อมอย่างเจ้า
สาวๆหนุ่ม  กลุ่มกวี  ที่เร็วเร้า
ตามวัยเยาว์  จ้าวฟิตปั๋ง  ช่างรวดเร็ว..๔๘๐

..ขอบคุณหลานmy smileจ้า..สาวๆบางครั้งแต่งมิออก..เป็นธรรมดา..ของป้าบวกความชรา..ยิ่งแต่งไม่ออก..ลอกของเก่าตัวเองมาตั้งกระทู้จ้า
 



กลอนแต่งสด ใช้คำ ป้ำป้ำเป้อ
เหมือนละเมอ กดแป้น คีย์เย้วเย้ว
พิมพ์ไปพลาง ส่ายหัว ส่ายสะเอว
แหม่มันเร็ว ที่ส่ายน่ะ ไม่ใช่กลอน

 emo_115  แฮ่ ๆ  กว่าจะสัมผัสบทแทบแย่เลยเรา มึนเข้าไปใหญ่

แหม่!! ป้ากุล ก็ยอ มากเกินไป
สาวอย่างหนู หัวตัน เพราะตกหมอน
กำลังดี อย่างป้า ซิน่าอ้อน
เรียงบทกลอน ตั้งหลายบท ไม่ยอมวาง


 ทักทายป้ากุลค่ะ


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 09 กรกฎาคม 2010, 11:03:PM
...ขอร่วมก่อ  ต่อเติม  เสริมความฝัน
แต่งครบพัน  บทด้วย  ช่วยสะสาง
เดินมาแล้ว  เพิ่งถึง  เพียงครึ่งทาง
อย่าเลิกร้าง  จางจร  ก่อนครบพัน

หาความรู้  อยู่ห้อง  ฉันทลักษณ์
ได้ประจักษ์  จรรโลง  กาพย์โคลงฉันท์
เฝ้าพากเพียร  เรียนรู้  อยู่หลายวัน
ด้วยใฝ่ฝัน  อยากเป็น  เช่นกวี

กลอนพันบท  รสหลาก  มากความคิด
เพลิดเพลินพิศเพียบพร้อม  ไม่ยอมหนี
ร่วมร้อยเรียงรื่นรมย์  สมฤดี
มวลมิตรมีมากมาย  ร่วมร่ายกานท์

เจียมตัว  กลัวผิด  กระมิดกระเมี้ยน
จำเนียร  เขียนชม  ประสมประสาน
สร้างสรรค์  บันเทิง  สำเริงสำราญ
ร้อยกานท์  งานกลอน  ขจรขจาย...


 emo_85 emo_100


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 10 กรกฎาคม 2010, 09:48:AM
กลอนแต่งสด ใช้คำ ป้ำป้ำเป้อ
เหมือนละเมอ กดแป้น คีย์เย้วเย้ว
พิมพ์ไปพลาง ส่ายหัว ส่ายสะเอว
แหม่มันเร็ว ที่ส่ายน่ะ ไม่ใช่กลอน..๔๘๑

   แฮ่ ๆ  กว่าจะสัมผัสบทแทบแย่เลยเรา มึนเข้าไปใหญ่

แหม่!! ป้ากุล ก็ยอ มากเกินไป
สาวอย่างหนู หัวตัน เพราะตกหมอน
กำลังดี อย่างป้า ซิน่าอ้อน
เรียงบทกลอน ตั้งหลายบท ไม่ยอมวาง..๔๘๒

ทักทายป้ากุลค่ะ

...ขอร่วมก่อ  ต่อเติม  เสริมความฝัน
แต่งครบพัน  บทด้วย  ช่วยสะสาง
เดินมาแล้ว  เพิ่งถึง  เพียงครึ่งทาง
อย่าเลิกร้าง  จางจร  ก่อนครบพัน..๔๘๓

หาความรู้  อยู่ห้อง  ฉันทลักษณ์
ได้ประจักษ์  จรรโลง  กาพย์โคลงฉันท์
เฝ้าพากเพียร  เรียนรู้  อยู่หลายวัน
ด้วยใฝ่ฝัน  อยากเป็น  เช่นกวี..๔๘๔

กลอนพันบท  รสหลาก  มากความคิด
เพลิดเพลินพิศเพียบพร้อม  ไม่ยอมหนี
ร่วมร้อยเรียงรื่นรมย์  สมฤดี
มวลมิตรมีมากมาย  ร่วมร่ายกานท์..๔๘๕

เจียมตัว  กลัวผิด  กระมิดกระเมี้ยน
จำเนียร  เขียนชม  ประสมประสาน
สร้างสรรค์  บันเทิง  สำเริงสำราญ
ร้อยกานท์  งานกลอน  ขจรขจาย...๔๘๖



ทั้งแงซาย  my smile   ใจสร้างสรรค์
หฤหรรษ์  มาปันกานท์  สานเชื่อมสาย
ให้ได้พบ  ครบพันบท  จดจารร่าย
ว่ากวี  มิยอมพ่าย  หมายสร้างทาง..๔๘๗

ได้ฝึกฝน  ได้ยลเยี่ยม  เปี่ยมอักษร
ประนมกร  ครูสอนไว้  ได้ใช้บ้าง
เคยอ่านเขียน  เรียนท่องมา  คุณค่าสร้าง
ให้รู้ร่าง  พลางร่าย  ขยายกวินท์..๔๘๘

กลอนพันบท  สดๆต่อ  ของ่ายๆ
ต่อแต่งท้าย  ได้ทุกแนว  แพรวพรายสิน-
ทรัพย์ทางปัญญา  นั้นผ่านจากจินต์
ทั่วทุกถิ่น  รินไหลหลั่ง  ดั่งสายชล..๔๘๙

ชโลมใจ  ให้ชุ่มชื่น  รื่นเริงร้อย
ผ่านเป็นถ้อย  ร้อยพจน์สดๆด้น
ร่วมร้อยใจ  ไทยกวี  มีมากล้น
ช่วยสานกล   กลอนกานท์   ผ่านบ้านไทย..๔๙๐   


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: nnn ที่ 10 กรกฎาคม 2010, 10:40:AM
............ขอบคุณนะ...ขอบคุณนะ
........ขอบคุณนะ.........ขอบคุณนะ
.....ขอบ คุณนะ...............ขอบคุณนะ
...ขอบคุณนะ....................ขอบคุณ นะ..............ขอบคุณนะ......
..ขอบคุณนะ......................ขอบ คุณนะ........ขอบคุณนะ.....ขอบคุณนะ............
.ขอบคุณนะ........................ ขอบคุณนะ.....ขอบคุณนะ........ขอบคุณนะ.............
ขอบคุณ นะ.........................ขอบคุณนะ...ขอบคุณนะ...........ขอบคุณนะ......
.ขอบ คุณนะ.........................ขอบคุณนะ.............................ขอบ คุณนะ........
..ขอบคุณนะ.........................ขอบคุณ นะ........................ขอบคุณนะ........................
...ขอบคุณ นะ..............................................................ขอบคุณนะ..................
…...ขอบคุณนะ..................................................... ขอบคุณนะ.......................
.........ขอบคุณ นะ...............................................ขอบคุณนะ...................
............ ขอบคุณนะ........................................ขอบคุณนะ....................
................ ขอบคุณนะ................................ขอบคุณนะ.....................
.................. ขอบคุณนะ.........................ขอบคุณนะ.....................
......................ขอบ คุณนะ...............ขอบคุณนะ.................................
..........................ขอบคุณ นะ....ขอบคุณนะ........................

กลอนนั้นคืด  อะไร  ใครรู้บ้าง
คือหน้าต่าง  ทางความคิด  สิทธิ์อักษร
คือการแต่ง  แบ่งคำ  ทำวรรคตอน
คือบทกลอน  บทคำ  บทกวี.......//tingtong(1)
 
แค่ ครบร้อย..คอยอีกนาน..นะหลานเอ๋ย
ป้ากุลฝึก..มากมากเลย..เผยใจว่า
ยัง ไมถึงไหนเลย..เฉลยมา
ชอบก็ฝึก..ดึกเช้าหนา..มาบ้านกลอนฯกุล มาตา.......//(singlemom99)(2)

จะแต่งกลอน ครบพัน นั้นไม่อยาก
เพราะ บ้านกลอน หลายหลาก มากผู้รู้
ผู้ชำนาญ โครงฉันท์ เป็นชั้นครู
ก็มี อยู่ มากมาย ในบ้านกลอน.......//สายไหม(3)

ทั้งโคลงฉันท์กาพย์กลอน อักษรศิลป์
ศิลปินร้อยเรียงคำพิสุทธิ์ศรี
งามสง่าเลิศค่ากานท์กวี
สดุดี กราบถ้อยร้อยคำเรียง.......//boomarang(4)

แค่พันบท กำหนด ได้ ถ้าใจรัก
แต่ เธอจัก ต้องประกาศ อย่าขาดเสียง
คอยคิดมุก บุกต่อให้พอเพียง
ให้มี เลี่ยง มีรัก แล้วหักมุม.......//สายใย(5)

 หนึ่ง พันบท จดจาร เป็นงานยาก
แต้ถ้าหาก รวมพลัง กันทั้งกลุ่ม
สมาชิก หญิงชาย ร่ายระรุม
คง ครอบคลุม ครบพัน สักวันนึง.......// hathaichanok(6)

 ใครซ่อนแอบ ออกแรงมาช่วยก่อน
คัดบทกลอน งอนง้อ อย่าขัดขึง
วันละนิด ช่วยกันคิด สักนิดนึง
ขาดที่พึ่ง ไม่กี่ร้อย ช่วยหน่อยงาน.......//(e-no)(7)

บรรจง ถ้อยร้อยคำลำนำนี้
รวมน้อง พี่เพื่อนพ้องร้องประสาน
เปิดหัวใจให้เห็น เป็นตำนาน
บันทึกกานท์สาน สายใยในบ้านกลอน.......//ทอฝัน(8)

วันละ นิด คิดคำเรียง เสียงเล็กน้อย
ภาษาร้อย ถ้อยคำ ล้ำประสาน
จากหนึ่งบท ครบจบพัน คำกลอนกานท์
จดเขียนงาน  ครั้งละสี่ วรรคบทกลอน...(my smile)(9)

เข้า มาช่วยเพิ่มเติมและเสริมแต่ง
มาร่วมแรงเชิดชูอนุสรณ์
ด้วยหลงไหลลำนำ ในคำกลอน
ทุกวรรคตอนครุ่นคิดให้ติดตรึง.....(nasmok)(10)

กลอนพัน บท  อดใจรอ เดี๋ยวก็ครบ
แต่งให้จบ  ต่อจนครบ  คงครบฝัน
ครบไม่ครบ  จบไม่จบ  คงพบกัน
ได้แค่นั้น  คงสร้างสรรค์  กว่าสิ่งใด.....(tingtong)(11)

มาเรียงร้อย   ถ้อยคำหวาน  ผ่านกวี
มา เรียงร้อย     ถ้อยวลี    ที่อ่อนไหว
มาเรียงร้อย มาร้อยเรียง เอียงชิดใกล้
มาเรียงร้อย   คอยถามไถ่    ให้คิดถึง (12)

จะต่อ กลอนให้มันส์ต้องปั้นแต่ง
เรื่องตำแหน่งแบ่งคำทำให้ทึ่ง
เขียนให้ถูก ผูกสัมผัสให้รัดรึง
อ่านแล้วจึงให้คุณค่าขึ้นกว่าเดิม.....(nasmok)(13

...โดนปาดหน้าแซงไปเลยไร้สัมผัส(ระหว่างบท)ขอโทษนะ ค้า...!!!
กลอนลับลับล่อล่อรอลุงเวป
กลอนเจ็บเจ็บเหน็บเด็ด เกล็ดขยาย
กลอนเจ้าชู้เสน่ห์ร้อนอ้อนสายใย
กลอนละไมน่ารักซะต้องนะ โม...(14)

กลอนพริ้วไหวยกให้ระนาดเอก
กลอนเด็กเด็กงอแงแค่ทอฝัน
กลอน หวาดเสียวแต่งามงดกชนันท์
กลอนมันส์ๆขอบอกดอกกระเจียว...(15)

กลอน ชีวิตป้ากุลเธอหนุนส่ง
กลอนงงๆจริงใจคนไร้ค่า
กลอนหวานๆไพเราะดีพี่ เมฆา
กลอนบ้าๆน่ารักต้องทักษมน...(?)(16

อีกมากมายหลายท่านในบ้าน นี้
เอ่ยนามมีให้เห็นเป็นเบื้องต้น
ต่อครั้งหน้ามาพบครบทุกคน
ล้วน น่ายลโปรดติดตามตอนต่อไป.......(ทอฝัน)(17)
หนูทอฝัน ขยันคัดเรียงร้อย
หยิกหยอกหน่อย ผ่านวจี สีสดใส

เหล่า มวลมิตร อมยิ้ม พริ้มละไม
อย่าเกรงใจ ให้ผ่านเลยอย่าเอ่ยนาม ....e-no (18)

ขอต่อด้วยช่วยกันครบพันบท
มธุรสบทกวีศรีสยาม
ช่าง ไพเราะเสนาะหูทุกผู้นาม
ในข้อความงามซึ้งซึ่งกวี(?)
จะเขียน กลอนอย่างที่ใจใฝ่จะเขียน
แล้วมั่นเพียรเขียนลักษณ์อักษรศรี
ทั้งมุ่ง หวังให้ก้าวหน้ามีท่าที
ให้น้องพี่สานต่อได้ไม่เลอะเลือน(?)
ขอต่อด้วยช่วยกันครบพันบท
มธุรสบทกวีศรีสยาม
ช่างไพเราะ เสนาะหูทุกผู้นาม
ในข้อความงามซึ้งซึ่งกวี ((ฟ้า)มารสุรา)(19)

 จะเขียน กลอนอย่างที่ใจใฝ่จะเขียน
แล้วมั่นเพียรเขียนลักษณ์อักษรศรี
ทั้งมุ่ง หวังให้ก้าวหน้ามีท่าที
ให้น้องพี่สานต่อได้ไม่เลอะเลือน ( monnangrum)(20)

เขียนกลอนคนละวันแค่พันบท
คงมันหยดมุ่งมาหาความเหมือน
บ้าง ต่อกลอนสอนใจไว้คอยเตือน
บ้างยลเยือนกลบทตามกฏเกณฑ์  (“ลุงปรางค์  สามยอด จ้า”)(21)

จะดีไหมหาก ต่อกลอนอวยพรพ่อ
ผู้เกิดก่อบารมีอย่างที่เห็น
ศิริราชบริบาลราษฎร์ร่ม เย็น
องค์ทรงเน้นเย็นมีที่ประชา masapaer  (22)
เป็นนิยายนั้นเข้าที จะดีแน่
ติดตรงแค่เรื่องอะไรใสเนื้อหา
เป็นตอนตอนต่อไปได้ปัญญา
ยัง จะดูดูเข้าท่าน่าต่อจัง(23)

อุปโลกตัวละครสักท่อนเถิด
เหลือประเสริฐ มากดีมีมนตร์ขลัง
คนมาอ่านจะตั้งตาคืนมายัง
ทั้งนอนนั่งรออ่านกลอนตอน ต่อไป(24)

สำหรับผมขอจองบทพระเอก
อยู่วิเวกเอกาน้ำตาไหล
หวังmasapaer เป็นขวัญใจ
ต่อกลอนให้แว่วหวานในบ้านกลอน(25)

ยังสอดแทรกเรื่องได้ หลายหลายอย่าง
เป็นแนวทางสืบส่งวงอักษร
จะถึงพันนั้นไซร์ไม่อาทร-
นึก หนาวร้อนในใจใช่ไหมเออดอกกระเจียว (26)
คนอย่างมะสะ แปร์แหมไม่เก่ง
จะออดอ้อนกลอนเพลงเร่งเสนอ
กับผู้ใดไหนยากมักไม่เจอ
หรือ ไม่ก็แบเบลอเผลอเล่นไป(27)

เป็นนักกลอนอ่อนด้อยคอยฝึกหัด
ไม่เด่นรัด ตัวเอกเลขตัวไหน
ตัวติดดินชินอย่างง่ายสบายใจ
เรื่องต่อคอพระเอกไทย ยังไกลตน  masapaer   (28)
...มาต่อกลอนคนดัง ขลังทุกบท
เธองามงดลีลาพาฉงน
กลอนของเธอเกลาจิตลิขิตคน
บนความซน เธอสวยสะ"มะสะแปร์"...(29)

...กลอน"e-no"โชว์ดีฝีมือเฉียบ
ต่อ กลอนเนี้ยบนุ่มนวลกวนดีแท้
เขียนกลอนรักได้งดงามยามอ่อนแอ
คือของแท้ ไร้เทียมทานคู่บ้านกลอน...(30)

...,มิเอ่ยนามไม่ได้ผู้ใหญ่บ้าน
สร้าง ตำนานบรรลุอุทาหรณ์
"ลุงปรางค์"อยู่คู่คนกล้ามาทุกตอน
ครูผู้สอนกลอน พาภาษากานท์...(31)

...แค่นี้ก่อนตอนหน้าว่ากันใหม่
จะเลือกใคร เป็นพระเอกเสกข้าวสาร
อยากยกให้พี่"ดอกกระเจียว"บาน
แต่"คำหวาน"เขา จองคงต้องชิง...//ทอฝัน(32)
...คุณ "tingtong"เจ้าของกระทู้อยู่ที่ไหน
เห็นไหมใครเขาดันกลอนมานอนนิ่ง
ทั้ง พี่น้องครูบาเขามาจริง
ไข่แล้วทิ้งเดี๋ยวเจอกันวันเธอออน...(33)

...เป็น โอกาสของพวกเราเข้ามาฝึก
คือบันทึกเริ่มต้นมีคนสอน
เขียนทุกวันปันคำ ลำนำกลอน
ลองเริ่มก่อนเดี๋ยวนี้ที่นี่เลย...//ทอฝัน(34)
ทอฝันดันกระทู้ดูดีนัก
เล่น แทงกั๊กยักไล่ไม่นิ่งเฉย
ดึงเหล่านามมวลมิตรมาชิดเชย
เอามาเอ่ยล่าไล่ ให้เพลินจริง   (35)

ขยันดีแบบนี้มีของแถม
จะหอมแก้มแจมด้วยช่วย กันกลิ้ง
ลากกระทู้ดูมันส์ขันเป็นลิง
หัวใสปิ๊งวิ่งไหลในเพลงกลอน   (36)

จะกะล่อนหลอนใครให้มีลุ้น
เดี๋ยวแม่คุณทอฝันนั้นจะอ้อน
ล่า รายชื่อถือไว้ไม่ยอมนอน
กรนเป็นกลอนตอนนี้จี้หัวใจ  (37)

พี่ มะสะแปร์จ้า
ขอแจมหน่อยได้ไหมนอนไม่หลับ
หมามันขับเสียงหอน..นอนหวั่นไหว
นอก หน้าต่างเหลียวดูไร้ผู้ใด
มีเพียงยอดไม้ไกว..ท่ามสายลม(38)

เห็น กระทู้ดูมาน่าสนุก
ขอบุกรุกเล็กน้อยหน่อยครับผม
ร่วมกับท่านสาน เจตนารมณ์
ค่อยสะสมทุกวันจนพันกลอน๛เกล็ด นาคา (39)
มาต่อเติมเสริมห้องคล้องประสงค์
แต้มบรรจงลงลักษณ์รูปอักษร
ให้ เต็มลานกานท์ถ้อยร้อยสุนทร
งามชะอ้อนออกคำตามใจคิด (40)

เหล่ เล๊ เล๊ เหล่ เรียม เร
เห่เอยเห่ เอ่ช้า... มาใช้สิทธิ์
ช่วยอีกแรงแข็ง ขันนฤมิต
เพื่อลิขิตบทกลอนให้ครบพันสุวรรณ (41)

มาช่วยต่อคำกลอนอ้อนสักนิด
ให้ลิขิตรเป็นไปดั่งใจฝัน
มา ขับกล่อมบรรเลงเพลงกลอนกัน
หาใช่ฝันถ้าร่วมกันครบพันเอยแม่ค้าหน้าหวาน (42)

อีกบทนะอีกบท
ร่วม ร่ายพจน์รดรินอวลกลิ่นเอ๋ย
บัดนี้สองเรามารำเพย
ขอเขนยเกยกลอนนอนฝัน ดี สุวรรณ (43)

ไข่แล้วทิ้ง  ไม่จริง  ไม่มีหลอก
เลยมาบอก  ยังติดตาม  ความคิดเห็น
แต่ ไม่ค่อย  ตอบต่าง  อย่างที่เป็น
เลยว่างเว้น  เช่นนี้  อย่ามีเคือง(44)tingtong

เจ้าของมา ทำไงหนูดรีมจ๋า
ดันไปว่า เค้าไข่ทิ้ง ชิงหาเรื่อง
นี่ มาหยอก ออดแซว อย่าขุ่นเคือง
ไม่อยากเปลือง ค่ายา ปล่อยป้าไป..48e-no

...ถ้าไม่ยั่วกลัว ไม่มาค่ะ" tingtong"
แหมแอบย่องมาออนเอาตอนไหน
ทอฝันมาไม่ทันไม่ เป็นไร
เห็นใครใครเขามาเราหน้าบาน...(49)

...กลเม็ด"เกล็ดนาคา"พา สรวลสรรค์
มาทุกวันนะคนดีมาช่วยสาน
เราจะร่วมเรียงร้อยร่ายถ้อยกานท์
สร้าง ตำนานหนึ่งนี้ที่บ้านกลอน...(50)

...นั่น"สุวรรณ"มาดันกลอนคนนอนดึก
เห็น แล้วคึกคักใจไหวสะท้อน
อบอุ่นเหลือเยื่อใยใส่บทกลอน
อนุสรณ์แห่งเรา ย่อมเข้าใจ...(51)

...ปลื้มที่สุดรักแท้คือ"แม่ค้า
โพสต์กลอนมา พร้อมหน้าหวาน"เจ้าขานไข
อย่าทิ้งกันช่วยดันกลอนอ้อนละไม
ช่วยกันให้ ครบพันฝันเป็นจริง...(52)

..."หทัยชนก"ยกคำสำนวนเพราะ
ท่วงทำนอง ไพเราะเสนาะยิ่ง
สัญญาญเน็ตขาดไปไม่ประวิง
สัญญาญใจเรายังวิ่งไม่ทิ้ง กัน...(53)

...ได้โปรดเถิดวนเวียนมาเขียนต่อ
อย่าเพิ่งท้อโลเลใจ เหหัน
มิตรภาพท่วมทบจนครบพัน
เพื่อยืนยันยืนยงดำรงกลอน...(54)

...พี่"ฮอท "อยู่ที่ไหนไม่มาต่อ
น้องเขารอพี่ชายให้มาสอน
"ปรอท"เปรียวเที่ยวไกล ไยตัดรอน
มาต่อกลอนโชว์ด้วยช่วยช่วยกัน...(55)

...ถ้าไม่อยากให้ ตามตัวกลัวเสียชื่อ
รีบลงมือร่ายกลอนอ้อนขยัน
ทั้งพี่เก่าน้องใหม่ ด้วยนะช่วยกัน
สื่อสัมพันธ์สามัคคีที่บ้านกลอน...ทอฝัน(56)

*หมานเหตุ...ที่56ข้ามมาเป็น61นั้นข้าพเจ้าเองก็ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใดแต่น่าจะมีคนลบทิ้งขอรับ

เมื่อแรกเริ่มเติมฝันเข้าบ้านนี้
ด้วยใจที่ใฝ่ฝันอันฟู เฟื่อง
ดุจแมงเม่าหลงแรงแสงเรืองเรือง
แสนขุ่นเคืองทุกข์เศร้าปวดร้าว ใจ(61)

ยังอยู่ยืนคงทน ณ หนนี้
เหมือนแรกที่ย่างกรายไม่ไปไหน
มี เกล็ดนาคา ลุงสายใย
หนุ่มนะโม และใครอีกหลายคน(62)

มีบางท่าน ห่างหายไม่พบหน้า
อย่างเจ้านาง  พลอยพาคิดสับสน
หมอวฤกก็หายไปอีกคน
อีกรุ่น หลังต่างหลีกพ้นค่อยตามไป(63)

มาถึงเราเข้าทีนี้ยังคิด
จะตามติด หรือเล่าเศร้าไฉน
อินเตอร์เน็ตโลกกว้างหนทางไกล
ทั้งชื่อแซ่เปลี่ยนไป เกินจดจำ(64)

ยังอีกมากหลากชื่อหรือจำหมด
เคยปรากฎชื่อไว้ในโลก ล้ำ
ด้วยสังคมกว้างไกลให้ระกำ
จะโน้มนำเหนี่ยวไว้ให้คงเดิม(65)

ขอ ร่วมแรงแฝงฝากเมื่อยากไร้
อยู่ในบ้านกลอนไทยใจส่งเสริม
ด้วยน้ำใจใฝ่ ฝันนั้นต่อเติม
เหมือนแรกเริ่มมิเปลี่ยนไปที่ไหนเลยดอกกระเจียว(66)

 
...ตอบทันทีเห็น พี่"เจียว"มาเทียวต่อ
หลายคนรอพี่ชายคลายเฉลย
เพื่อนพ้องเราเก่าใหม่ ไม่ผ่านเลย
คนคุ้นเคยสักวันต้องผันมา...(67)

...ชื่อจารึกเป็น ตำนานสานต่อแล้ว
เริ่มมีแววผูกพันร่วมหรรษา
คือสิ่งนี้ที่ยิ่งใหญ่ใน เจตนา
"ทอฝัน"กล้าบันทึกผนึกคำ...(68)

...ช่วยกระจายข่าวไปถึงใคร ด้วย
รีบมาช่วยระเลงรัวอย่ามัวขำ
คอลัมล์นิสต์คนเก่าเจ้าประจำ
อย่า ลืมคำสัญญามาทุกวัน(นะ)...(69)

...ครบพันบทรวมเล่มคงเข้มข้น
เรา ทุกคนคือเจ้าของลองดูไหม
บันทึกนี้ชื่อ"ตำนานบ้านกลอนไทย"
ใครเป็นใคร เปิดดูก็รู้เอง...(70)

...ต้องไปก่อนเขียนกลอนยาวกว่าเขาแล้ว
เดี๋ยว โดนแซวนอนซมโดนข่มเหง
"หทัยชนก"มาบ่อยบ่อยนะตัวเอง
พี่เริ่มเล็งคล้าย จะรู้หนูคือใคร...//ทอฝัน...(71)
กลอนมากมาย  หายสิบ  เขาหยิบเข้า
กระทู้เรา  น่าภูมิใจ  ให้หนักหนา
คุณ ทอฝัน  ที่ไม่เห็น  เป็นผมมา
หรือคงจา  ลืมเลือน  ขอเตือนใจtingtong(72)
ใครจะลืมช่างเขาเราไม่ว่า
แต่ช่วยมาสานต่อจะได้ไหม
เชิญ พี่น้องบ้านกลอนไทยมาร่วมใจ
สานแต่งให้ครบพันบทน่าจดจำ  แม่ค้าหน้าหวาน(73)
..."มนวิภา"มาหรือ ยังขอฟังเสียง
ส่งสำเนียงเชิงกลอนอ้อนถลำ
อย่าลังเลรีบมาพร้อมยาดำ
พี่ ยังจำรสยาเด็ดมันเข็ดใจ...(74)

..."ตุลย์"อยู่ไหนไยเก็บตัวกลัวใคร หรือ
ล่ารายชื่อครบแล้วแจวมาได้
บรรเลงกลอนอ้อนมายังคาใจ
รีบมาไข ทวนทบให้ครบพัน...//ทอฝัน...(75)
(...ตุลย์....ตุลาทิตย์)
คุณดรีมเป็น โต้โผ แม่งานใหญ่
เหมากลอนไป กว่าสิบบท อดสงสัย
ครบรึยัง สมาชิก บ้านกลอนไทย
ขาดท่านใด ให้ช่วยคิด รีบติดกลอน(e-no)78

เห็นเขาว่าแต่งให้ครบ จบพันบท         
เราก็อดใจไม่ได้ต้องมาเอี่ยว
แต่เสียดายที่หัวผมมันบิด เบี้ยว             
ดีแต่เที่ยวหาความสุขไปวันวัน(72) เด็กหนุ่มไม่รู้จักโต

...ว่าจะพักสัก หน่อยค่อยค่อยต่อ
แต่มันรอไม่ได้คล้ายใครเร่ง
ที่มิเอ่ยนามไปใจยัง เกรง
ด้วยคว้างเคว้งตัวเราไม่เก๋าพอ...(83)

...ทั้งใหม่เก่าเชิญ พวกเราเข้ามาช่วย
ที่มาแล้วฝากด้วยช่วยกันต่อ
คงไม่ไกลเกินฝันแค่พัน พอ
รู้ว่าแคร์แล้วอย่าท้อต้องรอนาน...(84)

...ขอบคุณขาประจำสม่ำ เสมอ
มั่นใจเธอทุกนามตามประสาน
ร่วมเรียงร้อยจนเสร็จสำเร็จการ
คือ ตำนานบ้านกลอนไว้ย้อนเตือน...//ทอฝัน...(85)

ถึงวันเสาร์เอนกายสบายนัก
ดูหนังรักสุดซึ้งถึงตี ห้า
วันอาทิตย์เที่ยวห้างซื้อสินค้า
พอกลับมาถึงบ้าน..อ่านนิยาย(90)

ยิน เสียงเพื่อนเตือนมาตอนห้าทุ่ม
ต้องนั่งกุมสองขมับเหมือนตับหาย
กองกอง บ้านไม่เสร็จ..ไอ้เกล็ดตาย
ทิ้งนิยายอ้างว้างข้างถุงเลย์(91)

รีบ สะสางการบ้านอาการหนัก
พิมพ์งานไม่ยอมพักตาชักเหล่
ผิดเองที่ปล่อยใจ ให้เกเร
เลยต้องเป๋ตาเอียง..ข้ามเที่ยงคืน(92)

จบกระบวนถ้วน ถี่..ตีหนึ่งผ่าน
เหล่าการบ้านเสร็จหมดเเสนสดชื่น
นอนแผ่หรากายตนลงบน พื้น
ยิ้มระรื่นยักคิ้วแถมหลิ่วตา(93)เกร็ดนาคา

*หมายเหตุที่ข้ามมาอีกก็ไม่รู้เหตุผลเช่นกัน

...แปดโมงเช้ารีบ เข้าบ้านสานงานต่อ
เพื่อนมารอแสนดีใจคลายสับสน
ไฟฟ้าดับเมื่อตอนดึก นึกกังวล
รีบรานรนส่งน้องเจ้าไปเข้านอน...(97)

...นิยายรักพัก อ่านมานานแล้ว
เปลี่ยนอ่านแนวอีโรติคเริ่มริกร้อน
เพื่อสะสม ประสบการณ์งานบางตอน
การพักผ่อนของเราคือเฝ้าเรือน...(98)

...สัญญา ญหนึ่งส่งถึงตรึงใจมิตร
คล้ายเราคิดตรงกันฝันจึงเหมือน
ขอเพียงเธอ อย่าร้างไปใจลางเลือน
เพราะเราเพื่อนกันแล้วอย่าแคล้วครา...ทอฝัน...(99)


...แปดโมงเช้ารีบเข้าบ้านสานงานต่อ
เพื่อนมารอแสนดีใจคลายสับสน
ไฟฟ้า ดับเมื่อตอนดึกนึกกังวล
รีบรานรนส่งน้องเจ้าไปเข้านอน...(97)

...นิยาย รักพักอ่านมานานแล้ว
เปลี่ยนอ่านแนวอีโรติคเริ่มริกร้อน
เพื่อสะสม ประสบการณ์งานบางตอน
การพักผ่อนของเราคือเฝ้าเรือน...(98)

...สัญญา ญหนึ่งส่งถึงตรึงใจมิตร
คล้ายเราคิดตรงกันฝันจึงเหมือน
ขอเพียงเธอ อย่าร้างไปใจลางเลือน
เพราะเราเพื่อนกันแล้วอย่าแคล้วครา...ทอฝัน...(99)

แสน ขยัน..ทอฝันสาว..เจ้าอักษร
เจ้าอิงอร..เขียนกลอนเข้า..แต่เช้าหนา
ป้า กุลเลย..มาขอแจม..แช่มอุรา
ไม่นานช้า..คงจะครบ..จบที่พัน(100)
กุลมาตา

อ๊ากกกก....เยอะจนยากจะเรียบเรียงเอาถึง100ก่อนแล้วกันใครว่างๆก็เรียบเรียงต่อให้ด้วยนะครับ
ถ้ามันข้ามๆไปคงมี  “คนไร้เหตุผลที่โตด้วยวัยวุฒิ”เขาลบไปนะครับ


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 10 กรกฎาคม 2010, 06:27:PM
tingtong แต่งเพิ่มเข้าไปเลยนะหลานนะ
ป้ากุลสนับสนุนเพราะ..ช่างคิดจริงๆ
เป็นกระทู้ที่ต่อได้นานที่สุดในกินเนสบุ๊คแน่นอน
สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



แสนสงสาร  หลานลุงป้า  มาช่วยต่อ 
สร้างสรรค์ก่อ ต่อกระทู้  สู้ให้ได้
ตามกระทู้  กู้ชื่อ  ให้ลือไกล
แต่งกันไว้  ร่ายยาว  ชาวกวี..๔๙๑

เถอะหลานหลาน  งานทั้งหลาย ไม่ย่อท้อ
อุปสรรค  มักมีหนอ  ขออย่าหนี
ใครหมั่นไส้  ใครไม่ชอบ  อย่าตอบตี
เพิ่มบารมี  ทำดีต่อ  อย่าท้อเลย..๔๙๒

เข้ามาแล้ว  มิแจวหนี  ลี้เร้นลับ
มาแต่งต่อ  ขอสำทับ  รับเจ้าเอ่ย
เป็นเรื่องดี  ศรีมงคล  แม้คนเย้ย
ทำนิ่งเฉย  อย่าเลยละ  ปะคารม..๔๙๓

งานใหญ่น้อย  ถ้อยที  ถ้อยอาศัย
ถึงเส้นชัย  ในข้างหน้า  อย่าให้ล่ม
ใกล้ครึ่งทาง  วางใจ  ไปต่อสม
ใครเขาข่ม  ไม่ขมขื่น  น่าชื่นใจ..๔๙๔

ขออีกบท  พจน์ถ้อย  ร้อยมาให้
ได้ใกล้ๆ  ห้าร้อย  มิถอยใส่
วอนหลานๆ  อย่าพาลเซ็ง  เร่งรีบให้
ต่อได้ครบ  จบพันใน  เมื่อใจพร้อม..๔๙๕


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 11 กรกฎาคม 2010, 10:20:AM
เป็นเรื่องราว  ฉาวให้เซ็ง  นะเต็งเอ๋ย
ป้าต่อเลย  เฉลยมา น่าหวานหอม
ครบห้าร้อย  ถ้อยบท  จดออมชอม
สู้ถนอม  กล่อมต่อ  ขอกลอนกานท์..๔๙๖

หากหายเซ็ง  เร่งมาต่อ  ขอเถิดหลาน
อย่าร้าวฉาน  ผ่านเวบ เก็บไว้บ้าน
ใครไม่ชอบ  ไม่ตอบตี  รี่ทำงาน
อีกห้าร้อย  คอยหลานๆ  มาสานทำ..๔๙๗

ทั้งe-no     นะโมหนุ่ม  ซุ่มหายหัว
มิต้องกลัว  ป้าขอพัก  ผลักให้หำ
ทั้งเมฆา  คนไร้ค่า  อย่าระกำ
อีกห้าร้อย  คอยมาตำ  ยำกาพย์กลอน..๔๙๘

ต่อมาเยอะ  เถอะหลานๆ  คลานมาต่อ
โชว์ฝีมือ  อย่าย่อท้อ  ขออ้อนๆ
ห้าร้อยแล้ว  แว่วประกาศ  ขาดบทกลอน
อีกห้าร้อย  คอยต่อก่อน  กลอนกวี..๔๙๙

ช่วยไชโย  โห่ฮิ้ว  คิวห้าร้อย
ถึงแล้วคอย  พลอยต่อ  ขอเร็วรี่
ฝีมือใคร  ได้ประจักษ์  นักคนดี
ห้าร้อยมี  ที่หมาย  ใครอยากทำ..๕๐๐


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 11 กรกฎาคม 2010, 10:37:AM
โดนพาดพิงอิงถึง จึงมาต่อ
ป้ากุลพ้อต่อว่า  พาแสนช้ำ
คิดไม่ออก บอกไม่ถูกจึงถูกยำ
แสนระกำ ทำร้ายขายจิตใจ..501


มาแกล้งเย้าเว้าหยอก มาบอกกล่าว
งานหนักเอา เบาสู้ ใช่อยู่ไหน
กำลังเร่ง เบ่งเงินเพลินเพลิดไง
หมายหนุ่มไว้ สิ้นปี เดี๋ยวมีเฮ..502


เรียกสินสอด สอดแนม แกมโกงนัก
หลายหลักจัก ชักตาย คล้ายหักเห
สี่ร้อยล้าน หลานนิ่ง ทิ้งทะเล
คิดถ่ายเท แม่กุล ลุ้นลูกชาย..503


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: WinNoCute ที่ 11 กรกฎาคม 2010, 11:38:AM
แต่งไม่ดี แต่งไม่ออก แต่งไม่เป็น
ต่อบทเห็น ต่อให้ยาว ต่อให้คล้าย
คิดไม่ดี คิดไม่เห็น คิดไม่ตาย
แต่ได้หลาย แต่ได้ดี ไม่ต้องมน...504

ไม่อยากแซว ไม่อยากพูด เดี๋ยวโดนตบ
ผลกระทบ ผลสอบ มันมีผล
นอนฝันดี นอนฝ้ายร้าย หรือนอนกล
ไม่มีผล ไม่มีดี เหมือนหัวใจ...505

อยากจะแต่ง อยากจะเติม ให้ครบพัน
ไม่อยากฝัน ไม่อยากคิด ไม่ไปไหน
นั่งแต่งต่อ นั่งแต่อีก นั่งแต่งไป
แต่ฉไน ไม่อยากต่อ ไม่อยากแต่ง...506

แต่เดี๋ยวก่อน แต่แปปนึง ขออีกหนึ่ง
คิดคำนึง จะคิดถึง คิดแสวง
เขียนไม่ได้ เขียนไม่ออก นั่งงองแงง
นั่งหยักแหยง นั่งน้ำลาย หลับไหลเลย...507


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 11 กรกฎาคม 2010, 06:18:PM
...ฟ้าสว่างทางฝันพลันเฉิดฉาย
ทอประกายสายรักจักเฉลย
บ้านกลอนไทยใครอยู่ย่อมรู้เลย
เราไม่เคยทิ้งกันวันมืดมน...(508)


...คนหนึ่งพักอีกคนก่อต่อไม่สิ้น
สานชีวินรินใจใช่สับสน
สอดสัมผัสมัดร้อยคล้อยกมล
รวมหลายคนเป็นหนึ่งจึงซึ้งใจ...(509)


...ตำนานไกลใส่กลอนลองนอนนึก
แน่นผนึกลึกล้ำจดจำได้
จะร่วมเรียงหรือผ่านเลยเผยความใน
ค่ายิ่งใหญ่แห่งคำยังย้ำเตือน...(510)


...ใครแจ่มแจ้งจบเจนอย่าเบนเข็ม
มาเติมเต็มแจงลายให้คล้ายเหมือน
ชี้นำแนะแกะกลอนวอนมาเยือน
แล้วค่อยเคลื่อนเลื่อนไหลไปถึงพัน.../ทอฝัน...(511)

....."ทอฝัน"หายไปหลายวันคิดถึงทุกคนมากๆค่ะ...!!!


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 12 กรกฎาคม 2010, 12:35:PM
ห้าหนึ่งสอง  ลองเสริม  แต่งเติมส่ง
ด้วยจำนง  มุ่งหวัง  สู่ฝั่งฝัน
ก้าวต่อไป  เรื่อยเรื่อย  เหนื่อยพักกัน
หายเหนื่อยหัน  หน้ามา  ว่าคำกลอน

ห้าหนึ่งสาม  ตามติด  ประชิดต่อ
ค่อยถักทอ  เติมไฟ  ไม่ถอดถอน
เก็บเกี่ยวถ้อย  ร้อยรัด  ไม่ตัดตอน
ด้วยอาวรณ์  อ้อนเสริม  เติมเต็มใจ

ห้าหนึ่งสี่  หนีสุด  จุดเริ่มต้น
ไม่สับสน  งวยงง  สิ้นสงสัย
ไม่หยุดยั้ง  รั้งรอ  ต่อกันไป
สู่เส้นชัย  ใกล้เห็น  เป็นความจริง

ห้าหนึ่งห้า  ท้าทาย  ทำนายว่า
เราจะฝ่า  ฟันไป  ได้ทุกสิ่ง
อุปสัค  จักมา  อย่าประวิง
เพียงมั่นใจ  ไม่ทิ้ง  สู้จริงจัง

ห้าหนึ่งหก   ยกนี้  มีจำกัด
เพราะเพิ่งหัด  แต่งกานท์  สานความหวัง
ก็จะขอ  ต่อเติม  เสริมพลัง
ไม่หยุดยั้ง  เผื่อใคร  ให้คะแนน...


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_007.gif)



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 12 กรกฎาคม 2010, 01:18:PM
...งั้นขอเขียนบทที่พันกันไว้ก่อน
แล้วค่อยย้อนขึ้นมาจะว่าใหม
พี่"ทอฝัน"กลัวน้อง"เต็ง"เล็งปืนไว
จึงจองไว้แต่ต้นไม่พ้นมือ.../ทอฝัน...(1000)

.....555...แก้เครียดน๊า...ป่าวขี้โกงแค่หมั่นไส้เจ้าของกระทู้อ่ะ...!!!


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 13 กรกฎาคม 2010, 03:38:PM
ห้าหนึ่งเจ็ด เคล็ดลับ ช่วยนับง่าย
คุณ”แงซาย”คนนี้หัวดีแสน
เดี๋ยวบวกเลยเอ่ยบอกไม่หลอกแฟน
แต่ขอแขวน รอท่า ห้านาที

ห้าหนึ่งแปด แผดเสียง จงเลี่ยงหน่อย
 คำมีน้อย ไม่ค่อยคล่อง ครับน้องพี่
ถ้าขืนแต่งต่อไปจะไม่ดี
พอแค่หนีก่อนหนอ ไม่รอนาน (สายใย)
 



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: my smile ที่ 13 กรกฎาคม 2010, 03:53:PM
ห้าหนึ่งเจ็ด เคล็ดลับ ช่วยนับง่าย
คุณ”แงซาย”คนนี้หัวดีแสน
เดี๋ยวบวกเลยเอ่ยบอกไม่หลอกแฟน
แต่ขอแขวน รอท่า ห้านาที

ห้าหนึ่งแปด แผดเสียง จงเลี่ยงหน่อย
 คำมีน้อย ไม่ค่อยคล่อง ครับน้องพี่
ถ้าขืนแต่งต่อไปจะไม่ดี
พอแค่หนีก่อนหนอ ไม่รอนาน (สายใย)
 



ลุงสายใย แวะมา แล้วเผ่นถอย
มาแบบน้อย บทกลอน เรียงขับขาน
แวะมาป่วน ชวนล้อ แล้วขอผ่าน
ไม่รอนาน หนูไปด้วย เริ่มไม่ดี... (ไปไม่ถูกแล้วค่ะ ฮิฮิ)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 13 กรกฎาคม 2010, 05:05:PM
...จะรีบไปไหนเล่าเหล่าพี่น้อง
กลอนเดินคล่องคลายคำประจำที่
แวะเวียนมาอย่าผ่านลานกวี
ถือเป็นที่พักผ่อนยามกลอนตัน...(520)


...อาจมีมั่วยั่วเย้ากระเซ้าซุก
ทั้งรับรุกลวดลายหมายสร้างสรร
มากมายมิตรชิดชูรู้ใจกัน
รวมหนึ่งพันปันรักอักษรา../ทอฝัน...(521)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: my smile ที่ 13 กรกฎาคม 2010, 05:16:PM
...จะรีบไปไหนเล่าเหล่าพี่น้อง
กลอนเดินคล่องคลายคำประจำที่
แวะเวียนมาอย่าผ่านลานกวี
ถือเป็นที่พักผ่อนยามกลอนตัน...(520)


...อาจมีมั่วยั่วเย้ากระเซ้าซุก
ทั้งรับรุกลวดลายหมายสร้างสรร
มากมายมิตรชิดชูรู้ใจกัน
รวมหนึ่งพันปันรักอักษรา../ทอฝัน...(521)



กว่าจะถึงพันเหมือนว่าจะหมดแรง
เดินตะแคงโยกเยกปวดแข้งขา
ปวดทึบทึบ เหมือนมีใครเขกหัว เริ่มชาชา
หรือเราบ้า ว่าแต่ว่า เมื่อไหร่จะถึงพัน..........522


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 13 กรกฎาคม 2010, 05:27:PM
...ยิ้มของเธอคนนี้มีความหมาย
เปล่งประกายฉายเยือนมาเตือนฝัน
อย่ากังวลเมื่อไรจะได้พัน
หากเคียงกันให้ตลอดก็รอดเอย.../ทอฝัน...(523)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: tanapok ที่ 13 กรกฎาคม 2010, 06:35:PM
emo_85 emo_85 emo_85 emo_85 emo_85 emo_85 emo_85 emo_85 emo_85 emo_85


กลับมาแล้ว   แก้วตา   ครั้งลาจาก
เกือบจะพราก   ปากบอกเธอ   ละเมอเผย
จากไปไกล   ใจสะเทือน   ไม่เหมือนเคย
กลับมาเอ่ย   ดั่งเคยก่อ   ต่อคำกานท์           (524)


ฟังมาแล้ว   แววกลอน   อักษรผัน
ชวนเชิญกัน   มาสรรค์แต่ง   แบ่งผสาน
ให้ครบครัน   พันบทกลอน   มิหย่อนยาน
จึงส่งสาส์น   ผ่านมา   ว่ายินดี             (525)


กระผมด้วย   ช่วยแต่งเพิ่ม   ต่อเติมบท
จะลองกด   ทดสอบเพิ่ม   เติมสุขี
ผ่านงานคิด   ผิด - ถูก บ้าง   วางวจี
จึงชวนพี่   ที่เก่งเก่ง   เร่งติเตือน           (526)   
   


 emo_68 emo_68 emo_68 emo_68 emo_68 emo_68 emo_68 emo_68 emo_68


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: my smile ที่ 13 กรกฎาคม 2010, 06:56:PM
...ยิ้มของเธอคนนี้มีความหมาย
เปล่งประกายฉายเยือนมาเตือนฝัน
อย่ากังวลเมื่อไรจะได้พัน
หากเคียงกันให้ตลอดก็รอดเอย.../ทอฝัน...(523)




ถูกปาดหน้าแซงโค้งซะงั้น
มึนเลยฉันต้องแต่งเติมแบบเชือนเชือน
tanapok ทำงานเข้าโถ่ไอ้เพื่อน ....รึเปล่า (ขอโทษน่ะค่ะหาก tanapok อาวุโสกว่า แบบว่าขอสัมผัส)
ความมึนมันมาเยือนเหมือนอย่างเคย....527

ทางขรุขระอยากจะถึงคงเหนื่อยล้า
สู่จุดหมายข้างหน้าไม่อาจเฉย
กำลังใจจากคนเคียงข้างยากจะเฉยเมย
จึงเอื้อนเอ่ยเผยคำกลอนหวังคะแนน....ฮิฮิ.....528

เจ้าของกระทู้บอกฝากถึงตรงนั้น
บทที่พันกดบวกซึ้งสุดแสน
เฝ้าเติมต่อเผื่อจะได้ห้าคะแนน
เหล่าแฟนแฟนรีบเร่เข้ามาอย่ารีรอ....529

...ว้าว ๆ ๆ ได้ทั้งสามบท555+ อันนี้ต้องขอบคุณ คุณ tanapok น่ะค่ะที่จริงกะสองบทเอง




หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แม่ค้าหน้าหวาน ที่ 13 กรกฎาคม 2010, 06:59:PM
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด
โดนชิงตัดหน้า สองคน ฮือออออออออออออ  emo_33 emo_33 emo_33


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แม่ค้าหน้าหวาน ที่ 13 กรกฎาคม 2010, 07:12:PM
คำสัญญา...ทุกคำ...จำได้มั่น
ไม่มีวัน...ละเลย...เฉยร้องขอ
หนึ่งพันบท...จดจำ...นำทักทอ
อยากวอนขอ...รีบช่วยกัน...ฝันเป็นจริง (530)

อีกไม่นาน...ก็จะถึง...ซึ่งพันบท
อนาคต...ถึงแน่แน่...แม่ยอดหญิง (น้องดรีม)
พี่แม่ค้า...ขายของ...มือระวิง
แต่ไม่ทิ้ง...อยากมาช่วย...ด้วยเต็มใจ (531)




หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: มั่น แซลี้ ที่ 13 กรกฎาคม 2010, 08:24:PM
บทที่พันน้อยไปหน่อยน่ะแม่ค้า
ไม่อ่อนล้าขอหมื่นบทจะได้ไหม
เป็นบทกลอนที่ส่งผ่านจากหัวใจ
ให้แม่ค้าหน้าใสคนสวยชั่วชีวี (532)

น้องคนนี้จะขอแต่งให้วันละบท
เป็นเหมือนบททดสอบใจชายคนนี้
กลั่นออกมาจากรักที่มากมี
ให้คนดีแม่ค้าหน้าหวานคนของใจ (533)



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 13 กรกฎาคม 2010, 11:02:PM
ห้าสามสี่  มีชัย  ไปกว่าครึ่ง
ด้วยสุดซึ้ง  บึ่งตรง  หายสงสัย
เพิ่มคะแนน  "แงซาย"  จาก"สายใย"
เป็นแรงใจ  ให้หนอ  ขอขอบคุณ

ห้าสามห้า  "ป้ากุล"  อุดหนุนเพิ่ม
ช่วยส่งเสริม  เติมเผื่อ  ด้วยเกื้อหนุน
อุ่นใจแท้  แม่พยอม  หอมละมุน
มี"ทอฝัน"  คอยลุ้น  หนุนอีกแรง

ห้าสามหก  ยกมา  "แม่(ค้า)หน้าหวาน"
ของที่ร้าน  ขายดี  มีสีแสง
ออกจากเข่ง  เร่งรัด  จัดแสดง
ไม่แอบแฝง  ของปลอม  มาย้อมแมว

ห้าสามเจ็ด  เสร็จสรรพ  นับไว้ก่อน
วันนี้กลอน  อ่อนพริ้ว  เป็นทิวแถว
my smile ใจสู้  เหมือนรู้แกว
จึงกล้าแซว  เพื่อนยา  ไม่ว่ากัน

ห้าสามแปด  แดดอ่อน  ไม่รู้นัก
มาร่วมถัก  ร่วมต่อ  นะ"ทอฝัน"
หาก"แม่ค้า"  เกาะกลุ่ม  กับหนุ่ม"นันท์"
บทแค่พัน  น้อยไป  ไม่ระอา.....


](http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_010.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 14 กรกฎาคม 2010, 10:35:AM
 
   ห้าสามเก้า เมางาน เพราะ งานเหมา
  เขาเห็นเรา เป็นอะไร ไปแล้วหนา
  โยนงานให้ ไม่คิด พินิจว่า
  หนุ่มเมฆา  ก็คน ใช่ ยนต์-ยาน
     ห้าสี่ศูณย์ พูนพอก ดอกกรองร้อย
  ได้เพียงคอย หลอยลอบ มอบคำหวาน
  อยากแต่งต่อ ก็งานมาก ลำบากกาล
  จึงขออ่าน ทัศนา อย่าว่ากัน.....เมฆา...
 
 


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: kaya ที่ 14 กรกฎาคม 2010, 11:04:AM
ห้าสี่หนึ่ง จึงเขียน มาเนียนแนบ
มาอิงแอบ แบบบท พจน์สร้างสรรค์
ประณตพร้อม น้อมเศียร เพียรจำนรรจ์
ด้วยความฝัน พานสบ พบทักทาย

ห้าสี่สอง คล้องคำ นำภาษา
ขอวันทา ชายหญิง มิ่งสหาย
ทั้งมิตรเก่า มิตรใหม่ ฝากใจกาย
ขอบคุณท่าน ทั้งหลาย ทุกนายนาง  emo_47


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สุดสาย ที่ 14 กรกฎาคม 2010, 11:31:AM


ห้าสี่สามตามมาไม่ช้าเลย
จากคนที่คุ้นเคยเฉลยให้
มาจากถิ่นแดนใต้ใช่ว่าไกล
อาจจะใหม่ไปบ้างอย่าร้างลา

ห้าสี่สี่ทนเหงาเอาอีกครั้ง
วันนี้ยังคงกลอนเศร้าเข้ามาหา
ขอแต่งกลอนเหงาเหงาเพื่อเอาหน้า
ทนอ่านมาหลายบทอย่าหมดใจ

ห้าสี่ห้าคนใหม่เอาใจหวัง
พรุ่งนี้ยังจะมาต่อรอกันใหม่
เดี่ยวขอไปฝีกฝนทนได้ไหม
จะต่อใหม่รอบนี้ดีไม่พอ


..nara..





หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 14 กรกฎาคม 2010, 03:06:PM
ห้าสี่หกรกหน่อยค่อยค่อยจัด
แยกแบ่งคัดมัดหมู่ ให้ดูหนอ
ใครเป็นใครไหนชี้ อย่ารีรอ
ค่อยเขียนต่อรอนิด ดั่งคิดเลย


ห้าสี่เจ็ด เจ็ดศูนย์ ลุ้นใบหวย
ใครหวังรวยหวยมา อย่าพาเฉย
เจ้าแม่อุ้ม หุ้มทองมากองเอย
รับไปเลยเผยรวย งง งวยไป


ห้าสี่แปดแดดกล้า พาเหงื่อตก
สกปรก รกหู ไม่สู้ใส
น้ำไม่มา ไฟไม่มี หนี้เยอะไง
จ่ายค่าไฟให้ก่อน เดี๋ยวผ่อนคืน


อาการร้อน ..คนเลยเพี้ยน


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 14 กรกฎาคม 2010, 07:39:PM
...ออนเข้ามาตอนเย็นย่ำค่ำลงแล้ว
ยินเสียงแว่วเร่งรัดมิขัดขืน
เพื่อนพี่น้องผองเราเขามายืน
ต่างหยิบยื่นเจตนาสุขารมณ์...(549)


...ยิ้มละไมไขคำล้ำเริงรื่น
ปลุกฝันตื่นคืนมิตรสนิทสนม
ร่วมเดินดุ่มดงด้นคนนิยม
ผสานสมคมเข้มให้เต็มกลอน...(550)


...ดั่งดอกไม้หลากสีที่งามสวย
มาชูช่วยแต่งเสริมเติมสลอน
สบัดใบไหวช่อล่อภมร
โอนก้านอ่อนผ่อนพริ้วแล้วปลิวไป...(551)


...สมองฝืดยืดใยไหลไม่คล่อง
เชิญพี่น้องแวะมามียาให้
เริ่มอ่านแต่บทแรกแทรกหัวใจ
แล้วฝากไว้สักสองลองทำดู.../ทอฝัน...(552)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แม่ค้าหน้าหวาน ที่ 14 กรกฎาคม 2010, 11:05:PM
แวะเข้ามา...เหมือนมีมนต์...ดลให้เข้า
ไม่ต้องเหงา...เข้ามานะ...แล้วจะรู้
ทุกคนนั้น...ร่วมฝัน...กันน่าดู
ปั่นกระทู้...นี้ให้ถึง...จึงช่วยกัน (553)

ลองมองดู...ใครอยู่...กันบ้างไหม
รีบเร็วไว...ช่วยกัน...มาสร้างฝัน
มาเรียงร้อย...ถ้อยคำ...นำรังสรร
หากถึงพัน...แม่ค้าฯสาว...เลี้ยงข้าวเอง (554)
 emo_45 emo_45


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 14 กรกฎาคม 2010, 11:18:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)

สาวแม่ค้า น่าจะนอน ไหงออนดึก
เธอคงนึกแต่งกลอนแล้วนอนเขลง
หลังอาบน้ำผัดหน้ามาบรรเลง
ตีสามเร่งลนลานเปิดร้านใจ.....(555 รอใครซื้อ...อิ อิ]

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แม่ค้าหน้าหวาน ที่ 14 กรกฎาคม 2010, 11:40:PM
ออนตอนดึก...นึกสนุก..ลุกมาแต่ง
นั่งผัดแป้ง...แต่งกลอน...อ้อนได้ไหม
ไปขายของ...นวลน้อง...ต้องนอนไว
แต่ที่ไม่...ไปนอน...เพราะออนไง (556)
  emo_45 emo_45


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 15 กรกฎาคม 2010, 09:09:AM
...คารมณ์งามตามหน้าตา"แม่ค้า"สาว
อยากเลี้ยงข้าวคนสวยช่วยได้ไหม
นัดเลยชัวร์กลัวกุนซือชื่อ"สายใย"
ซิวคิวไปก่อนหน้าไม่กล้าแซง.../ทอฝัน...(557)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 16 กรกฎาคม 2010, 12:06:PM
...ห้าห้าแปด  แอบฝัน  วันหวยออก
ตะโกนบอก  ออกไป  ไม่กินแหนง
บ่ายวันนี้  โชคดี  คงมีแรง
ไม่ระแวง  แคลงใจ  ได้ทุนคืน

...ห้าห้าเก้า  เร้าใจ  ใช่ใบ้หวย
หวังอยากรวย  ซวยซ้ำ  กล้ำสุดฝืน
งวดที่แล้ว  โดนต้ม  ล้มทั้งยืน
ต้องหวานอม  ขมกลืน  ไม่ชื่นใจ

...งวดนี้ลอง  เล่นต่อ  พอมีลุ้น
"ห้าหกศูนย์"  หนุนมา  น่าเชื่อไหม
เมื่อคืนนี้  เลขเด็ด  อย่าเอ็ดไป
ก็เจ้าพ่อ  ต้นไทร  ท่านให้มา

...เพิ่มตัวท้าย  หน่อยน่า "ห้าหกหนึ่ง"
นั่งรำพึง  ครุ่นคิด  จิตอาสา
หากงวดนี้  ยังเจ๊ง  เกรงอีกครา
เลี้ยงเลขห้า  งวดหน้า  มาแน่นอน

...ห้าหกสอง  มองหา  มากันไว้
เลือกตัวช่วย  ด้วยใจ  ไม่ถอดถอน
จะทิ้งไป  ใจบ้า  ยังอาวรณ์
เท่านี้ก่อน  หายบ้า  มาอีกที...


 emo_85 emo_100



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 16 กรกฎาคม 2010, 01:00:PM
ลองมาแง้ม  แย้มดู  หลานสู้ศึก
ดูคักคึก  ถึงห้าหก สองแล้วนี่
ทั้งแงซาย  ยัยทอฝัน  ต่อกันดี
แม่ค้าหน้าหวานนี้  เร่งรี่กัน...๕๖๓

น่ายินดี  ปรีดา  คุณค่าเลิศ
งานจะเกิด  ประเสริฐด้วย  ช่วยร่วมฝัน
น้องๆหลาน  สานใจ  ให้รวมกัน
กวีนั้น  บ้านกลอนไทย  ใจงดงาม..๕๖๔

งานดีๆ  รี่ร่วมแรง  ดูแข็งขัน
สนุกกัน  ปันอักษร   วอนวาบหงาม
ให้บรรจบ  ครบพัน  หมั่นต่อตาม
ไม่ครั่นคร้าม  ต่อตามกัน  ปันเวลา..๕๖๕


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 18 กรกฎาคม 2010, 10:49:AM
...ห้วงอารมณ์ขมขื่นมายืนหงอย
หน้าละห้อยคอยใครไม่มาหา
หลายวันแล้วที่เขาไม่เข้ามา
กระทู้ซาคนเคียงก็เลี่ยงเดิน...(566)


...ลมรอนโรยโชยพัดสบัดพริ้ว
ระรอกริ้วผิวผ่องหมองสะเทิ้น
เลี้ยวลัดเรื่อยเอื่อยลงตรงทางเดิน
ป้ายคำเชิญเอียงล้มจมปรักเลน...(567)


...ยกป้ายรั้งตั้งตรงลงที่เก่า
อ่านเลาเลาเลือนลางพลางเขม้น
แวะบ้านกลอนอ้อนคำย้ำประเด็น
เชิญร่วมเล่นกลอนกลให้พ้นพัน.../ทอฝัน...(568)

 emo_65


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 20 กรกฎาคม 2010, 10:26:PM
..สายัณห์ย่ำค่ำลงคงสิ้นแสง
สร้อยแสงแดงแรงล้ารอล่าฝัน
มอบภาระแต้มแต่งฝากแสงจันทร์
ผุดผ่องพรรณพร่างพราวคู่ดาวดวง..(569)

ส่องประกายพรายพรรณวรรณศิลป์
ให้ยลยินทั่วแคว้นสุดแดนสรวง
วิภาสพราววาววับประทับทรวง
จรัสช่วงท่วงท่าลีลากานท์..(570)

ร่วมเสกสรรบรรเจิดให้เฉิดฉัน
วงศ์เทวัญวิศิษฏ์ประดิษฐาน
ปราชญ์ร่วมเสริมสมทบประสบการณ์
พากย์วิจารณ์จรรโลงโครงกวี..(571)

เรียบเรียงถ้อยร้อยคำนำประสาน
ปฏิภาณเสริมส่งบ่งราศี
ยังเฝ้ารอยอแสงแห่งสุรีย์
เปล่งวลีร่ายสลับกับจันทรา../แงซาย(572)
]

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_008.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 21 กรกฎาคม 2010, 04:54:PM
ห้าเจ็ดสาม  ตามมาดู  หนูๆน้อง
ใกล้หกร้อย  คอยจอง  ร้องโห่หา
เห็นพลัง  ยังแรง  แสงศรัทธา
ให้รู้ว่า  กวีไทย  ร่วมใจกัน

ห้าเจ็ดสี่  ครานี้  กวีหวาน
แงซายจาร  หวานถ้อย  ร้อยพจน์ฝัน
ทอฝันเอย  มิเคย  ละเลยปัน
มาร่วมปั่น  สานถ้อย  ร้อยลำนำ

ห้าเจ็ดห้า  ป้าหมดแรง  แต่งแค่นี้
มอบกวี  มีหลานน้อง  กรองถ้อยร่ำ
ต่ออีกบท  สองบท  พจน์หวานล้ำ
สมกับคำ  ร่ำลือ  คือกวี


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 21 กรกฎาคม 2010, 10:14:PM

ห้าเจ็ดหก นกน้อย บินคล้อยหลง
มาร่อนลง ดงกลอน อักษรศรี
หลงไหลรส พจมาลย์ หวานวจี
ลืมหน้าที่ พักผ่อน ทั้งนอน,กิน

ทิวาวารผ่านผันหลายวันล่วง
ใจทั้งดวงดิ่งด่ำลำนำศิลป์
ผลสุดท้ายกายลับดับชีวิน
เหลือเพียงจินต์ บินไป ไร้พรมแดน  (๕๗๗)



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 10:07:AM

...อาจอ่อนพจน์งดต่อท้อใจนัก
งานมาหนักพักโต๊ะโล๊ะยากแสน
มาสุ่มหัวมัวเมาเราเลยแบน
ทางสายแฟนเลยถูกแทนแดนคนรอ...........(๕๗๘)

...คิดไม่ออกบอกไม่ถูกพาปลูกซ้ำ
บ้างระกำนำวางทางแล้วหนอ
สุดท้ายไยไกลลางจางพะนอ
เศร้าสุดท้อต่อกลอนกานท์ประสานใจ.........(๕๗๙)

...หวังอักษรเรียงร้อยถ้อยคำดาด
ไร้บทหยาดวาดไพเราะเสนาะไหว
เพียงคำด้านกร้านชามาว่าไป
ส่งความในให้รู้แจ้งแถลงมา.......................(๕๘๐)

...จึงก่อเกิดเปิดกลอนตอนยังเศร้า
บทกล่อมเงาเหงาเป็นเพื่อนเลื่อนมาหา
สิ้นราตรีมีเราเฝ้าทิวา
สุดเหว่ว้าหาทางบอก...ออกซอกตรม...........(๕๘๑)

...จึงกลั่นกรองคล้องคำลำนำแว่ว
หวังส่อแววแนวกลอนวอนเข้าบ่ม
หัวใจล้านำพามาซาซม
ร้าวระบมหวังห่มกลอนตอนอาลัย..............(๕๘๒)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 10:38:AM
...ในน้ำคำย้ำน้ำใจยังไหลเรื่อย
บางครั้งเอื่อยอ่อนล้าพาโหยไห้
มาเถิดดวงตะวันมาฝันไกล
ฉายแสงใสไล่โศกบนโลกกลม...(583)


...กวีงามยามตรมอารมณ์ไหว
เรียงร้อยใจใส่กลอนอ้อนผสม
ทีละวรรคผลักคำล้ำระบม
จิตเริ่มจมดิ่งด่ำถลำเลือน...(584)


...ทุกอักษรนอนรอขอเธอปลุก
สระซุกอิงแอบแนบเสมือน
เกมส์แห่งใจใส่กลมายลเยือน
แล้วค่อยเลื่อนเคลื่อนพจน์จรดกานท์...(585)


...แววกวีชี้ชัดสัมผัสลึก
แปรรู้สึกซ้อนสลับจึงขับขาน
รหัสแห่งแรงพลังจะกังวาน
คือตำนานสานต่อก่อสัมพันธ์.../ทอฝัน...(586)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 11:55:AM
...ห้าแปดเจ็ดเจรียงรสบทขับขาน
เฉกนิทานท่านจับประดับฝัน
เท็จฤๅจริงเพียงรจิตลิขิตบรรณ
สำราญพลันจารช่วยด้วยคะแนน

ห้าแปดแปดปักษินคงบินร่อน
ขู่ภมรหมายมั่นอกสั่นแขวน
โฉบเฉี่ยวลงเล่นล้อฝูงต่อแตน
ดุจหวงแหนแก่นผสมใคร่ดมดอม

ห้าแปดเก้าเคล้าคลึงด้วยซึ้งค่า
บินถลามาเชยสิ่งเคยหอม
แมลงภู่โผผินหายินยอม
ต่างรายล้อมมาลาร่วมฝ่าฟัน

ห้าเก้าศูนย์สูญสิ้นถิ่นราศี
อ่อนฤดีดูดายคล้ายอัดอั้น
กระพือปีกปราดเปรียวโดยเร็วพลัน
จวบชีวันนั้นสลายหาคายคืน

ห้าเก้าหนึ่งถึงทีทำหนีหน้า
สุดขอบฟ้าลาไกลด้วยใจฝืน
สกุณาปรามาสมิอาจยืน
ต้องกล้ำกลืนขืนใจให้ดุษณี

ห้าเก้าสองลองสรรเพื่อบรรสาน
เชลงกานท์งานกลอนอักษรศรี
อย่าปรารมภ์ขมใจในวลี
พจนีย์นี้ส่งเพื่อรงรอง../แงซาย.

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 12:11:PM
...ดุจผกามาโปรยโรยกลิ่นหอม
ภมรยอมยามยวนชวนสนอง
คลุกกายเคล้าเฝ้าหลงดงพยอม
ตายก็พร้อมเพียงผูกปลูกสัมพันธ์...(593)


...เพราะเธองามทรามวัยจึงได้แต้ม
เผยอแย้มกลีบใบในโลกฝัน
บานสะพรั่งดั่งมนต์ดลจังงัง
จึงแอบหวังพลังลึกผนึกใจ.../ทอฝัน...(594)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 05:44:PM
ใกล้ถึงบท  หมดหกร้อย  ค่อยน่าชื่น
ทอฝันรื่น  ตื่นมาแต่ง  ดั่งแสงใส
ตะวันฉาย  แงซายสรรค์  จารจากใจ
เป็นสายใย  บ้านไทยนี้  กวีงาม..๕๙๕

มาแต่งต่อ  ล้อหยอก  ออกขำๆ
เป็นประจำ  สม่ำเสมอ   มิเผลอคร้าม
กวีสาว  กวีหนุ่ม  ซุ่มต่อตาม
กระทู้เต็ง  เจ๋งจริงงาม  ทำกันจริง..๕๙๖

แถมมีงาน  บานตะไท  หลายหัวข้อ
ช่างคิดจริง  หนอพ่อ  ก่อสานสิ่ง
ยังงงๆ  จะลงทำ  ยังคร้ามยิ่ง
มือไม่ถึง  จึงประวิง  นิ่งคิดนาน..๕๙๗

อยากจะถาม  ย้ำคนเก่ง  เร่งทำไหม
กวีใน  บ้านไทย  เก่งหลายท่าน
ทั้งสำบัด  สำนวน  ล้วนเชี่ยวชาญ
งามคำหวาน  งามคิด  จึงติดใจ..๕๙๘

หากท่านทำ  นำพจน์   ร้อยรสถ้อย
รวมเล่มปล่อย  วางแผง  ช่วยแจ้งให้
พวกเราทราบ  ด้วยปลาบปลื้ม  ดื่มด่ำใจ
สำนวนใคร  ไพเราะ  เพราะแต่งมา..๕๙๙

จบที่บท  พจน์หกร้อย  คอยมาต่อ
อีกสี่ร้อย  คอยหนอ  ขอเถิดหนา
ไม่น่าเชื่อ  เอื้อใจ  ใกล้ได้มา
กลอนพันบท  จดจารว่า  น่าชื่นชม..๖๐๐


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ปากะญอ ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 07:33:PM
 
แม้การเรียนเพียรทำยังซ้ำซาก
บ้างเหนื่อยยากงานวิจัยมาไล่ข่ม
หัวใจมาซ่าเซ่อเก้อระงม
เหมือนลงตมจมโคลนโผนลงงาน...............601

กุลมาตามาบ่อยปล่อยกลอนใส
ทำให้ใจสดชื่นยื่นคำขาน
ปากะญอขอเข้าเฝ้าจดจาร
ทั้งกลอนกานท์ลานศิลป์ถิ่นกวี..................602

อาจไม่เพราะเสนาะพริ้งสิงใจเจ้า
แต่ขอเนามาสักบทจดไว้นี้
ทิ้งการเรียนเขียนกลอนวอนคนดี
หวังจะมีให้คนจรตอนแวะเวียน................603


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 22 กรกฎาคม 2010, 10:06:PM
อยากเชื่อมโยงยกถ้อยร้อยคำวาด
ให้พิลาสแลลักษณ์ฉวัดเฉวียน
แต่ทุกยามผันคำซ้ำวนเวียน
มิค่อยเปลี่ยนเล่นคำอย่างใครๆ (604)

ด้วยอยากแจมแซมกานท์ครบพันบท
จึงจารจดพจน์มาร่วมรินไหล
ถ่ายละอองอักษรกลอนโยงใย
จารึกไว้ร่วมด้วยช่วยอีกแรง (605)
[/font

 emo_47]





หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 23 กรกฎาคม 2010, 09:17:AM
ปากะญอ  หนอว่า  ป้ามาบ่อย
ขอบคุณถ้อย  คอยชม  ดั่งโสมแสง
เป็นกำลัง  ใจให้กัน  วันหมดแรง
มาเติ่มแต่ง  แปลงฝึก  ตึกตรองดู...๖๐๖

มีเวลา  เลยมาช่วย  ด้วยสำนึก
ด้วยรู้สึก  ลึกรัก  อักษรอยู่
หมั่นฝึกฝน  คนใจรัก  อยากเชิดชู
ตามรอยครู  กวีไทย  เกริกไกรนาม..๖๐๗

ว่างจากลูก  ปลูกฝัง  เขายังเด็ก
ค่อยซึมซับ  รับแต่เล็ก  เด็กไถ่ถาม
รู้คุณค่า  ภาษาไทย  ไซร้งดงาม
นิทานกลอน  ก่อนท่าม  ยามนิทรา..๖๐๘

อาจซ้ำซาก  ลำบากใจ  ยังไม่เก่ง
มิกล้าเร่ง  มิเก่งอ่อน  จึงวอนว่า
เพียงนักเรียน  เพียรฝึก  จารึกมา
พันบทหนา  ดั่งสนาม  ให้ตามเติม..๖๐๙

หวังเล็กๆ  เฉกเช่นเด็ก  ยังเล็กด้อย
จึงค่อยๆ  ร้อยเรียง  เพียงฝึกเสริม
หนึ่งปีกว่า  ที่มาเขียน  เรียนริเริ่ม
หวังเพียงเพิ่ม  ทักษะ  อักขระไทย..๖๑๐


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 23 กรกฎาคม 2010, 10:59:AM
...น้ำตารื้นชื่นอกยกนิ้วต่อ
"ป้ากุล"ก่อเกิดแจงแถลงไข
คือสิ่งซึ่งตรึงจิตลิขิตใจ
ที่ดลให้ไหวเวียนมาเขียนกลอน...(611)


...เพียงสำนึกลึกเร้นเน้นด้วยรัก
กระทู้ชักชวนชี้มีคำสอน
คนเก่าร่ายใหม่เรียนเพียรทุกตอน
ล้วนสะท้อนหากสบทบจนครบพัน.../ทอฝัน...(612)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 23 กรกฎาคม 2010, 11:31:AM
 
พอเว้นว่าง ห่างงาน แวะอ่านพจน์
จึงจารจรดดินสอทักทอฝัน....(สวัสดีจ้า...อิ อิ)
ว้า...งานเข้า พอดี มีเที่ยงวัน
ขอลากัน ตรงนี้ ครับพี่น้อง(๖๑๓)

 



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 23 กรกฎาคม 2010, 11:43:AM

...ไยมาเร็วไปเร็วล่ะพี่ท่าน
หรืองานปั่นยังรอพอให้หมอง
เผื่อสาว-สาวทางบ้านนี้มาหลีมอง
มาจับจองก็ไม่ทันท่านสายใย (แซวนะคะ  emo_12 emo_12)....(๖๑๔)

...หรือเพราะว่าใกล้เที่ยงเมียงมองสาว
ส่งตาวาวพราวลุกปลุกปลาไหล
มีนัดแล้วรีบออกบอกมาไว
มาลาไกลทางกลอนกลคนที่รอ....................(๖๑๕)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 23 กรกฎาคม 2010, 12:19:PM
...พี่ชายเราเข้าต่อรอคำตอบ
มีข้อสอบต้องแจงแถลงหนอ
ถึงเรื่องเก่าเมาหลับนั่งพับคอ
บ้านใครหนอพ่อดังฝั่งนายก(อบต.)...(616)


...ตะวันฉายร่ายกลับจับคาเขา
ช่วยปลุกเร้าปลาไหลให้ขึ้นบก
เข้าพรรษาแห่เทียนเวียนมาวก
น้องจะพกบุญเปี่ยมเยี่ยมพี่ชาย
........................../เดี๋ยวเจอกันวันทำบุญค่า...ทอฝัน...(617)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 23 กรกฎาคม 2010, 02:36:PM
(http://www.budpage.com/forum/picture/3474_10.jpg)


รุ้งเรียวระเรียงฟ้า
นภพารพีฉาย
แสงต้องระยับพราย
ก็เสมือนสิเยือนภพ (618)

ผืนดอนสะท้อนทุ่ง
ผิจรุงจะปรุงกลบ
ให้ฟ้านภานภ
รุจิแจ่มแชล่มแล (619)




หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 23 กรกฎาคม 2010, 04:02:PM
 

เรียงร่ายระบายฝัน
ระบุฉันท์สุวรรณแท้
ยลภาพประทับแด
รวิส่องละอองรุ้ง (๖๒๐)

ฟ้างามอร่ามหล้า
กระจะจ้า ณ ท้องทุ่ง
ครามเขียวขจีปรุง
มนชื่นระรื่นตา  (๖๒๑)
 


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 24 กรกฎาคม 2010, 10:34:AM
...โค้งรุ้งจะพุ่งลับ
ระวีจับตะวันกล้า
ฉายแสงระแรงพา
กระจ่างฟ้าระดาเรือง...(622)


...สายใยฤทัยที่
สุวรรณพลีฤดีเฟื่อง
มนจิตมิคิดเปลือง
ลิขิตเรื่องจะเปรื่องนาม.../ทอฝัน...(623)

.......ผิดพลาดขออภัย เขียนด้วยใจไม่รู้ฉันทลักษณ์เลยอ่ะค่ะ  ช่วยนำฉันทลักษณ์มาลงให้หน่อยดิ...ขอร้อง...หุ หุ หุ...........!!!


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 24 กรกฎาคม 2010, 12:39:PM
สวัสดีค่ะน้องทอฝันก็เองก็ พี่เพิ่งเริ่มหัดแต่งอินทรวิเชียรฉันท์เองค่ะ
ก็พยายามศึกษาดูในเวบบ้านกลอนไทยนี้นะคะ   http://www.klonthaiclub.com/index.php/topic,9323.0.html (http://www.klonthaiclub.com/index.php/topic,9323.0.html)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 24 กรกฎาคม 2010, 01:21:PM
..จากกลอนละเป็นฉันท์
จะประพันธ์ประพัทธ์ตาม
"สายใย,สุวรรณ"งาม
ระบุนามก็ชินตา(๖๒๔)

รุ้งลายระบายสี
รมณีย์สุปรีดา
รุ่งเรืองประเทืองฟ้า
กุสุมาก็น่าดม(๖๒๕)

เย็นซ่านสราญสุข
นิรทุกข์ละขื่นขม
เพลินใจจะใคร่ชม
อภิรมย์ประโลมกานท์(๖๒๖)

เพลินพิศรจิตพจน์
มธุรสดุจหวาน
มั่นคงสุรงค์จาร
ปฏิภาณประสานจินต์(๖๒๗)

ร้อยรุ้งจรุงจิต
นรมิตวิจิตรศิลป์
ทอฝันสิยลยิน
จะถวิลระรินรอง...แงซาย (๖๒๘)

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_007.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 24 กรกฎาคม 2010, 06:50:PM
พากเพียรริเขียนฉันท์
มนมั่นประพันธ์กรอง
เรียงร้อยประดิษฐ์ตรอง
มนพรั่นประจักษ์ใน...๖๒๙

แงซาย ธ เก่งกล้า
ชนะหล้าจรุงใจ
ทอฝันมิพรั่นใคร
มนมั่นประพันธ์กานท์..๖๓๐

....
อูย..ยากๆๆๆๆ..คนชรา..เวียนหัว..พอกะโคลงเลยจ้า..อิอิ


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: blackbear ที่ 24 กรกฎาคม 2010, 10:39:PM
กลฉันท์ชำนัญชื่อ ผิวคือกวีหวาน
ของแท้แต่โบราณ ฉลุลักษณ์ประจักษ์ลาย  ๖๓๑
พากเพียรริเขียนแล้ว มนแน่วมุมั่นหมาย
เยี่ยมแท้สิแงซาย เสนาะคำสุอำภา ๖๓๒


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 24 กรกฎาคม 2010, 11:08:PM
คนอ่อนหัดจัดกลอนก็หลอนแย่
จะให้แปแต่งฉันฑ์นั้นหนักหนา
อ่านไปก่อนนะจ๊ะอย่าระอา  (อิอิ)
มุขเมื่อมีก็มาว่าต่อกลอน 633

งานไม่หนักพักหน่อยพลอยได้อยู่
แต่มันยู่ยับเยินเดินหน้าหลอน
จึงมามาหายหายในบางตอน
เข้ามาออนอ่านเล่นก็เย็นใจ  634


"ทีละนิด ทีละน้อย ทำให้มันเป็นจริง ครั้งละนิดครั้งละน้อย ฝันก็คงจะจริง... emo_60



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 25 กรกฎาคม 2010, 12:47:PM
มีครุ ลหุ   จุ๊ๆยาก
ต้องหาคำ  ลำบาก  ยากอย่างใหญ่
แต่งสี่บท  ทดเวลา  นานมาใช้
หากได้ใจ  ใฝ่เรียน  ก็เพียรทำ..๖๓๕

ปาดเหงื่อปื้ด  หืดขึ้นคอ  ขอคารวะ
กวีเลิศ เทิด ธ  ค่าเลิศล้ำ
ทั้งสุวรรณ  สายใย  ใครกล้านำ
มะสะแป  แท้คมคำ  ลำนำกานท์..๖๓๖


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: blackbear ที่ 25 กรกฎาคม 2010, 09:37:PM
นักเลงกลอนนอนเปล่าไม่เหงาหรอก
ฝีปากบอกฝีมือกล้าอาขยาน
กุลมาดามากฝีมือคืออาจารย์
เราผู้น้อยคล้อยผ่านขอเคารพ  ๖๓๗
มะสะแปร์แหย่มุกให้ฉุกขำ
เล่นมุกอำหัวร่อหงายหลายตลบ
อีกแงซายชายผู้กล้ามาสมทบ
คงจะถึงพันจบไม่นานนัก  ๖๓๘


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แมวเหมียว ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 11:34:AM
แวะมาเยือนเพื่อนบ้างหลังห่างรัก
เวียนมาทักสักสองบทให้สดใส
ขอโทษทีที่งานมากลำบากใจ
ไม่ค่อยได้มีเวลามาแต่งกลอน (๖๓๙)

อยากช่วยต่อทอให้ครบจบพันบท
อาจมีหลายหลากรสบทอักษร
ต่างลีลาหาถ้อยใส่ร้อยกรอง
เหมือนเสียงร้องเรียกรักจากดวงมาน (๖๔๐)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 04:53:PM
..ช่วยเสกสรรปั้นต่อทอ..ประสม
เสริมคารมบ่มถ้อยร้อย..ประสาน
มุ่งใจมั่นพันบทจด..ประมาณ
ช่วยเจือจานเจิมใจให้..ประจัญ...(๖๔๑)

ประโคม..ถ้อยร้อยพจน์พันบทให้
ประคอง..ใฝ่ฟันฝ่าร่วมล่าฝัน
ประคบ..บทเติมบาทหยาดจำนรรจ์
ประเคน..เสริมสร้างสรรค์ประพันธ์กลอน...(๖๔๒)

ประกาศ..ก้องร้องไกลไปสุดกู่
ประกอบ..คู่เคียงข้างกลางสิงขร
ประกาย..แจ่มเจิดจ้าไม่ลาจร
ประกัน..ก่อนกลับกลายจากคลายคลา...(๖๔๓)

จึงประดับประดามา..ประดิษฐ์
ช่วยประสิทธ์ประศาสน์ขาด..ประสา
ออกประเดิมประดังดก..ประดา
ประเดี๋ยวพาย้อนยอกนอก..ประเด็น...(๖๔๔)
       .......แงซาย..........


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_073.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: จะเด็ด ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 07:42:PM
ประหนึ่งเป็นสายรุ้งที่ทอถัก
ให้เกิดก่อด้วยลักษณ์และคำฉันท์
ประสมบทสร้างต่อให้ครบพัน
อัศจรรย์ด้วยด้วยใยรักของนักกลอน(๖๔๕)

ด้วยภาษาสร้างคำสระสวย
ให้เกิดด้วยภาษาในใจฉัน
ประสมคำเป็นกลอนวอนรำพัน
ขอให้ท่านช่วยถักทอต่อกันไป(๖๔๖)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 26 กรกฎาคม 2010, 09:54:PM
ไหนๆมา  ล้าก็ยัง  ตั้งใจแต่ง
ขอร่วมแรง  แบ่งปันกานท์  สานพจน์ไว้
พาลูกไป  ทำบุญ  สุนทานไกล
พอตกบ่าย  ย้ายไป  ดูร่ายรำ..๖๔๗

รามเกียรติ์  ตอนนางลอย  ลูกคอยชม
เพิ่งได้สม  อารมณ์หมาย  จนบ่ายค่ำ
เห็นสนใจ  ในศิลปะ  ละครรำ
โขนระบำ  ล้ำค่า  ศิลปะไทย..๖๔๘

เหนื่อยอยู่บ้าง  หากพลัง  ใจยังอยู่
เห็นลูกดู  รู้คุณค่า  หาสุขได้
ถ้าไม่สน  แม่ลาก คงยากไป
บังคับไม่  ได้แน่  แม่ไม่เอา..๖๔๙

ลูกเริ่มเรียน  เพียรรู้  ดูศิลปะ
ทุกแขนง  แรงอุตสาหะ  ประจักษ์เจ้า
เหนื่อยก็ยอม  เพราะลูกพร้อม  น้อมใจเขา
ใฝ่เรียนรู้  ดูเอา  ต้องเข้าใจ..๖๕๐

นำมาเล่า  เข้าพันบท  จดจารต่อ
ว่าลูกขอ  ต่อทางที่  ดีสดใส
ควรสนับ-  สนุน  เป็นทุนให้
เขาได้ใช้  เมื่อเติบโต  เป็นโล้พาย..๖๕๑


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: blackbear ที่ 27 กรกฎาคม 2010, 02:24:PM
ห่วงสีดามาเดินราชประสงค์
ต้องห่วงองค์ห่วงตัวกลัวเพชรหาย
หนุมานชาญสมรร่อนแปลงกาย
อมหรือคายอยู่หลังวัดยังขัดใจ  ๖๕๒
สถานการณ์บ้านเมืองเรื่องฉุกเฉิน
ทศกัณฐ์โกงเพลินหยุดไม่ได้
โถแผ่นดินมีสีแดงแฝงตัวไร
ขออภัยอย่าคิดลึกนึกเอาเอง ๖๕๓


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 27 กรกฎาคม 2010, 08:15:PM
ห่วงสีดามาเดินราชประสงค์
ต้องห่วงองค์ห่วงตัวกลัวเพชรหาย
หนุมานชาญสมรร่อนแปลงกาย
อมหรือคายอยู่หลังวัดยังขัดใจ  ๖๕๒
สถานการณ์บ้านเมืองเรื่องฉุกเฉิน
ทศกัณฐ์โกงเพลินหยุดไม่ได้
โถแผ่นดินมีสีแดงแฝงตัวไร
ขออภัยอย่าคิดลึกนึกเอาเอง ๖๕๓



o แผ่นดินทอง รองเรือง ดั่งเมืองฟ้า
ภัยนานา มาสุม รุมข่มเหง
ยังมิเท่า เรานี้ ตีกันเอง
เหลือแต่เพลงชาติไทย....เอาไว้ดู....(๖๕๔)

o "เขาพระวิหาร" ด้านซ้าย มาย้ายชื่อ
ด้วยน้ำมือเราหมด....น่าอดสู
มัวแต่แย่ง แบ่งฝ่าย สายเมิง-กรู
ก่อนจะรู้ตัวก็....ต้องท้อใจ....(๖๕๕)

o น้ำตาหยด รดคำ ระบำถ้อย
ฝากลมลอย ถ้อยกานท์ ออกขานไข
สามัคคี พี่น้อง โปรดมองไกล
การเผาไทย ใครรวย....ทุกข์ด้วยกัน....(๖๕๖)



แบบว่า....ไม่ได้แต่งนาน .......  แต่มาจากใจนะครับ

   emo_48

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: blackbear ที่ 27 กรกฎาคม 2010, 08:32:PM
o น้ำตาหยด รดคำ ระบำถ้อย
ฝากลมลอย ถ้อยกานท์ ออกขานไข
สามัคคี พี่น้อง โปรดมองไกล
การเผาไทย ใครรวย....ทุกข์ด้วยกัน....(๖๕๖)
--------------------------------------------------------------------------
ทุกข์แสนทุกข์ทุกขณะจะเอ่ยได้
น้ำมือใครเร่งเร้าเข้าห้ำหั่น
แบ่งสีเสื้อสวมใส่ไม่สำคัญ
ก็เพื่อนไทยทั้งนั้นที่ทนทุกข์ ๖๕๗

อยู่เมืองพุทธหยุดคิดสักนิดไหม
ก่อนเมืองไทยเคยงดงามล้นความสุข
วันนี้มิคสัญญีกลียุค
ต้องล้มลุกอีกเท่าไหร่..ไม่รู้แล้ว  ๖๕๘


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 27 กรกฎาคม 2010, 08:37:PM
...ฝนปรายสหายชิด
ปะทุจิตก็คิดเขียน
ดลใจจะไฝ่เรียน
มนมั่นมิหวั่นตรม
......................................
...เย็นชื่นระรื่นรัก
ปะทะหนักบ่ขื่นขม
มิตรเคียงสิเรียงชม
จะมิล้ม ณ แดนดวง
......................................
...ลำนำฤทัยชัก
จะมิพักฤทัยหวง
น้ำใจละไมตวง
จะจุจ้วง ณ ห้วงใจ
......................................

...ขอบพระคุณพี่สุวรรณ  และเพื่อนๆพี่ๆทุกท่าน ที่เป็นกำลังใจ
จะพยายามต่อไป ผิดพลาดอย่างไรแนะนำ"ทอฝัน"ด้วยนะคะ...//ทอฝัน







น้องทอฝัน เขียนได้ไพเราะแล้วค่ะ
 พี่นึกออกแล้ว ว่าพี่เริ่มรู้จักอินทรวิเชียรฉันท์
 ก็ตอนที่น้องนะโมมาทักน่ะค่ะ  ตอนนั้นใครหนอเขียน
อินทรวิเชียรฉันท์ (จำไม่ได้จ้า) น้องนะโมมาทักว่ากาพย์ห่อโคลง
ก็เลยศึกษาดูทั้งกาพย์ทั้งโคลง  ครั้งนั้นปล่อยไก่ซะ เขินนนอ่ะ

ใช่ไหมครับน้องโม


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Khondoendin ที่ 27 กรกฎาคม 2010, 08:48:PM
แวะมาเยือนเพื่อนบ้านขานอักษร
มาต่อกลอนเพิ่มคำลำนำใส
ต่อให้ครบหนึ่งพันบทดังตั้งใจ
จารึกไว้ในบ้านกลอนอักษรงาม


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 27 กรกฎาคม 2010, 08:49:PM
...ฝนปรายสหายชิด
ปะทุจิตก็คิดเขียน
ดลใจจะไฝ่เรียน
มนมั่นมิหวั่นตรม...(660)
......................................
...เย็นชื่นระรื่นรัก
ปะทะหนักบ่ขื่นขม
มิตรเคียงสิเรียงชม
จะมิล้ม ณ แดนดวง...(661)
......................................
...ลำนำฤทัยชัก
จะมิพักฤทัยหวง
น้ำใจละไมตวง
จะจุจ้วง ณ ห้วงใจ...(662)
......................................

...ขอโพสต์อีกครั้ง สับสนหมายเลขบทอ่ะค่ะ...//ทอฝัน



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Khondoendin ที่ 27 กรกฎาคม 2010, 08:51:PM
ขอเชิญเพื่อนทั้งหลายทั้งชายหญิง
ขออย่านิ่งเชิญต่อกลอนอักษรศานต์
ร่วมสังสรรค์งานกลอนตอนว่างงาน
เพื่อสืบสานวรรณกรรมฉ่ำชื่นใจ


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 27 กรกฎาคม 2010, 09:00:PM
..."คนเดินดิน"คุ้นชื่อเคยลือเลื่อง
แอบชำเลืองกลอนเธอก็เพ้อไหว
คล้ายจิตจูนถึงกันคนฝันไกล
จึงนำให้ได้พบประสบเคียง.../ทอฝัน...(664)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: blackbear ที่ 27 กรกฎาคม 2010, 09:17:PM
นอกรอบครับ
   OOO OO OOO    OOO OO OOO
OOO OO OOO       OOO OO OOO ----------------------
                                                                                              I
ฝากมิตรรักนักกลอนตอนต่อนี้ ใช้คำที่คล้องจองในช่องบท--------
จะเชื่อมคำถึงใจให้งามงด      เพราะยึดกฎฉันทลักษณ์อักษรไทย


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 28 กรกฎาคม 2010, 07:51:AM
ถึงนอกรอบ  นอกกรอบนับ  รับนะพ่อ
Blackbearต่อ  ขอกานท์  สานให้ได้
ตามกฏฉัน-  ทลักษณ์  ประจักษ์ไว้
สืบศักดิ์  อักษรไทย  ใจกวี...๖๖๖

ห่วงสีดา  ยาใจ  เพชรหายวูบ
เสียดายรูป มิได้ชม  แม่โฉมศรี
นั่งไกลๆ  ได้ชั้นสาม  ทำตาหยี
พักตร์สีดา  ดารานี้  มิชัดเจน..๖๖๗

ยังโชคดี  ได้สบพักตร์  ประจักษ์แจ้ง
เบญจกาย  ร่ายแสง  แต่งรำเต้น
ฉายรูปคู่  เจ้าหนูดล  งามจนเหน
ว่าสมเปน  ดาราโขน  ยลโฉมงาม..๖๖๘

หากเรื่องแบ่ง  แยกข้าง  อย่างแยกสี
ปวดฤดี  อีกกี่หน  คนสยาม
แม้ต่างจิต  คิดเห็น  ไยเข่นข้าม
ให้เขาหยาม  สยามแพ้  แน่นักเอย..๖๖๙

ไยมิเปน  เช่นรุ้งงาม  ท่ามคุ้งฟ้า
เฉดสีต่าง  พร่างนภา  มารวมเผย
เป็นโค้งคุ้ง  รุ้งงาม  ท่ามฟ้าเอย
ทุกสีเกย  กลมเกลียว  โค้งเรียวงาม..๖๗๐
   


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 28 กรกฎาคม 2010, 09:24:AM
...ฝนปรายสหายชิด
ปะทุจิตก็คิดเขียน
ดลใจจะไฝ่เรียน
มนมั่นมิหวั่นตรม...(660)
......................................
...เย็นชื่นระรื่นรัก
ปะทะหนักบ่ขื่นขม
มิตรเคียงสิเรียงชม
จะมิล้ม ณ แดนดวง...(661)
......................................
...ลำนำฤทัยชัก
จะมิพักฤทัยหวง
น้ำใจละไมตวง
จะจุจ้วง ณ ห้วงใจ...(662)
......................................

...ขอโพสต์อีกครั้ง สับสนหมายเลขบทอ่ะค่ะ...//ทอฝัน



..สิ้นแสงทิพากร
ศศิธรสิอ่อนไหว
มาดแม่ระเมียรไม
อรทัยมุประพันธ์     (๖๗๑)

เจิดแจ่มแอร่มนัก
อุปสรรคฤๅกักกั้น
ทอฝันลุฝ่าฟัน
บ่มิหันขยันจาร      (๖๗๒)

มาแม่ประโคมบท
มธุรสจรดมาน
คารมประสมกานท์
มนสานสะคราญควร (๖๗๓)

พฤกษาระบัดใบ
อุปไมยหทัยนวล
ร่ายร่ำบ่เรรวน
ลุประสงค์จำนงจินต์ (๖๗๔)

เริงรับประทับจิต
นฤมิตรจิตศิลป์
ยืนยันจะยลยิน
เพราะถวิลประพิณพจน์ (๖๗๕)
      ....แงซาย.....

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_069.gif)
คำศัพท์
ระเมียร  - น่าดู.........อุปไมย-เปรียบเทียบ
ระบัด-ผลิ,แตกใบอ่อน...........แอร่ม-แพรวพราว
นฤมิต-สร้าง,บันดาล.........รจิต-ตกแต่ง
ประพิณ-มีฝีมือ........มธุรส-ความหวาน....


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 28 กรกฎาคม 2010, 05:55:PM
...ยลคำระบำพลิ้ว
อุระหวิวหทัยดล
เรียนรู้จะกู้ตน
มนด้นสิเดินตาม...(676)


...พี่ชายสหายช่วย
จะมิม้วยจรวยความ
น้องเพียรลุเจียรงาม
คุณมอบประกอบกาย...(677)


...ยืนยันจะเรียงร้อย
ระบุถ้อยระเรียงราย
ต่อแก้กะ"แงซาย"
นฤหมายสิคล้ายเคียง...(678)
......................//ทอฝัน

...ขอบพระคุณพี่ แงซาย ที่ช่วยสอนค่ะ จะพยายามต่อไป ผิดพลาดอย่างไรแนะนำน้องนะคะ...!!!!


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 28 กรกฎาคม 2010, 07:39:PM
๐ โฉบเฉียงเลี่ยงหลบเสี้ยว                คำฉันท์
เรียงพจน์บทประพันธ์                    พร่ำเพ้อ
ตรองตรึกต่อตามกัน                     แต้มแต่ง
งัดเงื่อนแง้มชะเง้อ                         เหม่อจ้องเงียบเหงา  (๖๗๙)

 ๐ เชาน์ชิงเฉกเช่นเชื้อ                     ชาติชาญ
เกลาเกริ่นกอบกู้กานท์                    หว่านถ้อย
หักเหใช่หักหาญ                           ห้ำหั่น
ลองแต่งต่อโคลงร้อย                     เกี่ยวก้อยกุมไว้ (๖๘๐)

 ๐ รำไรร่ายอย่าร้อง                      ร่ำลา
เจิดแจ่มจัดเจรจา                           จรดเจ้า
มวลมิตรมุ่งมองมา                        มาดมั่น
เติมต่อตอบไต่เด้า                          แต่งแต้มพันถึง (๖๘๑)

 ๐ รำพึงเพรื่อพล่ามพร้อม               เพลิดเพลิน
เด็ดเดี่ยวดื้อดุ่มเดิน                        ดิ่งได้
ชำเลืองแช่มชื่นเชิญ                        ชำแหละ
ซอกแซกซ่านซักไซ้                        ซุ่มซ้อมสะสาง (๖๘๒)
                 .........แงซาย................


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_008.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 28 กรกฎาคม 2010, 08:40:PM

แงซายช่างเลิศล้ำ                                   ร้อยเรียง
กลอนกาพย์เกริกไกรเกรียง                      เก่งกล้า
โคลงสี่เสนาะสำเนียง                              หนักแน่น นาพ่อ
ฉันท์พากย์คงยากคว้า                             ค่อนแพ้แงซาย (๖๘๓)

ทักทายเทียวทั่วทั้ง                                 ทุ่งทอง
เยือนหยอกแหย่ลำยอง                             ยั่วเย้า
พรายผีภูตผ่านผยอง                               เพียงเพื่อ
สนิทเสน่ห์เล่ห์เร้า                                   ร่ำร้องปองหมาย  (๖๘๔)


พรายผีภูตผ่านพร้อง                                เพียงเพื่อ

....ขอแก้ไขเนื่องจากเป็นคำสุภาพ   บังคับห้ามวรรณยุกต์ ครับ....







หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: blackbear ที่ 29 กรกฎาคม 2010, 12:42:AM
แงซายช่างเลิศล้ำ                                     ร้อยเรียง
กลอนกาพย์เกริกไกรเกรียง                     เก่งกล้า
โคลงสี่เสนาะสำเนียง                             หนักแน่น นาพ่อ
ฉันท์พากย์คงยากคว้า                             ค่อนแพ้แงซาย (๖๘๓)

ทักทายเทียวทั่วทั้ง                                   ทุ่งทอง
เยือนหยอกแหย่ลำยอง                              ยั่วเย้า
พรายผีภูตผ่านพร้อง                                  เพียงเพื่อ
สนิทเสน่ห์เล่ห์เร้า                                      ร่ำร้องปองหมาย  (๖๘๔)


เสนาะเสียงสวรรค์แม้น          มิหมาย
เจียรจรดปากกาพราย             เพริศพริ้ง
ทุกหยดน้ำหมึกราย                คำหยาด
ยากหยุดยลยอดยิ่ง                 เยี่ยมแท้ แงซาย   (๖๘๖)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 29 กรกฎาคม 2010, 09:32:AM
๐ เอียงอายคล้ายอัดอั้น                ตันอุรา
ลอยลิ่วตามลมพา                      จากพื้น
เสริมช่วยส่งภาษา                      ชุ่มฉ่ำ
ชีพดับยังจักฟื้น                        ตื่นรู้ความหมาย (๖๘๗)

 ๐ "แงซายช่างเลิศล้ำ"               คำใคร
ฟังเพราะเสนาะฤทัย                   เพริศแพร้ว
ยาหอมท่านสายใย                     หยาดหยด
โลหิตแผ่ซ่านแล้ว                      ไม่แล้งแรงหนุน (๖๘๘)

 ๐ ขอบคุณเน้นอีกซ้ำ                 คำชม
น้อมรับแม้ไม่สม                       เอ่ยอ้าง
เริงร่าแต่ปรารมภ์                     หวาดหวั่น
คาดคู่อยู่เคียงข้าง                     ขัดข้องขวยเขิน (๖๘๙)

 ๐ เชิญชวนอย่าแบ่งชั้น               เชือนแช
เชลงร่ำด่ำดวงแด                      พี่น้อง
คิดศัพท์จับกระแส                     ครวญใคร่
เกาะเกี่ยวประกาศก้อง                เรียกร้องขับขาน (๖๙๐)
                    ........แงซาย........

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_034.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: nnn ที่ 29 กรกฎาคม 2010, 02:03:PM
ความเจ็บปวด  รวดร้าว ที่เข้าทัก
ให้ตระหนัก   น้ำตาเซ็น   เป็นแบบไหน
ขอขอบคุณ  ที่ให้เจอ  เธอต่อไป
ได้พอใจ  ในแบบ  แปรบฤดี
๖๙๑...
ทางแยก....มีไว้ให้พราก

หรือให้เดินต่อไป...ผมไม่รู้

เพราะวันนี้ผมต้องเดินในทางตรงที่ต้องห่างเธอไปทุกวัน

ทาง...ที่เธอขีดไว้...ให้ผมเดิน

อ๊ากกกก

ขอบคุณที่ทำให้ผมรู้จักสิ่งดีๆที่เรียกว่าความเจ็บปวด!!!!


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: blackbear ที่ 29 กรกฎาคม 2010, 11:21:PM
ความเจ็บปวด  รวดร้าว ที่เข้าทัก
ให้ตระหนัก   น้ำตาเซ็น   เป็นแบบไหน
ขอขอบคุณ  ที่ให้เจอ  เธอต่อไป
ได้พอใจ  ในแบบ  แปรบฤดี
๖๙๑...
ต้องถือว่าชะตาเราไม่เข้าข้าง
ราหูวางลัคนาทับราศรี
พระศุกร์เข้าพระเสาร์มากาลกิณี
หมั่นสร้างบุญบารมีเร่งเสริมดวง ๖๙๒

เป็นผลกรรมก่อนแน่ต้องแก้กรรม
เอาไก่ดำเซ่นไหว้ให้ผีหลวง
เจ้ากรรมเก่าเขาล่าเข้ามาทวง
อย่าได้หวงเงินทองต้องแลกบุญ  ๖๙๓

ขณะที่ประเทศเขาไปอวกาศ
เรายังปาดขูดหวยด้วยหมกมุ่น
วิกฤตงานการตลาดงบขาดดุล
ให้ว้าวุ่นกลุ้มใจได้ทุกวัน     ๖๙๔

เป็นอย่างไรไทยแลนด์แดนสงบ
แต่ยามรบเจ็บเท่าไหร่ไม่นึกหวั่น
แสนสงสารชายแดนใต้ใกล้สูญพันธุ์
จะพบสันติสุขในยุคใด.....๖๙๕



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 29 กรกฎาคม 2010, 11:33:PM
 

ก็เลือกพรรคพันธุ์ใต้หวังให้จบ
ก็ยังพบงบผลาญบานแค่ไหน
ที่อยากเลือกยิ่งนัก มีพรรคใด
ชนะใสไม่อยากมาเป็นนายกฯ......๖๙๖


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 30 กรกฎาคม 2010, 07:48:AM


o ประหนึ่งเล่น เป็นลิง ชิงขึ้นไม้
ลิงตัวใหญ่ ได้ที มิมีตก
ส่วนตัวน้อย ด้อยแรง ขอแฝงชก
เรื่องตลก ยกอ้าง ไม่ต่างคน.....(๖๙๗)

o ชิงเก้าอี้ มีแรง ขอแซงก่อน
ภาพสะท้อน ย้อนเห็น ด้วยเป็นผล
เลือกตั้งมา คราไหน ก็ได้ยล
หรือมีขน ปนลิง....เห็นชิงจัง.....(๖๙๘)  emo_26




แบบว่า......แต่งมั่วครับ ผิดพลาดแนะนำด้วยครับ
ไม่ค่อยรู้เรื่องความรู้ยังด้อยนัก บอกสอนได้....ยินดีครับ


   emo_100

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 30 กรกฎาคม 2010, 11:30:AM


หลานนะโม  โยเย  ทั้งเท่ห์เก่ง
มาช่วยเร่ง  ใกล้จริง  ยิ่งมีหวัง
อีกสามร้อย บทใกล้  ให้ได้ดัง
ช่วยกันนั่ง  แต่งต่อ  หนอกวี..๖๙๙

มาช่วยด้วย  สองบท  จารพจน์ขาน
อีกสามร้อย เชิญหลาน มาสานศรี
ทั้งนะโม  สายใย  แงซายดี
ยอดกวี  บ้านกลอน  ขอวอนมา..๗๐๐


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 31 กรกฎาคม 2010, 10:31:PM
...รอนรอนนอนเหว่ว้า             คราไกล
ตรองตรึกฝึกโคลงไป              ไฝ่เฝ้า
ครูเคียงเบี่ยงเบือนใจ               ใครต่อ
ลองปรับเพียรเรียนเร้า             อาจเข้า ประเด็น...(701)


...มึนมึนงงอ่อนล้า                โรยแรง
สดับลีลาแปลง                      เร่าร้อน
ลองลองเสี่ยงแสดง              แจงจ่อ
ดูเปิ่นเชยครูค้อน                 ศิษย์อ้อน อภัย...(702)

.......................................................................................

 ...แวะมาเยือนเรือนกลอนตอนดึกดึก
แอบลองฝึกแต่งโคลงหวังโยงสาย
จนปวดหัวตัวล้าเริ่มตาลาย
จึงต้องย้ายกายเรามาเข้ากลอน...(703)


...ขอบพระคุณบทเรียนจะเพียรต่อ
ไม่ย่อท้อจดจำทุกคำสอน
อย่าห่างหายหน่ายจิตศิษย์ขอวอน
โปรดจงย้อนมาต่อรอครบพัน .../ทอฝัน...(704)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 31 กรกฎาคม 2010, 10:45:PM
ทั้งโคลงกลอน  วอนเว้า เขาเก่งนัก
สมแล้วศักดิ์  กวีสาว  เจ้าทอฝัน
ฝึกจนเก่ง  เร่งรุด สุดชีวัน
มานะหมั่น มั่นคง ลงบ้านกลอน..๗๐๕

ป้าก็ยัง นั่งฝึก  ดึกๆ บ้าง
ตายังค้าง ทั้งลูกชาย  ไม่เอาหมอน
เดี๋ยวมาเรียก  ค่อยไป กกให้นอน
นั่งเล่นก่อน  กลอนกานท์ สำราญใจ..๗๐๖


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 01 สิงหาคม 2010, 08:31:PM
...รอนรอนนอนเหว่ว้า             คราไกล
ตรองตรึกฝึกโคลงไป              ไฝ่เฝ้า
ครูเคียงเบี่ยงเบือนใจ               ใครต่อ
ลองปรับเพียรเรียนเร้า             อาจเข้า ประเด็น...(701)


...มึนมึนงงอ่อนล้า                โรยแรง
สดับลีลาแปลง                      เร่าร้อน
ลองลองเสี่ยงแสดง              แจงจ่อ
ดูเปิ่นเชยครูค้อน                 ศิษย์อ้อน อภัย../ทอฝัน (702)

....................................................................................

๐ ทอฝันใฝ่ฝึกเฝ้า                      ทนฝืน
ครวญใคร่คิดข้ามคืน                  ค่อยคุ้น
ยรรยงยิ่งยามยืน                      ขืนข่ม
ล้ำเลิศน่าลองลุ้น                       เล่นล้อคำโคลง (๗๐๗)

 ๐ โยงใยยกยืดเยื้อ                    แยบยล
หมายมั่นปั้นกมล                      มุ่งม้าย
เกาะเกี่ยวเก็บกานท์กล                กล้าแกร่ง
ยากยุ่งย้อนโยกย้าย                   อย่าได้เย้ยหยัน (๗๐๘)

 ๐ จำนรรจ์นุ่มนอบน้อม             ด้วยมโน
เตาะแตะตราบเติบโต                  ไต่เต้า
เสกสรรใช่โยโส                       อวดเก่ง
จดจ่อต่อกานท์เจ้า                   จับจ้องมองหา (๗๐๙)

 ๐ มาเรียงร่ายร่วมร้อย             บทพัน
บรรพต..สูงเฉียดจันทร์             แจ่มล้ำ
จันทร์แรม..ฤๅชวนฝัน               หมดส่อง
หมองสุด..โอดครวญซ้ำ            ดั่งข้าคงครวญ (๗๑๐)

 ๐ ควรคง..ทรงคู่ไว้                คำผวน
ควรพร่ำ..ย้ำเชิญชวน              ปราชญ์ไว้
ไป่หวาด..หวั่นคำหวน              ขย้อนกลับ
ขยับก่อน..เกาะกลุ่มได้              เด่นด้วยใจหวัง (๗๑๑)
                     .........แงซาย............


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_029.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 01 สิงหาคม 2010, 10:16:PM
 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)

มา เถิดทั้งทั่วบ้าน                      กลอนไทย แม่เฮย
แต่ง ต่อล้อกันไป                        ไป่ร้าง
กลอน โคลงกาพย์ฉันท์ใด            ดำริ นาพ่อ
ให้ ครบพันบทอ้าง                      เอ่ยเอื้อนอวสานต์...(๗๑๒)

ครบ  คนบนบ้านใหญ่                     ยิ่งดี  เทียวนา
พัน หนึ่งมิถึงปี                             ปลุกปล้ำ
บท  ต่อบทหลายกวี                       กระวาดช่วย  กันเฮย
กัน กลับห่างหายซ้ำ                     เสนาะถ้อยถอยฮา ....(๗๑๓)                 

ดี  ป้ากุลฯ ช่วยเว้า                         ไม่วาย เว้นนอ
กว่า ครบคุณแงซาย                       ส่งด้วย 
นะ จะบอกให้หลาย                        กวีเลิศ  ล้ำแฮ               
ครับ  พี่หากมีย้วย                            หย่อนย้อนวอนแถลง...(๗๑๔)

 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 02 สิงหาคม 2010, 07:56:PM
มาถึงโคลงสี่ซี้              แน่เฮย
ถึงครบจบพันเอย          ยากแท้     
กวีเก่งเร่งเผย                ต่อแต่ง   
ทุกท่านชาญเชี่ยวแก้     บ่ร้าง  ทางกวี..๗๑๕

(ช่างเล่นของยากกันจริง..คนแก่..ยอมแพ้..คริ คริ..โคลงบทเดียวเหอะ)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 02 สิงหาคม 2010, 09:29:PM
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif[/url])

มา เถิดทั้งทั่วบ้าน                      กลอนไทย แม่เฮย
แต่ง ต่อล้อกันไป                        ไป่ร้าง
กลอน โคลงกาพย์ฉันท์ใด            ดำริ นาพ่อ
ให้ ครบพันบทอ้าง                      เอ่ยเอื้อนอวสานต์...(๗๑๒)

ครบ  คนบนบ้านใหญ่                     ยิ่งดี  เทียวนา
พัน หนึ่งมิถึงปี                             ปลุกปล้ำ
บท  ต่อบทหลายกวี                       กระวาดช่วย  กันเฮย
กัน กลับห่างหายซ้ำ                     เสนาะถ้อยถอยฮา ....(๗๑๓)                 

ดี  ป้ากุลฯ ช่วยเว้า                         ไม่วาย เว้นนอ
กว่า ครบคุณแงซาย                       ส่งด้วย 
นะ จะบอกให้หลาย                        กวีเลิศ  ล้ำแฮ               
ครับ  พี่หากมีย้วย                            หย่อนย้อนวอนแถลง...(๗๑๔)

 ([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif[/url])



๐ มา..แรงรบเร่งเร้า                        ต่อเติม
แต่ง..ต่างจากแนวเดิม                      เปล่าแกล้ง
กลอน..กาพย์เก่าก่อนเหิม                  ถอยห่าง
ให้..เห่หาเหื่อดแห้ง                          ค่อนแล้งโคลงหลอม (๗๑๖)

 ๐ ครบ..ร้อยยอมก้าวต่อ                 พากเพียร
พัน..หนึ่งค่อยขีดเขียน                     บ่มบ้าง
บท..บาทอาจจำเนียร                       กล่าวเกริ่น
กัน..ก่อนเกิดกินกว้าง                      ล่วงล้ำอย่าถือ (๗๑๗)

 ๐ ดี..เด่นคือเด่นด้วย                      กลอนกานท์
กว่า..เก่งจนชำนาญ                        แน่นั้น
นะ..ต้องฝึกแทบอาน                        ขอบอก
ครับ!!.หากมุ่งปลุกปั้น                    มั่นไว้ไป่ร้าง (๗๑๘)
                          ........แงซาย.........

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_012.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 03 สิงหาคม 2010, 08:07:PM
สองมือที่เหี่ยวย่นของคนนี้
เคยก่อเกื้อเอื้ออารีย์ไม่มีหมาง
ถึงคราวสุดสิ้นลงตรงปลายทาง
จำลาร้างห่างไกลไร้ชีวิน...(๗๑๙)

อัสสุชลล้นเอ่อเธอกำสรวล
เสียงคร่ำครวญหวนหาพาถวิล
ร่างที่ไร้วิญญาหายลยิน
หมดทางดิ้นสิ้นใจไร้อาทร..(๗๒๐)

คราวลมปราณท่านอยู่ไม่ดูเฝ้า
ยามหงอยเหงาเศร้าใจไม่สังหรณ์
ปล่อยโดดเดี่ยวเดียวดายไร้อาวรณ์
ยามหลับนอนถอนสะอื้นกลืนน้ำตา..(๗๒๑)

หมดหนทางร่างคืนฟื้นมาได้
เหลียวแลใครไหนเล่าเฝ้าห่วงหา
ตั้งแต่ตื่นฝืนทนจนหลับตา
ต้องจากลาเร้นตัวชั่วนิรันดร์..(๗๒๒)

กว่าจะคิดขึ้นได้สายไปแล้ว
โอ้.ดวงแก้วคลาไคลไม่เหหัน
กินมีเหลือเผื่อแผ่แกวันนั้น
ไม่มีวันหม่นหมองร้องคร่ำครวญ..(๗๒๓)
             .....แงซาย....


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_024.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 03 สิงหาคม 2010, 09:56:PM
โอ้แม่จ๋า อย่าถือ ลูกดื้อด้าน
จวบกาลผ่าน คิดได้ จึงไห้หวน
สิ่งที่ลูก ทำไป นั้นไม่ควร
คำแม่ล้วน ถูกต้อง เมื่อตรองดู ...(๗๒๔)

อยากจะทำความดีพลีเพื่อแม่
แต่ก็สายเกินแก้ แม่ไม่อยู่
แม้ผิดหวังนั่งช้ำน้ำตาพรู
แม่อดสูลูกชั่วมั่วอบาย...(๗๒๕)

สำนึกบาปกราบกรานวิญญาณแม่
ลูกขอตั้งใจแก้แม้อาจสาย
จะขอบวชเป็นพระกว่าจะตาย
จากลูกชายของแม่ ขอแก้ตัว...(๗๒๖)
[/size][/color]


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: นายหมีควาย ที่ 03 สิงหาคม 2010, 10:18:PM
๗๒๗ แต่งกวีกาพย์กลอนไม่ค่อยเก่ง
ให้ร้องเพลงขายหน้าตาดีกว่าไหม
เต้นเอสเจดงบังฯหรือกอล์ฟไมค์
หรือให้ใช่ต้องปอยฝ้ายถอนลูกเดียว emo_26


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 05 สิงหาคม 2010, 08:38:PM
....สุดสลดหดหู่มิรู้สิ้น
สุดด่าวดิ้นดวงแดใครแลเหลียว
สุดอนาถอาจนิ่งแท้จริงเชียว
สุดจะเปลี่ยวเดียวดายคล้ายตัดรอน (๗๒๘)

สุดสายตาฟ้ากว้างช่างสับสน
สุดถนนหนทางห่างสิงขร
สุดหัวใจใครเล่าเฝ้าอาวรณ์
สุดอาทรย้อนคืนฝืนอารมณ์ (๗๒๙)

สุดเส้นทางแห่งรักมักเหหัน
สุดสัมพันธ์พาทุกข์หาสุขสม
สุดสวาทขาดสิ้นแม้ลิ้นลม
สุดระทมขมขื่นยืนเดียวดาย (๗๓๐)

สุดเยื่อใยใฝ่หามาทอฝัน
สุดสิ้นกันพลันร้างเริ่มจางหาย
สุดขื่นขมตรมหนักรักละลาย
สุดเสียดายหมายจิตร่วมชิดเชย (๗๓๑)

สุดเสกสรรพรรณนาหาเหตุผล
สุดจะทนหม่นหมองตรองอกเอ๋ย
สุดอาลัยลางเลือนเหมือนไม่เคย
สุดจะเผยเอ่ยอ้างเมื่อนางจร (๗๓๒)
           ......แงซาย.......


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_013.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 05 สิงหาคม 2010, 08:46:PM


สุดจะสรรค์พรรณาวาทะศิลป์
สุดคะนึงตรึงจินต์ศิลป์อักษร
สุดยอดชนคนกวีศรีสมร
สุดอาทรกลอนงามนาม "แงซาย"..๗๓๓


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ลมหวน ทวนลม ที่ 06 สิงหาคม 2010, 02:48:PM
  มาวันนี้มาแล้วมาแต่งช่วย                ฝากตัวด้วยเพื่อนยากมากหนักหนา
                 เพราะชอบกลอนชอบกวีที่ได้มา        ถึงแม้ว่าตัวฉันนี้อยู่แสนไกล
                 ฝากบทกลอนเสียงศิลปินหา             ลมหวนมารบกวนชวนกันไว้
                 มาเยอะๆได้ที่บอร์ดนี้งัย                  ถึงอยู่ไกลแค่ไหนก็ให้มา
                 ลมหวนชอบกลอนสะท้อนจิต          ชวนให้คิดมีจิตเป็นนิสัย
                 คิดได้สะติว่องปัญญาไว                 อยู่ที่ไหนมีอภัยให้แก่กัน


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 06 สิงหาคม 2010, 06:26:PM
๗๓๗. จำรัสพลอยร้อยกรองสนองเกี้ยว
            ร้อยเศษเสี้ยวอารมณ์สู่ร่มฝัน
             ลงลายลักษณ์อักษรสลอนพลัน
            จิตรังสรรค์ปั้นสร้อยร้อยวลี

 ๗๓๘.  โยนเสียงสายลายศาสตร์บนบาทบท
           ให้เริงรสบทศิลป์กวินศรี
            ประดับเด่นเป็นวสุอรุพี
            ด้วยวิธีส่งสายบรรยายกลอน     


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 06 สิงหาคม 2010, 06:52:PM



ร่วมร่ายบท พจนา  มาเรียงร้อย
จารเป็นถ้อย  ร้อยคำ  ลำนำอ้อน
"สุวิจักขณ์" ถักร้อย  ถ้อยคำกลอน
งามดั่งฟ้อน  อ่อนช้อย  ดั่งถ้อยปราชญ์..๗๓๙

ร่วมร่ายคำ  ลำนำ  ร่ำถ้อยพจน์
จารจรด  อีกบท  พจนารถ
ด้วยนิยม  ชมชื่น  รื่นศิลป์ศาสตร์
กวีมาศ  ปราดเปรื่อง  เรื่องกลอนกานท์..๗๔๐


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 06 สิงหาคม 2010, 08:45:PM
เรียงกลบทชดช้อยลอยนำเด่น
กวีเร้นเน้นคำ พร่ำอ่อนหวาน
เสนาะหูชูช่อ ทอเบ่งบาน
เสียงขับขาน รานอยู่คู่กวี    ๗๔๑


ใกล้ครบพันบรรจบ เข้าครบแล้ว
วลีแก้ว แจวเจื้อย ไม่เลื้อยหนี
ประสานใจ ให้งาน วานชีวี
ณ บ้านที่ มีรักษ์ รักบ้านกลอน ๗๔๒


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 06 สิงหาคม 2010, 08:56:PM
...ท่วงทำนองคล้องจองอักษรศิลป์
กวีวินร่ายพจน์จดอักษร
ร่วมสักขีมีกลอนอ้อนเว้าวอน
อย่าลาจรท่อนขานจารถึงพัน...วันเป็นจริง...................(๗๔๓)

...ค่ำคืนหนาวพราวฝนกับหม่นหมอง
น้ำตานองครองแก้มแต้มสู่สิง
มาฉาบหน้าทาไม่ห่างส่างประวิง
ใครพักพิงก็ไม่มีฤดีใจ.................................(๗๔๔)

...เมื่อความเศร้าเข้าแทรกแตกเข้าร่าง
ยิ้มซึมจางทางหน้าเหมือนข้าฯไหว
แต่จริงแล้วแก้วร้าวน้าวฤทัย
สั่งฝนให้ชะโลมล้างหวังส่างคอย...............(๗๔๕)

...ส่งกลอนแว่วแจวมาพาลบเหงา
ให้บางเบาเคล้าบ้างจางถดถอย
หวังฤดีที่แช่เศร้าเฝ้าเป็นรอย
จะได้ปล่อยล่องไกลให้ใจจาง.......................(๗๔๖)

...หวังงดเศร้าเข้าพรรษากี่คราแล้ว
หวังผ่องแผ้วแนวอักษรกลอนสะสาง
ลบอดีตที่ขีดข่วนมากล้วนวาง-
ตามรายทางของคนเศร้าให้เบาลง...............(๗๔๗)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 07 สิงหาคม 2010, 08:23:PM



จารอักษร  วอนไว้  ในพันบท
สลักถ้อย  ร้อยจรด บทใหลหลง
ตะวันฉาย  ร่ายงาม  อร่ามองค์
ดั่งเหินหงษ์  ลงถิ่น  กวินกานท์..๗๔๘

งามถ้อยคำ  งามคิด  จิตศิลป์
กลั่นจากจินต์  ปิ่นแก้ว  แพร้วเพริดสาน
บทกวี  มีค่า  มาแต่กาล
ครั้งโบราณ  จารจด  จรดมา..๗๔๙

บ้านกลอนไทย  ได้ชื่อ  คือสืบสาน
อักษรจาร  หวานถ้อย ร้อยคุณค่า
เทิดกวี  ศรีไทย  ให้ก้องฟ้า
ว่าเลิศหล้า  หาเปรียบ  เทียบเทียมทัน..๗๕๐


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กริชอักษร ที่ 08 สิงหาคม 2010, 05:34:AM
ก่อนจะนอนคืนนี้มีข้อความ
ถึงผู้ที่พยายามทำตามฝัน
เริ่มจะเห็นโครงร่างขึ้นทุกวัน
อีกไม่นานคงเห็นงานตระการตา 751

ขอชื่นชมในความตั้งใจดี
ที่ท่านมีมานะอุตสาห์
ง่วงแล้ววันนี้ต้องขอลา
ราตรีสวัสดิ์นะคะทุกคน 752



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 08 สิงหาคม 2010, 08:28:AM
...ร้อยวลีชี้ชัดย่อมวัดรู้
หนทางสู่ดวงดาวพราวเวหน
มิหมายเพียงดวงเดียวเปลี่ยวกมล
ล้วนเกลื่อนกล่นเที่ยวท่องล่องนภา...(753)


...อยู่ไกลลิบวิบวาวคือดาวฤกษ์
ฉายแสงเบิกบอกทางกลางเวหา
หมู่ดาวเคราะห์น้อยใหญ่ได้พึ่งพา
ยามอ่อนล้าพร่าเลือนค่อยเคลื่อนเดิน...(754)


...ด้วยแรงรักรัดรึงจึงดึงดูด
ให้เทพทูตสวรรค์ร่วมสรรเสริญ
ประคองเคียงเรียงชื่นระรื่นเพลิน
ต่างดุ่มเดินร่วมฝันปันหัวใจ...(755)


...จากพันดาวจนพันกลอนสะท้อนทบ
เราต่างพบผูกพันมิหวั่นไหว
รับแล้วส่งถักทอต่อสายใย
ส่องแสงใสสว่างล้นจนปลายทาง.../ทอฝัน...(756)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 08 สิงหาคม 2010, 02:35:PM
...เรียงเรียงร่ำรำไรใกล้ฝั่งฝัน
รับรับกันสรรหามาสะสาง
วันวันเวียนเปลี่ยนไปไม่เว้นวาง
มีมีทางสร้างธารเติมศรัทธา (๗๕๗)

มามาเสริมเติมสร้อยร่วมร้อยเสียง
จะเจรียงเผดียงรับศัพท์ภาษา
ร้อยร้อยใจใฝ่จรัลจำนรรจา
ทุกทุกราตรีรับซับอารมณ์ (๗๕๘)

ดุ่มดุ่มเดินเพลินดิ้นถวิลด้น
ซุกซุกซนค้นศัพท์ขับประสม
เยี่ยงเยี่ยงอย่างถางถากหากนิยม
ชื่นชื่นชมสมฤทัยในเชาวน์ชาญ (๗๕๙)

รินรินหลั่งพรั่งพรูดูไหลลื่น
หลับหลับตื่นตั้งตามาประสาน
ร้อยร้อยรจน์บทพันจำนรรจ์กานท์
เร่งเร่งจารวานเจ้าเคล้าวจี (๗๖๐)

ดุจดุจดาวพราวพร่างกลางกลุ่มกว้าง
ไม่ไม่หมางเมินมองส่องรัศมี
หลายหลายดวงดาษดาวาดราตรี
ทั่วธานีนี่ไสวได้ด้วยดาว (๗๖๑)
            .....แงซาย.....


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_010.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 08 สิงหาคม 2010, 09:37:PM



เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียงเคียง "แงซาย"
ออดออดอ้อนกลอนหมายให้ก่อก้าว
ร้อยร้อยถ้อยลอยฟ้าประดับดาว
งามงามพราวดาวเดือนมิเลือนจาง..๗๖๒

เกริกเกริกไกรในถ้อยร้อยอักษร
ดลดลใจให้อาวรณ์วอนมิห่าง
มนมนตรากวีศรีสอางค์
พาพาพรางทางเร้นเล่นกลอนกานท์..๗๖๓


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 09 สิงหาคม 2010, 09:03:AM
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/685/5685/images/wara5/cat-2.jpg)



เห็นป้ากุลอัสดงต้องลงกลอน
อยากออดอ้อนคนงามนานแสนนาน
ตัวไม่อยู่ใจอยู่ตลอดกาล
เป็นพยานให้ด้วยนะป้ากุล  764
 




หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 09 สิงหาคม 2010, 11:02:AM
๗๖๕.กรุ่นกรุ่นกลอนกลอาบมนต์ขลัง
ร้อยร้อยสร้อยเสียงสั่งประดังสุม
หยาดหยาดพจน์รจนามาประชุม
ล้อมล้อมรุมหุ้มรอยเรียงร้อยกรอง

๗๖๖.ครวญครวญคร่ำร่ำคล้ายขยายค่า
ฟังฟังหนานุ่มนิ่มอิ่มสมอง
ไหวไหวอารมณ์ชื่นชมปอง
ยกยกย่องส่องใสในกวี...


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 09 สิงหาคม 2010, 11:34:AM



พลิ้วพลิ้วลม  พรมพร่าง  หว่างอักษร
ร่ายร่ายร่อน กินนร  ปีกซ้อนคลี่
"สุวิจักขณ์"  "แงซาย" ร่ายบทนี้
งามเหลือที่  พรรณา  อภิรมย์..๗๖๗

"ยามอาทิตย์อัสดง"  ลงกลอนช่วย
รื่นรื่นริน  จินต์ระทวย  เขินขวยขรม
รอนรอนใจ  อาลัยวอน  กลอนน่าชม
งามงามสม  เป็นกวี  ศรีบ้านไทย..๗๖๘


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 09 สิงหาคม 2010, 12:06:PM
ดูดูแล้วน่าลองของยากยาก
แต่งแต่งจริงยิ่งลำบากกว่าไหนไหน
มองมองหาที่ไม่ซ้ำคำใครใคร
จดจดทุกบทใส่ใจย้ำย้ำ .....๗๖๙

กวีกวีหลายท่านนั้นเก่งเก่ง
รีบรีบมาบรรเลงเพลงขำขำ
ลองลอง”มยุราฟ้อนหาง”วางนำนำ
ซ้ำซ้ำคำสองคู่ดูดีดี.....(๗๗๐)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 09 สิงหาคม 2010, 02:19:PM
..ลองลองแต่งเดิมต่อพอขำขำ
ซ้ำซ้ำคำนำท้ายคล้ายนี่นี่
เป็นเป็นไรได้ของลองทีที
อาจอาจมีที่ผิดคิดตรองตรอง (๗๗๑)

เล่นเล่นศัพท์จับแต่งแปลงนิดนิด
ถูกถูกผิดคิดได้ไม่หมองหมอง
ครวญครวญใคร่ได้มั่งนั่งยองยอง
เหม่อเหม่อมองจ้องดูรู้นัยนัย (๗๗๒)

เซลล์เซลล์ตายหลายตัวหัวคิดคิด
พิพินิจติดต่อข้อไขไข
พึมพึมพำทำเป็นเห็นไรไร
ดูดูไปไม่ยากหากมองมอง (๗๗๓)

คล้ายคล้ายกลอนหกคำทำต่อต่อ
ย้ำย้ำพอรอศัพท์จับถองถอง
เชิญเชิญเล่นเห็นมาน่าลองลอง
หนึ่งหนึ่งสองลองซุกหนุกจริงจริง (๗๗๔)
           ......แงซาย.....


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_011.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 09 สิงหาคม 2010, 02:51:PM
(http://campus.sanook.com/inlove/story_images/155.full.jpg)



เอาเอามั่งกับเค้าคำซ้ำซ้ำ
นำนำคำแลดูเป็นหญิงหญิง
ถ้าพี่พี่มองเห็นผิดจริงจริง
ช่วยตริงตริงบอกน้องก่อนสายสาย.....775





หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 09 สิงหาคม 2010, 04:29:PM

...แวะมาต่อเติมฝันวันละหน่อย
มาไม่บ่อยค่อยจารกานท์สหาย
เข้าร่วมด้วยช่วยแซมแต้มทักทาย
ยังมิคลายหายหม่นคนบ้ากลอน...............(๗๗๖)

...เมื่อความหวังยังรออย่าท้อนะ
อย่าลดละ...ใกล้ฝั่งวัน...พันอักษร
ร้อยเป็นบทจดต่อก็ยังวอน
แวะมาอ้อนเติมหน่อยคอยกวี.....................(๗๗๗)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: nasmok ที่ 09 สิงหาคม 2010, 05:07:PM
ขอนักเลงกาพย์กลอนขาจรแจม
มาช่วยแซมเสริมก่อต่อวิถี
เป้าหมายไกลเอาใจช่วยด้วยกวี
ฝากบันทึกศึกนี้อยู่ที่ใจ...................(778)

อีกไม่ไกลคงครบครันสี่พันบาท
คงไม่ขาดแต่อาจเพลินจนเกินได้
หากติดลมยั้งไม่อยู่คงรู้ไป
ตั้งเป้าใหม่หมื่นบทช่วยจดจาร...........(779)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 09 สิงหาคม 2010, 05:15:PM
งานชักยุ่งตุงนังนั่งตาลอย
ไม่อาจบ่อยต่อกลอนอ้อนสหาย
ผ่านไปได้ใจฉันพลันสบาย
จึงรีบมาทักทายสหายกลอน  ( 780 )

เพียงไม่นานเหมือนนานผ่านเป็นปี
ห่างถ้อยความวจีที่ออดอ้อน
กวีนี้มิลืมปลื้มทุกตอน
แต่งานร้อนตอนนั้นฉันจึงไกล (781)

พอเบาบางทางงานพลันจึงเร่ง
เข้าพบเพลงกวีที่อ่อนไหว
พันบทกลอน โอ้โฮ..โผล่มาไว
เกือบแล้วไงพันบทจดไม่ทัน  (782)


ไฟดับ..เลยโดนปาดเลยคร๊าบ.......
    emo_20


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: บอม ซอง ดุ๊ก ที่ 09 สิงหาคม 2010, 07:09:PM

ใจหมายมั่น สร้างกลอนกลั่น...สักพันบท
กับรันทด ถึงความงามและความหมาย
เห็นวรรคเว้น เห็นถ้อยคำ.....ขำในใจ
พึงจะไต่ถึงพันบท....สลดใจ...

กับวาทีที่คล้องคำกล้ำกาพย์กลอน
ไม่รุ่มร้อนซึ้งโอนอ่อนและร่อนไหล
ดูจืดชืดพะอืดอม....ระทมใจ....
ยังมิใช่ บทกวี ที่งดงาม....

กลอนพันบทลดคุณค่ามาแค่ร้อย
ยังอ่อนด้อยในอารมณ์และคมขาม
แต่สำนึกที่แฝงไว้ในถ้อยคำ
กับงดงามสูงล้ำ.....กล้ำบทกลอน....

จึงเห็นแสงแรงดลใจให้คิดต่อ
สำนึกก่ออยู่ในกวีชี้คำสอน
สวยในศัพท์แต่หยาบถ้อยด้อยบทกลอน
ถึงพันบทยาวพันท่อน.......ไม่นำพา

(http://www.kaweeclub.com/link/a1%20(164).gif)

ผมจะพยายามทำให้กลอนมีคุณค่ามากที่สุดครับ






หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: blackbear ที่ 09 สิงหาคม 2010, 09:02:PM
รอนรอนแสงอุษาเมื่อคราสาง
ย่ำย่ำทางบุกไปในภายหน้า
เหนื่อยเหนื่อยหน่อยน้อยใจไม่นำพา
เดินเดินฝ่าเมฆฝนด้นดั้นไป
เขียนเขียนกลอนเรื่อยเรื่อยเหนื่อยก็พัก
ฝากฝากรักแทนคำร่ำไฉน
อ่านอ่านแล้วแก้วตาอย่าอาลัย
ส่งส่งใจกลับมาอย่าช้านาน


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 10 สิงหาคม 2010, 11:53:AM

ใจหมายมั่น สร้างกลอนกลั่น...สักพันบท
กับรันทด ถึงความงามและความหมาย
เห็นวรรคเว้น เห็นถ้อยคำ.....ขำในใจ
พึงจะไต่ถึงพันบท....สลดใจ...

กับวาทีที่คล้องคำกล้ำกาพย์กลอน
ไม่รุ่มร้อนซึ้งโอนอ่อนและร่อนไหล
ดูจืดชืดพะอืดอม....ระทมใจ....
ยังมิใช่ บทกวี ที่งดงาม....

กลอนพันบทลดคุณค่ามาแค่ร้อย
ยังอ่อนด้อยในอารมณ์และคมขาม
แต่สำนึกที่แฝงไว้ในถ้อยคำ
กับงดงามสูงล้ำ.....กล้ำบทกลอน....

จึงเห็นแสงแรงดลใจให้คิดต่อ
สำนึกก่ออยู่ในกวีชี้คำสอน
สวยในศัพท์แต่หยาบถ้อยด้อยบทกลอน
ถึงพันบทยาวพันท่อน.......ไม่นำพา

([url]http://www.kaweeclub.com/link/a1%20(164).gif)[/url]

ผมจะพยายามทำให้กลอนมีคุณค่ามากที่สุดครับ







...กลอนพันบทลดค่าราคาน้อย
เพียงเพราะถ้อยเถื่อนคำย่ำภาษา
หรือเพราะใจแคบคับจึงอัปรา
อักษราสื่อพจน์ทุกบทตอน...(789)


..."เด็กชายเต็ง"เล็งเห็นประเด็นรู้
ตั้งกระทู้เบิกทางวางอักษร
หวังบันทึกผนึกใจไว้ในกลอน
มีครูสอนศิษย์เรียนร่วมเพียรไป...(790)


....ใช่เก่งกล้าสามารถประกาศก้อง
แค่นำล่องคล้องโยงด้วยโปร่งใส
อ่านแต่ต้นยลเอาย่อมเข้าใจ
ที่แทรกไว้ชี้ชัดวัดไมตรี...(791)


...หลากกวีใหม่เก่าเข้ามาต่อ
คล้ายหยอกล้อยั่วเย้ากระเซ้าถี่
เพิ่มพันผูกปลูกมิตรใกล้ชิดดี
ดั่งน้องพี่ชี้ชวนสำนวนงาม...(792)


...ผู้ใดเปรื่องเฟื่องเด่นเป็นรุ่นพี่
เชิงกวีเข้มขลังอย่าพลั้งหยาม
ช่วยน้องน้อยค่อยสอนยังอ่อนความ
"พีเอ็ม"ตามเตือนกันจนมั่นใจ...(793)
....................................................................

...เขียนกลอนสดปลดปล่อยความรู้สึก
ด้วยสำนึกลึกเร้นเค้นมาให้
ทุกบทกลอนซ่อนเสน่ห์ไร้เล่ห์ภัย
คือตำนานบ้านกลอนไทยในเวลา.../ทอฝัน(794)

.....................ยินดีต้อนรับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ค่ะ"บอม"...............................


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 10 สิงหาคม 2010, 01:53:PM

...กลอนพันบทใช่ลดค่าราคาน้อย
ทุกคำถ้อยยังร้อยนำคำสรรหา
บทประพันขันต่อรอพจนา
พร่ำวาจาว่าพจน์เข้าจดจาร.....................(๗๙๕)

...สานความฝันวันเริ่มเพิ่มคำสด
ไม่ละลดจดหน้าจอพอขับขาน
เป็นส่วนหนึ่งรำพันกลั่นกลกานท์
ส่งคำผ่านม่านกลอนตอนมีกัน................(๗๙๖)

...แวะมาเสริมสักบทก่อนกดอ่าน
กระทู้นานบนลานบอร์ดพรอดสร้างสรรค์
ส่งมาช่วยด้วยอยากเคียงเรียงประพันธ์
เข้าแบ่งปันวันจรรโลงประโคมกลอน.............(๗๙๗)

...กลอนบ้าน-บ้านด้านชาอย่าว่าเถิด
ขอใจเปิดขานรับนับอักษร
ยังซึมเศร้าเหงาแทรกแลกบางตอน
แจกอาวรณ์ยังไม่ส่างเลือนลางไป..................(๗๙๘)

...หวังนำพจน์ออกจิตที่คิดอ่าน
เมื่อร้าวรานผลาญสิ้นเข้าถิ่นไหน
แม้แต่ลานกวีที่กลอนไทย
ยังอยู่ไกลเกินเอื้อมเลื่อมพจนา.......................(๗๙๙)

...มาพร่ำบ่นคนท้อรอเอื้อนเอ่ย
กลอนล่วงเลยเชยผ่านนานหนักหนา
บททดสอบครอบงำนำทางมา
มีน้ำตาเป็นหมึกจารึกกลอน.....................(๘๐๐)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: บอม ซอง ดุ๊ก ที่ 11 สิงหาคม 2010, 02:14:AM

ใจหมายมั่น สร้างกลอนกลั่น...สักพันบท
กับรันทด ถึงความงามและความหมาย
เห็นวรรคเว้น เห็นถ้อยคำ.....ขำในใจ
พึงจะไต่ถึงพันบท....สลดใจ...

กับวาทีที่คล้องคำกล้ำกาพย์กลอน
ไม่รุ่มร้อนซึ้งโอนอ่อนและร่อนไหล
ดูจืดชืดพะอืดอม....ระทมใจ....
ยังมิใช่ บทกวี ที่งดงาม....

กลอนพันบทลดคุณค่ามาแค่ร้อย
ยังอ่อนด้อยในอารมณ์และคมขาม
แต่สำนึกที่แฝงไว้ในถ้อยคำ
กับงดงามสูงล้ำ.....กล้ำบทกลอน....

จึงเห็นแสงแรงดลใจให้คิดต่อ
สำนึกก่ออยู่ในกวีชี้คำสอน
สวยในศัพท์แต่หยาบถ้อยด้อยบทกลอน
ถึงพันบทยาวพันท่อน.......ไม่นำพา

([url]http://www.kaweeclub.com/link/a1%20(164).gif)[/url]

ผมจะพยายามทำให้กลอนมีคุณค่ามากที่สุดครับ







...กลอนพันบทลดค่าราคาน้อย
เพียงเพราะถ้อยเถื่อนคำย่ำภาษา
หรือเพราะใจแคบคับจึงอัปรา
อักษราสื่อพจน์ทุกบทตอน...(789)


..."เด็กชายเต็ง"เล็งเห็นประเด็นรู้
ตั้งกระทู้เบิกทางวางอักษร
หวังบันทึกผนึกใจไว้ในกลอน
มีครูสอนศิษย์เรียนร่วมเพียรไป...(790)


....ใช่เก่งกล้าสามารถประกาศก้อง
แค่นำล่องคล้องโยงด้วยโปร่งใส
อ่านแต่ต้นยลเอาย่อมเข้าใจ
ที่แทรกไว้ชี้ชัดวัดไมตรี...(791)


...หลากกวีใหม่เก่าเข้ามาต่อ
คล้ายหยอกล้อยั่วเย้ากระเซ้าถี่
เพิ่มพันผูกปลูกมิตรใกล้ชิดดี
ดั่งน้องพี่ชี้ชวนสำนวนงาม...(792)


...ผู้ใดเปรื่องเฟื่องเด่นเป็นรุ่นพี่
เชิงกวีเข้มขลังอย่าพลั้งหยาม
ช่วยน้องน้อยค่อยสอนยังอ่อนความ
"พีเอ็ม"ตามเตือนกันจนมั่นใจ...(793)
....................................................................

...เขียนกลอนสดปลดปล่อยความรู้สึก
ด้วยสำนึกลึกเร้นเค้นมาให้
ทุกบทกลอนซ่อนเสน่ห์ไร้เล่ห์ภัย
คือตำนานบ้านกลอนไทยในเวลา.../ทอฝัน(794)

.....................ยินดีต้อนรับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ค่ะ"บอม"...............................




ขอบคุณครับ ที่ต้อนรับด้วยจริงใจ
พลั้งสิ่งใหน พลาดสิ่งใด โปรดแนะแนว
ช่วยเจียรไนยให้สดใส ดั่งคล้ายแก้ว
ใจพร่างแพร้ว แต่ไม่หาญเทียบชั้นครู....

แค่มองดูแล้วเรียนรู้ติดตามไป
เพราะสิ่งใหนก็เก็บไว้ไส่หู
สวยสิ่งใดเปิดดวงตาเฝ้ามองดู
ก้าวติดตามรอยเท้าครู อยู่ไกลๆ.....

กลอนพันบทจะสวยสดเพราะท่านชม
จะสั่งสมประสบการณ์กลั่นความหมาย
ค่อยคืบคลานด้วยสำนึกภายในใจ
แล้วค่อยไต่ไปพันบท ที่งดงาม...

ก้าวเข้ามาใต้ชายคาแห่งบทกลอน
จิตเคยร้อนกลับผ่อนคลายไม่ผลีผลาม
เห็นกวีที่มากมายหลายถ้อยความ
เกิดแรงใจไฝ่ติดตาม ในบัดดล....

ให้สอดคล้องทำนองกลอนอ่อนโอนใจ
จึงจรดปลายปากกาพาสนน
ตามแรงใจของรุ่นพี่ที่ดาลดล
ร่วมสานผลอุดมการณ์ ตามคำเชิญ

นายบอมขอขอบคุณครับกลับ ทุกคำชม ทุกคำเชิญที่มอบให้













หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 11 สิงหาคม 2010, 09:12:AM
...ลำนำแจ้วแว่วเสียงมาเคียงมิตร
ร้อยลิขิตจำนรรมาสรรเสริญ
หนึ่งบทต่อไว้ก่อนให้กลอนเดิน
แปดร้อยเกินมาหกยังตกใจ.../ทอฝัน(806)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แม่ค้าหน้าหวาน ที่ 11 สิงหาคม 2010, 09:28:AM
...ยินเสียงแว่ว...เจื้อยแจ้ว...แม่แก้วขวัญ
น้องทอฝัน...รำพัน...ช่างหวั่นไหว
รีบมาต่อ...เร็วหนา...อย่าช้าใย
เชิญด้วยใจ...มาจดจาร...สานมนตร์กลอน (807)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สุดสาย ที่ 11 สิงหาคม 2010, 09:48:AM


มาต่อด้วย  ช่วยกัน  รับวันใหม่
มาส่งใจ  ที่ห่วงใย  ให้กันก่อน
ส่งเป็นความ  ห่วงหา  มาด้วยกลอน
ยากจะถอน  ใจห่าง  หรือร้างไกล  ( 808 )




หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 11 สิงหาคม 2010, 10:15:AM
809.หลากหลายศัพท์ลับคมไม่สมถ้อย
ด้วยความด้อยอารมณ์กลอนอ่อนภาษา
ขาดความพลิ้วเพลินพิศให้ติดตา
ขอบรรดาเหล่ากวีช่วยชี้นำ

810.แต่ทุกถ้อยร้อยเรียงเป็นเสียงสื่อ
ยังยึดถือหลักไว้ไม่ถลำ
เพียงขาดความคมค่าน่าจดจำ
ไม่เลิศล้ำสมค่าว่า"กวี"

ผมพยายามจะกลั่นกรองให้ได้ทั้งอารมณ์กลอน
ความอ่อนไหวให้บทกลอน แต่ทุกครั้งก็ยังขาดๆเกินๆ
แต่ทุกคำพยายามสะกดให้ถูกอย่างน้อยความหมายคำของผมจะไม่ผิดเพี้ยน
บางครั้งผมหยิบคำมาโบราณเกินพอผสมกับคำใหม่ๆเลยขัดกัน
ฝากขออภัยในทุกถ้อยพจน์รจนา ครับ


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 11 สิงหาคม 2010, 11:07:AM
...หลากครูกลอนสอน"ทอฝัน"ให้ปันรัก
เรียงร้อยถักถ้อยคำนำวิถี
จินตนาการรานเร้าเข้าวจี
แล้วจึงพลีร่ายพจน์เป็นบทกานต์...(811)


...พยายามพากเพียรเรียนไม่หยุด
เริ่มสะดุดครูดันร่วมสรรสาน
เตือนข้อพร่องข้องขัดช่วยจัดการ
ค่อยค่อยผ่านความเขลาเริ่มเข้าใจ...(812)


...เรารักในสิ่งเดียวกันจึงผันพบ
หากประสบการณ์ต่างบ้างใช่ใหม?
หวังกระทู้ช่วยปรับขยับใจ
จากผู้ให้สู่ผู้รับได้ขับเคียง...(813)


...ฝากบทกลอนอ้อนครูผู้รู้แจ้ง
วานแสดงแจงใจใช่ซุ่มเสียง
อยากให้กลอนงามคมภิรมย์เรียง
ครูอย่าเลี่ยงห่างเหินเหมือนเมินใจ...(814)

....................................................................

...ถึงวันนี้คงรู้ดีความประสงค์
ที่ยืนยงหวังเพียงได้เคียงใกล้
เหล่ามวลมิตรศิษย์ครูรวมหมู่ใจ
คือ...ความฝัน...ยิ่งใหญ่...ใช่ลมแล้ง...!!!/ทอฝัน(815)



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: อัศจรรย์จิต ที่ 11 สิงหาคม 2010, 12:15:PM
(816)หนึ่งในส่วนร้อยพันเท่านั้นหนอ
จึงใคร่ขอครูคำช่วยนำส่ง
ถึงจุดหมายปลายฝันที่บรรจง
ด้วยลุ่มหลงอักษราภาษากลอน
(817)ชี้คำผิดเสียงต่างวางไม่ชัด
ร้อยเรียงจัดไม่แจ้งแผลงอักษร
ฝากครูเข้าติเตียนทุกขั้นตอน
อย่าคลายคลอนอ้อนมาให้อาดูร
(818)ลงเสียงล้ำกล้ำผิดช่วยคิดแก้
ให้ถูกแท้คำศิลป์กวิน-ศูนย์
อาศัยร่มร่วมทางพ่างประยูร
หวังเพิ่มพูนคุณค่าภาษาเรา.


อัศจรรย์จิต ลิขิตคำ


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 11 สิงหาคม 2010, 12:55:PM


o ประหนึ่งสรวง หน่วงโน้ม ถูกโลมเล้า
อ้างว่าเชาว์ เบาบาง อำพรางแต่ง
แท้จริงนั้น ขั้นเซียน เขียนแสดง
ไยจำแลง แปลงองค์ หรือหลงมา..... (819)

o ฤาจะหยอก บอกใบ้ ว่าไร้ชื่อ
แท้จริงคือ มือทอง โลกร้องหา
ผมผู้น้อย ด้อยนัก ศักดิ์เพียงกา
ยิ้มเริงร่า มาแซว......แล้วก็ไป...... (900) ... emo_26





แบบว่า.....แซวทุกท่านแหละครับเห็นระดับเทพทั้งนั้น.....แอบอ่านอยู่นอกบ้าน  ฮ่าๆ
ข้าผู้น้อยหนีเรียนมา ต้องไปก่อนแหละ  แบร่ๆ
แต่งกลอนให้มีความสุขนะครับ.....


   emo_100
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 11 สิงหาคม 2010, 02:09:PM


o ประหนึ่งสรวง หน่วงโน้ม ถูกโลมเล้า
อ้างว่าเชาว์ เบาบาง อำพรางแต่ง
แท้จริงนั้น ขั้นเซียน เขียนแสดง
ไยจำแลง แปลงองค์ หรือหลงมา..... (819)

o ฤาจะหยอก บอกใบ้ ว่าไร้ชื่อ
แท้จริงคือ มือทอง โลกร้องหา
ผมผู้น้อย ด้อยนัก ศักดิ์เพียงกา
ยิ้มเริงร่า มาแซว......แล้วก็ไป...... (900) ... emo_26


...น้องนะโมตกเลขหรือไรเจ้า
มามัวเมาทึกทักลักไปไหน
หรือตาลายเพราะเรียนเลยเปลี่ยนไป
เรียงเลขไซร้จึงผิดอิจจา........................(๘๒๑)

...อย่าหนีเรียนมากนักพักเป็นหลบ (หรือเปล่า)
จดบททบทวนใคร่ใจห่วงหา
อย่าเพิ่งแอบย่องออกนอกตำรา
สื่อภาษาตอนว่างอย่าวางวาย................(๘๒๒)

...อักษรน้อยคอยเขียนเวียนมานะ
อย่าลดละใกล้ครบพันอย่าพลันหาย
คิดถึงกันก็หมั่นเข้าเฝ้าทักทาย
จะเรียงรายร่ายกลอนอ้อนประจำ............(๘๒๓)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 11 สิงหาคม 2010, 03:38:PM


ปานขั้นเทพ  แมนสรวง  ดวงยิหวา
อักษรา น่านิยม  คมงามล้ำ
ทั้งนะโม    ตะวันฉาย  แงซายนำ
อัศจรรย์จิต  ทอฝัน  ย้ำคำกวี..๘๒๔

แปดร้อยบท  กว่าๆ   มาจารจด
อรรถรส  พจน์ท่าน  หวานเหลือที่
บ้างแกร่งกร้าว  พราวแพรว   แววมณี
ใกล้เข้ามา  ทุกที  ที่หนึ่งพัน..๘๒๕


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 12 สิงหาคม 2010, 10:09:AM
 
มาร่วมกัน ขับขาน ผ่านอักษร
               
เหล่าอรชร น้องพี่ สร้างสัมพันธ์
     
ความคิดมาก หลากหลาย นับร้อยพัน
   
หลากความฝัน รวมใจ เป็นหนึ่งเดียว(๘๒๖)
           
อุดมการณ์ สานใจ รว่มกลมเกลียว
     
แม้หนทาง คดเคี้ยว แต่มั่นคง
   
มิตรไมตรี สัมพันธ์ ยังยืนยง
               
  อย่างมั่นคง สานฝัน ชาวบ้านกลอน(๘๒๗) 
     
---พลังศรัทธา---
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_005.gif)
ต่างคน ต่างที่ ต่างหัวใจ แต่อุดมการณ์
สานใจ ที่กลมเกลียว สร้างมิตรไมตรี ที่สัมพันธ์   ร่วมเกี่ยวก้อย ร้อยดวงใจ สานฝันให้เป็นจริง




หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 12 สิงหาคม 2010, 10:40:AM
๐ กระจ่างแจ้งแสงไขในดวงจิต
สมองคิดมือย้ายร่ายอักษร
กลั่นจากจิตคิดจากใจใส่อาวรณ์
ประพันธ์พจน์ยอกย้อนในกลอนกานท์ (๘๒๘)

๐ มีความทุกข์สุขใดใส่ในนั้น
บทประพันธ์กลอนกาพย์ซาบคำหวาน
บอกความคิดความรู้สึกตรึกวิญญาณ
ประสิทธิ์สาส์นสืบถ้อยร้อยกรองไทย (๘๒๙)


ไม่เพราะขออภัยท่านผู้อ่านด้วยครับ


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 12 สิงหาคม 2010, 10:55:AM
บทกวี   พันบท  พจนารื่น
กวีชื่น  รื่นถ้อย  ร้อยเรียงไว้
รวมสำนวน  ครวญคร่ำ  ร่ำลือไกล
ทุกบทไป  กลอนกานท์  สานรวมใจ..๘๓๐

มายลเยี่ยม  เรี่ยมเร้    เรไรกรุ่น
หอมละมุน  คุณค่า  เทียมฟ้าใส
เพลินถ้อยพจน์  รจนา  ลดาใด
ระบัดใบ  ไหวพริ้ว  เป็นริ้วงาม..๘๓๑

บทกวี  นี้ฤา  คือธรรมชาติ
หมู่มวลไม้  คล้ายญาติ  ผงาดท่าม
ลำนำถ้อย  ร้อยคำ  ล้ำเลิศงาม
ดั่งตะวัน - ฉายยาม  ฟ้าครามนั้น..๘๓๒


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 12 สิงหาคม 2010, 11:03:AM
แค่ผ่านมา จะผ่านไป ให้เหลียวหลัง
เพื่อหยุดฟัง  ลำนำกลอนมา วาจาใส
เป็นชมรม ด้วยนะนี่ แสนดีใจ
อนุรักษ์ไว้  ให้ลูกหลาน ได้อ่านนา


แค่ผ่านมา จะผ่านไป ให้เหลียวหลัง
ต้องหยุดนั่ง ฟังบทกลอน ก่อนนั่นหนา
มีความทุกข์ จากที่ใด ไม่นำพา
สุขอุรา ฝากกลอนไว้ ในชมรม.


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 12 สิงหาคม 2010, 01:19:PM
๘๓๕.หยิบเรื่องวนเว้าเวียนมาเขียนต่อ
เรียงลออคลอคำนำผสม
โยงสัมผัสจัดสำนวนให้ชวนชม
พลิ้วหวานผ่านสายลมด้วยคมคำ

๘๓๖.เดินเวียนวนรอบรั้วจนทั่วทิศ
พร้อมลิขิตในใจใฝ่กลอนร่ำ
หาเรื่องราวน้าวโน้มประโลมรำ
กลางสายฝนหล่นพรำในยามเช้า

๘๓๗.ยิ้มให้กับมะลิซ้อนตอนเช้าตรู่
เหมือนกับรู้เบ่งบานจากก้านเถา
ส่งกลิ่นหอมย้อมใจให้บรรเทา
จากความเหงาเข้าหาเวลานี้

๘๓๘.หยดน้ำฝนหล่นเหลือเมื่อหลังฝน
คิดถึงคนบนฟ้าน้ำตาปรี่
อาบแก้มกร้านด้านชามานานปี
ถูกย่ำยีด้วยเศร้ามาเนานาน





หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: มหาซัง ที่ 12 สิงหาคม 2010, 10:49:PM

๘๓๘. ระหกระเหิน เดินย่าง สู่ทางฝัน     
คงสักวัน นั้นสุข ทุกสถาน
ลืมวันเศร้า เก่าก่อน ตอนร้าวราน   
ด้วยวิญญาณ หาญกล้า พร้อมท้าชน

๘๓๙.สองขาก้าว ยาวสั้น ค่อยปั้นต่อ   
อย่ามัวท้อ ต่อศึก หมั่นฝึกฝน
ดีเลวบ้าง ช่างเถิด เกิดเป็นคน   
รวยหรือจน ทนเอา จงเข้าใจ

๘๔0.มอบรอยยิ้ม อิ่มเอม เกษมสันต์   
แสนลาวัลย์ ปั้นเสริม เพิ่มสดใส
เพื่อโลกสุข สดชื่น รื่นฤทัย   
ตราตรึงใว้ ในทรวง ทุกดวงมาน 

มหาซัง


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 12 สิงหาคม 2010, 11:11:PM
(http://www.acousticthai.net/community/attachment.php?aid=5037)
"ทุ่งหญ้าสีทอง"
กลางทุ่งหญ้าสาดแสงตะวันฉาย
ยามสายสายบ่ายคล้อยที่ยาวนาน
ดอกไม้น้อยเรียงร้อยเป็นพุ่มบาน
น่าขับขานดนตรีอบอุ่นไอ(๘๔๑)

ท่ามกลางหญ้าสีทองสุดสายตา
พริ้วไหวมาโอนอ่อนสัมผัสใจ
ช่างอุ่นไอกลิ่นลมพริ้วตามใบ
สุดเยื่ยใยโชยกลิ่นชมชื่นกาย(๘๔๒)
---พลังศรัทธา--
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_005.gif)




หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 12 สิงหาคม 2010, 11:34:PM

สามัคคีคือพลังหลั่งความคิด
ช่วยลิขิตกลอนฝันให้ฉานฉาย
ต่อครบพันเถิดหนาอย่าเอียงอาย
ดั่งเรียงรายน้ำใจให้ต่อกัน (๘๔๓)

ทั้งพี่เก่าน้องใหม่ใสสะอาด
ต่างมุ่งมาตรวาดกวีเพิ่มสีสัน
ทั้งนานาสาระมาผูกพัน
มาร่วมกันร้อยวลีเป็นศรีนาม (๘๔๔)
มาฝากชื่อเอาไว้ในพันบท
ให้ปรากฏชื่อเสียงเคียงสนาม
เราก็ศิษย์มีครูสู้ทุกยาม
ฝากกลอนงามติดไว้ในบ้านกลอนฯ (๘๔๕)

 emo_55

“ปรางค์  สามยอด”


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 12 สิงหาคม 2010, 11:55:PM
(http://planet.kapook.com/files/photo/4/254386_1929283614.jpg)
"ลุงปรางค์"
เห็นลุงปรางค์สานฝันกลอนพันบท
ต้องจำจดมั่นหมายชวนออดอ้อน
ให้พี่น้องรวมใจแต่งบทกลอน 
เหล่าอรชรพับบทไม่ห่างไกล(๘๔๖)

มาวันนี้ลุงปรางค์ยังขบขัน   
ทุกทุกวันอยู่คู่ไม่ไปไหน
ยังคงรักบ้านกลอนสุดหัวใจ 
คอยห่วงใยพี่น้อง ไม่ลืมเลือน(๘๔๗)
---พลังศรัทธา---
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_008.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 13 สิงหาคม 2010, 12:15:AM
(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcT3L3ghN01yg4gJL9ySu3_U7lp5t5gDhqfOvUNQVYCMGtJeZF8&t=1&usg=__0I-UoTZStBXN0-T1mUliLmX6IBY=)


มาลงกลอนพันบทน่าอดสู
ก็คิดดูคนมากมาเยี่ยมเยือน
เช่นลุงปรางค์สามยอดมาทุกเดือน
มาย้ำเตือนอัสดงลงช้าจัง (848)

ใครจะรู้จะเห็นลุงลงแล้ว
ต้องคลาดแคล้วลงกลอน ฉ.เอวัง
หลานเลยต้องจรรีความฝันพัง
ลงไม่ทันแต่งเก้อเลยลุงปรางค์ (849)

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_111.jpg)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: อัศจรรย์จิต ที่ 13 สิงหาคม 2010, 12:51:AM
(850)ถักถ้อยทอต่อยอดเพื่อพรอดพร่ำ
หากถ้อยคำประสมเกินอย่าเมินหมาง
ยกคำไทยในจิตประดิษฐ์วาง
ผสมสร้างเสียงศัพท์ไม่ลับเลือน

(851).ณ ค่ำคืนดื่นดึกยังคึกคัก
หลังนอนพักสักคราพากลอนเกลื่อน
ขยับคำรำฟ้อนอ้อนดาวเดือน
ส่งคำเยือนเพื่อนมิตรจิตคำนึง

(852).ชะโลมศัพท์ขับขนวันฝนตก
คว้าคำปกยกไว้ให้คิดถึง
งามวิไลใสจ้าแจ่มตราตรึง
เปรียบประหนึ่งเพลงพิณถิ่นคนธรรพ์


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 13 สิงหาคม 2010, 01:30:AM
๘๕๓.เพลินอารมณ์พรมอร่ามท่ามคืนหนาว
ไร้แสงดาวราวสิ้นแดแปรเปลี่ยนผัน
คืนฟ้ามัวคราฟ้าหม่นอยากยลจันทร์
คงรอฝันคั่นแรงฝนคลายมนตรา

๘๕๔.สายฝนยังสั่งฝากเย้ากระเซ้าแซะ
หากเวียนแวะให้เวียนวนค้นปัญหา
กระซิบร้อยกำซาบรักปักอุรา
สนั่นค่าสนั่นคำร่ำพาที


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 13 สิงหาคม 2010, 07:26:AM
มาแต่งกลอน ครบพันบท กันดีกว่า
ด้วยเข้ามา เป็นน้องใหม่ ไม่นานนี้
ยังสงสัย เลขลำดับ บังคับมี
กำหนดที่ บทนั้น นั่นจำนวน

จะต้องเขียน เองหรือ คือสอบถาม
อยากรู้ความ กลัวซ้ำกัน จะผันผวน
หลังกลับหน้า หน้ากลับหลัง รั้งขบวน
กว่าครบถ้วย หากถอยหลัง ตั้งใหม่กัน

ได้เขียนมา 2บทมี ที่จำได้
แต่เลขหมาย ไม่มีมา ดังว่านั้น
จะต่อท้าย 829 เข้าไม่ทัน
เปลี่ยนไปพลัน สัมผัสนั้น ห่างกันไกล

ตั้งใจเดิม จะต่อท้าย เซียนสุรา
เข้ามาช้า กุลมาตา มาแซงได้
คำสุดท้าย ทิ้งไว้ ร้อยกรองไทย
วาจาใส สัมผัสได้ ให้คล้องจอง

จึงกลายเป็น ผมเล่นต่อ กุลมาตา
ทิ้งท้ายมา เลขลำดับตาม 832
(ดั่งตะวันฉาย ยามฟ้าครามนั้น) ไม่ทันมอง
สัมผัสของ กลอนผมนั้น มันผิดไป.


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 13 สิงหาคม 2010, 07:31:AM
ขอแก้คำผิด
กว่าครบถ้วย หากถอยหลัง ตั้งใหม่กัน
เป็น
กว่าครบถ้วน หากถอยหลัง ตั้งใหม่กัน

ขออภัยด้วยครับ


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 13 สิงหาคม 2010, 09:12:AM
๘๕๕. มาแต่งกลอน ครบพันบท กันดีกว่า
ด้วยเข้ามา เป็นน้องใหม่ ไม่นานนี้
ยังสงสัย เลขลำดับ บังคับมี
กำหนดที่ บทนั้น นั่นจำนวน

๘๕๖.จะต้องเขียน เองหรือ คือสอบถาม
อยากรู้ความ กลัวซ้ำกัน จะผันผวน
หลังกลับหน้า หน้ากลับหลัง รั้งขบวน
กว่าครบถ้วย หากถอยหลัง ตั้งใหม่กัน

๘๕๗.ได้เขียนมา 2บทมี ที่จำได้
แต่เลขหมาย ไม่มีมา ดังว่านั้น
จะต่อท้าย 829 เข้าไม่ทัน
เปลี่ยนไปพลัน สัมผัสนั้น ห่างกันไกล

๘๕๘. ตั้งใจเดิม จะต่อท้าย เซียนสุรา
เข้ามาช้า กุลมาตา มาแซงได้
คำสุดท้าย ทิ้งไว้ ร้อยกรองไทย
วาจาใส สัมผัสได้ ให้คล้องจอง

๘๕๙.จึงกลายเป็น ผมเล่นต่อ กุลมาตา
ทิ้งท้ายมา เลขลำดับตาม 832
(ดั่งตะวันฉาย ยามฟ้าครามนั้น) ไม่ทันมอง
สัมผัสของ กลอนผมนั้น มันผิดไป.....(Nop)

๘๖๐. อยากตอบก็ จนใจ เพราะไม่ทราบ
อาศัยเดา เอาคร้าบ ว่าผ่านไหม
ก็กะว่า ยามนี้ ไม่มีใคร
 ส่งเร็วไวส่วนลำดับรับใส่เอง

๘๖๑. เรื่องลำดับคงไม่กระไรนัก
อาจจะจัดเรียงใหม่ให้ตรงเผง
แค่สนุกทุกยามไปตามเพลง
ไม่ต้องเกรง พลาดผิด ครับมิตรกลอน

๘๖๒. ครบกำหนด จดใหม่ ให้มิตรแก้
สัมผัสแย่แก้ไขในอักษร
แค่ขำขำอำลวงแก้ง่วงนอน
มาเว้าวอน อ้อนกานท์ สานสัมพันธ์

๘๖๓. วันแม่ปีห้าสามส่งความสุข
แด่แม่ทุกถิ่นไทยให้หฤหรรษ์
ขอรำลึกพระคุณอุ่นชีวัน
สิบนิ้วพลันประนมราบกราบมารดา



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 13 สิงหาคม 2010, 10:24:AM
    ๐..ฝนรินริน กลิ่นกลอน ก็ฟอนฟุ้ง
นั่งจับคำ กล้ำปรุง พุ่งเป้าหา
ถึงอักษร อ้อนรัก ทักเสภา
เพื่อฝากฝน บนฟ้า คราฝนพร่ำ....864..
     ๐..ให้ช่วยนำ คำหวาน พัดผ่านหู
ถึงโฉมตรู คู่สมร ตอนเช้าค่ำ
ว่าคิดถึง จึงประดิษฐ์ คิดถ้อยคำ
แทนใจที่ ร้องร่ำ พร่ำหากัน....865..
     ๐..ดั่งมีมนต์ ดลใจ ให้คิดถึง
กลอนพันหนึ่ง ถึงไหน ใคร่รังสรรค์
ให้พานพบ ประสบหมาย ได้เร็วพลัน
จึงรำพัน ปั้นกลอน ป้อนเพิ่มไป....866..
    ๐..เห็นหลายท่าน ขยันแต่ง ก็แจ้งจิต
ให้ลิขิต กิจการ ประสานไว้
จึงปล่อยจินต์ จินตนา พาหัวใจ
ให้ต่อคำ ต่อใจ ใช้ต่อกลอน.....867..***เมฆา***

     emo_82 emo_108 emo_82 emo_94 emo_86
     
 


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: พิกุลแก้ว ที่ 13 สิงหาคม 2010, 11:25:AM
๘๖๘..ได้จังหวะมาร่วมต่อภาษา
ด้วยเห็นท่านเมฆามาออดอ้อน
หรือโดนมนต์บทใดในบางตอน
จึงขอฟ้อนกานท์บ้างอย่างเปรมปรีดิ์

๘๖๙..12 สิงหา..มาบรรจบ
กลับไปพบหน้าแม่แลผองพี่
ร่วมรับประทานอาหารคาวหวานดี
นานนานทีพร้อมหน้านะครอบครัว

๘๗๐..คิดถึงครั้งแต่ก่อนตอนโต้เถียง
บ้างขึ้นเสียงใส่กันวันฟ้าหลัว
คิดถึงตอนดื้อรั้นนั้นหวาดกลัว
เพราะโดนไม้นวดตัวทั่วกายา

๘๗๑..แต่แปลกไหมใจมันไม่คิดโกรธ
หรือถือโทษเอาไว้จนไกลหน้า
กระทบกระทั่งช่างเถอะ.."ธรรมดา"
เมื่อโตมาเริ่มคิดสะกิดใจ

๘๗๒..ที่แม่พร่ำว่ากล่าวและเฝ้าสอน
เพื่อต้องการสะท้อนตอนเผลอไผล
หากทำผิดรับผิด...อย่าปิดไป
ฝึกให้เป็นนิสัยในตัวเรา

๘๗๓..ก็เพื่อเราทั้งนั้นกลั่นความคิด
แม่คือมิตรบริสุทธิ์หยุดความเขลา
แม่คือพระอรหันต์หมั่นขัดเกลา
กราบแทบเท้า..แม่จ๋า..เพลานี้...


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 13 สิงหาคม 2010, 12:14:PM
...โค้งสุดท้ายย้ายยักมาพรักพร้อม
ประณีประนอมล้อมใจไม่หน่ายหนี
ทุกถ้อยคำล้ำรสพจน์วจี
ร่วมบรรเลงเพลงกวีต่างชี้ชวน...(874)


...เรื่องลำดับปรับบทที่จดจ่อ
ต่างหมายต่อสัมผัสอาจพลัดผวน
มีบางคำเริงหลงงงขบวน
ทุกอย่างล้วนแก้ไขเมื่อปลายทาง...(875)


...พี่"สายใย"อธิบายคล้ายแจ้งชัด
เราจะจัดระเบียบเทียบสะสาง
ครูของเราเข้าปรับจับมือวาง
แล้วจึงสร้างกลอนพันบทปรากฏจริง...(876)


...เมื่อกลอนทบครบพันฝันบรรลุ
สิ่งบรรจุภายในย่อมใหญ่ยิ่ง
เปี่ยมมิตรแท้แรงใจที่ใสจริง
เราไม่ทิ้งทอดกันจนวันนี้...(877)


...อ่านลำนำย้ำทวนล้วนลึกซึ้ง
สื่อความถึงน้ำใจที่ไหลปรี่
จากทุกแหล่งแห่งห้วงบ่วงไมตรี
คือนทีรวมธารแห่งบ้านกลอน.../ทอฝัน(878)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: nnn ที่ 13 สิงหาคม 2010, 06:10:PM
ไม่ได้แวะเข้าบ้านนาน

กระทู้ผมเดินมาถึงจุดนี้แล้วหรือ

เป็นปลื้มครับพี่น้อง


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 13 สิงหาคม 2010, 06:26:PM

เจ้าของกระ-  ทู้มา  ว่าเธอปลื้ม
จำไม่ลืม  ปลื้มกระทู้  ดูเสียก่อน
น้องทอฝัน  นั้นจาร  งามกานท์กลอน
ถ้อยเว้าวอน  อ่อนช้อย  ร้อยคำงาม..๘๗๙

ป้ากุล-  มาตา  มาเติมต่อ
อีกสองบท  มิทดท้อ  ต่อเติมท่าม
คนกวี  ศรีบ้านกลอน  อ้อนต่อตาม
มิครั่นคร้าม  รวมพลัง  ดั่งตั้งใจ..๘๘๐


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 13 สิงหาคม 2010, 07:43:PM
..ความแน่วแน่แน่นในไม่หน่ายแหนง
ไม่คลางแคลงแจงมาพออาศัย
จากจุดย่างเยื้องต่อทอโยงใย
สู่ทางไกลเด็ดเดี่ยวไม่เดียวดาย (๘๘๑)

..สุดเวิ้งอ้างกางกั้นมหรรณพ
หาจุดจบครบพันที่มั่นหมาย
สำเภากลอนรอนแรมมาเรียงราย
ยังแหวกว่ายล่วงล้ำด้วยลำพอง (๘๘๒)

..ผ่านลมพริ้วแผ่วเบาเคล้าเสียงปักษ์
ผ่านเพลงรักลอยมาเวลาหมอง
ผ่านแสงแดดแสดส้มสุดสมปอง
ผ่านครรลองฟองคลื่นดื่นดาษตา (๘๘๓)

..ฝ่าสายฝนหล่นฟ้าล้าสุดฝืน
ฝ่าเกลียวคลื่นคืนซัดสะบัดหา
ฝ่าแนวหินโสโครกโยกเยกมา
ฝ่าแรงพายุโหมเข้าโรมรัน (๘๘๔)

..มองเห็นฝั่งฟากฝันวันกำหนด
เพื่อจรดรจน์ร้อยถ้อยเสกสรร
ร่วมแสดงแจงจบครบบทพัน
อย่าลืมวันฟันฝ่าเมื่อคราจร (๘๘๕)
         .....แงซาย.....


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_026.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 13 สิงหาคม 2010, 10:18:PM
(http://gotoknow.org/file/abpool9/friendship-02.jpg)

"เติมพลังให้กำลังใจ"

หากวันนี้คุณเหนื่อยและท้อแท้
อย่ายอมแพ้ชีวิตที่บั่นทอน
จงลุกขึ้นเติมพลังในบ้านกลอน
คอยรับพรเติมเต็มกำลังใจ(886)

ขอพลังในตัวจงศรัทธา
จะเป็นยาต่อสู้ชนะภัย
จะร่วมสร้างกำลังให้แก่ใจ
หนทางไกลใจสู้สำเร็จเอย(887)

---พลังศรัทธา---

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_139.gif)



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 14 สิงหาคม 2010, 12:55:AM
(http://www.cm77.com/cmb/home/attachment/201003/15/1552_126865535582Yn.gif)
"เดินท่องท้องทะเล"
ท่องทะเลเดินไปไร้จุดหมาย   
มีเพียงชายหนึ่งคนที่คุ้นเคย
หลายลอยเท้าเฝ้าคิดที่ชินเชย
สุดจะเอ่ยคำรักบนเม็ดทราย(๘๘๘)

มีเพียงลมกลุ่นไอท้องทะเล
ที่รวนเรเปลี่ยนไปน่าเสียดาย
ห่างอีกไกลขอบฟ้าที่เรียงราย
ไม่เดียวดายมากมายดว้ยผู้คน(๘๘๙)
---พลังศรัทธา---
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_008.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 14 สิงหาคม 2010, 09:58:AM
(http://img18.imageshack.us/img18/9902/poetrysociety.gif)


ใกล้เข้ามา ทุกที  ทีวาดหวัง
กลอนพันบท  พจน์พรั่ง  เป็นดั่งผล
ใกล้เก้าร้อย  คอยเห็น  เย็นกมล
กวีชน  บ้านไทย รวมใจทำ..๘๙๐

(หน้าที่แม่..เพียบ..เลยมาต่อแค่บทเดียวก่อนค่ะ..เจ้าดลน้อย..ไม่สบาย..หูอักเสบ)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 14 สิงหาคม 2010, 11:00:AM
     

   
  ๐..ถึงน้องดล  คนหล่อ ขอจงหาย
 จากโรคภัย ไข้หนาว ราวขำขำ
 ด้วยแม่กุล  อุ่นไอ ปลอบในคำ
 ดีกว่ายา เลิศล้ำปาน ขนานใด....891..
       ๐..เพราะสายใย ของแม่ แก้พิษสง
 อีกดำรง คงมั่น มิหวั่นไหว
 เปี่ยมด้วยคุณ กรุณา เมตตาใจ
 ที่มีให้ ลูกแม่ อย่างแท้จริง.....892
      ๐..พระคุณแม่ ยิ่งใหญ่ กว่าไพรสัณฑ์
 สุดอนันต์ ปั้นเปรียบ เทียบทุกสิ่ง
 อุ่นยิ่งนัก ตักแม่เรา คราวแอบอิง
 สุขเย็นยิ่ง อิงนอน ก่อนนิทรา....893
     ๐.. อีกหนึ่งอย่าง พี่อยาก ฝากดลไว้
 หากว่าเจ้า เติบใหญ่ เป็นชายกล้า
 มีของขลัง บังภัยร้าย ได้..ทุกเวลา
 คือผ้าแพร แม่มารดา ประภาพร......894... เมฆา...
 


ป.ล. ผ้าถุงแม่ ผ้าโสร่งพ่อ ที่ท่านนุ่งประจำ แอบตัดมาพอประมาณ แล้วเลี่ยมกรอบห้อยคอไว้
         นี่แหล่ะคือของขลังที่วิเศษที่สุดเพราะอุดมไปด้วย ความรัก ความห่วงใย ความปราถนาดี ความเมตตา กรุณาต่อลูก
         ป้องกันภัยได้วิเศษนัก เป็นความเชื่อของท้องถิ่นแถวบ้านเมฆาครับป้ากุล.....
 
 


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 14 สิงหาคม 2010, 11:18:AM
...อุ่นในอกอวลไอสายใยรัก
ที่ทอถักเรียงร้อยเป็นสร้อยสอน
เริ่มเอ่อรื้นชื้นตาด้วยอาวรณ์
ในกลกลอนซ่อนคมผสมคำ...(895)


...จากต้นธารนานเนิ่นเดินกระทู้
ไหลเลียบสู่พงไพรไล้ดินฉ่ำ
อีกร้อยพันบรรจบพบลำนำ
รวมสายน้ำล่องลู่สู่ทะเล...(896)


...สำเภาทองเนืองนองด้วยผองมิตร
ร่วมลิขิตฝ่าแดดดื่นคลื่นหักเห
ผ่านพายุลมแรงแสร้งซัดเซ
เคยโลเลเริ่มตรงคงเส้นทาง...(897)


...ทอดสมอรอรักพักตรงนี้
ท้องนทีบ้านกลอนมิถอนห่าง
ประคองลำนำล่องป้องอัปปาง
ผืนน้ำกว้างพร่างพรายล้วนรายล้อม...(898)


...กระเซ็นสายกรายมาหวังพาชื่น
"ทอฝัน"ตื่นพร้อมฝนปนกลิ่นหอม
มะลิเผยเย้ยยวนชวนดมดอม
จึงเปิดคอมไล่กลอนมาอ้อนอิง.../ทอฝัน(899)



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 14 สิงหาคม 2010, 11:21:AM
     

   
  ๐..ถึงน้องดล  คนหล่อ ขอจงหาย
 จากโรคภัย ไข้หนาว ราวขำขำ
 ด้วยแม่กุล  อุ่นไอ ปลอบในคำ
 ดีกว่ายา เลิศล้ำปาน ขนานใด....891..
       ๐..เพราะสายใย ของแม่ แก้พิษสง
 อีกดำรง คงมั่น มิหวั่นไหว
 เปี่ยมด้วยคุณ กรุณา เมตตาใจ
 ที่มีให้ ลูกแม่ อย่างแท้จริง.....892
      ๐..พระคุณแม่ ยิ่งใหญ่ กว่าไพรสัณฑ์
 สุดอนันต์ ปั้นเปรียบ เทียบทุกสิ่ง
 อุ่นยิ่งนัก ตักแม่เรา คราวแอบอิง
 สุขเย็นยิ่ง อิงนอน ก่อนนิทรา....893
     ๐.. อีกหนึ่งอย่าง พี่อยาก ฝากดลไว้
 หากว่าเจ้า เติบใหญ่ เป็นชายกล้า
 มีของขลัง บังภัยร้าย ได้..ทุกเวลา
 คือผ้าแพร แม่มารดา ประภาพร......894... เมฆา...
 


ป.ล. ผ้าถุงแม่ ผ้าโสร่งพ่อ ที่ท่านนุ่งประจำ แอบตัดมาพอประมาณ แล้วเลี่ยมกรอบห้อยคอไว้
         นี่แหล่ะคือของขลังที่วิเศษที่สุดเพราะอุดมไปด้วย ความรัก ความห่วงใย ความปราถนาดี ความเมตตา กรุณาต่อลูก
         ป้องกันภัยได้วิเศษนัก เป็นความเชื่อของท้องถิ่นแถวบ้านเมฆาครับป้ากุล.....
 
 

ขอบคุณหลายเด๊อ..น้องเมฆา..ความกตัญญูโดยการกระทำใดตามความเชื่อของทุกถิ่น ล้วนแล้วแต่สร้างสรรค์ดีงามค่ะ..ตอนนี้น้องหลับต่อ..น่าสงสาร..ซึม..ไม่ป่วนเลย..


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 14 สิงหาคม 2010, 11:54:AM
เมื่อฤกษ์งามยามดีมีเวลา
ก็อยากมาว่ากลอนป้อนบอร์ดวิ่ง
ต่อกันมันส์ปันใจที่ใสจริง
รอบรายยิ่งมิตรกลอนต่างอ้อนกัน (๙๐๐)

มาส่งแรงใจให้ใครหลายคน
ที่เข้ากลด้นกลอนป้อนความฝัน
ใครขยันหมั่นสู้อยู่ทุกวัน
สำเร็จพลันสมใจในคนดี(๙๐๑)


 emo_116


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 14 สิงหาคม 2010, 11:58:AM
902.โยงคำหยาดบาดใจใส่จริต
ล้อมลิขิตขีดคำนำศักดิ์ศรี
วงเวิ้งฝันบันไดในวลี
ขับวิธีเชิงกลอนไม่ทอนทิ้ง

903.ในค่ำคืนฟ้าปิดสนิทหนอ
อันโอบห่อด้วยฝนใช้มนต์สิง
ฝนสาดซ่านิทราไซร้ไม่ไหวติง
หลับแน่นิ่งในธารกาลเวียนวน

904.ฝนยังพรำย่ำฟ้าอุษาสาง
ปิดอำพรางสีแสงแห่งเวหน
ลุเวลาฟ้าฝั่งยังมืดมน
เพียงเพราะฝนบนฟ้ามาบดบัง

905.แดดเช้าหายสายฝนยังหล่นเรื่อย
ลมพัดเอื่อยเอื่อยโอนคล้ายโยนหยั่ง
ถามฝนฉ่ำน้ำชุ่มหนอพอหรือยัง
จะประดังถั่งแดนดินสิ้นเมื่อใด

906.ขอโอกาสแสงทิพย์ระยิบฟ้า
สักชั่วคราคราวครั้งจะฟังไหม
หรือจะหลั่งหล่นทั่วรั่วต่อไป
ตามแต่ใจฝนสายจะหมายจินต์


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: อัศจรรย์จิต ที่ 14 สิงหาคม 2010, 01:41:PM
(907)ใกล้สำนวนสุดท้ายจุดหมายแล้ว
มาวัดแววใครไวในสร้อยศิลป์
คล้ายประชันขันแข่งแต่งคำริน
งามระบิลยินศัพท์ลับคมกัน

(908)อำนวยเนื้อเชื้อกลอนชอ้อนออด
เร่งรีบหยอดคำหวานลานสร้อยสรร
ครบกำหนดที่หมายร่ายครบพัน
ครบอนันต์พันค่าภาษากลอน

(909)จบกระบวนชวนฝันอันวิเศษ
ตรงตามเจตนาพาอักษร
ผ่านเรียงร่ายสายฝันพันอาภรณ์
งามสะท้อนวิจิตรค่าอักษราเรียง

(910)อร่ามล้นค้นฝันถึงขั้นนี้
เร่งวลีงามสมเสนาะเสียง
ส่งกลอนหยุดสุดท้ายหมายคู่เคียง
ให้เปรื่องปรี้ยงเยี่ยงยินถึงถิ่นดาว


[


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: อัศจรรย์จิต ที่ 14 สิงหาคม 2010, 02:08:PM
911.โอ้ตาเถรเป็นไปอย่างไรนี่
โดนท่านพี่หลอกอำมาพร่ำกล่าว
บอกเลขกลอนสุดท้ายบอกร่ายยาว
ครบเรื่องราวพี่ฉันนั้นทำอาย

912.มาช่วยเรียงเขียนข้อต่อให้ซ้ำ
มิน่าขำข้างตัวหัวเราะหงาย
ท้องไส้ขดบทสรรน่าขันตาย
โถพี่ชายของฉันมาลั่นกลอง


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 14 สิงหาคม 2010, 02:27:PM
    ๐.. เป็นเสน่ห์  อย่างยิ่ง น้องหญิงเอ๋ย
  ทำพี่เอ่ย ฮากลิ้ง วิ่งฮาก้อง
  อ่านซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า หลายคราวตรอง
  แล้วนึกมอง นับเรียง ฮาเปรี้ยงนำ....913..
      ๐..ท่านพี่นก ก็ช่างขำ อำไปได้
  ทำเมฆา ตาลาย หมายทวนซ้ำ
  เก้าร้อยเก้า แล้วเหมาไกล ไปพันคำ
  ก็เลยขำ หายง่วง ร่วงตกเตียง...914...
     ๐.. เป็นความสุข สนุกสนาน บ้านกลอนศิลป์
  ต่างร่วมริน กลิ่นกลอน อักษรเสียง
  คัดลายมือ สื่อลายใจ ใส่สำเนียง
  อย่าอายเอียง เข้ามาต่อ จ่อกันไป.....915...


  emo_101 emo_101 emo_68 emo_100 emo_85

      ***เมฆา...***


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 14 สิงหาคม 2010, 02:29:PM
(http://image.dek-d.com/21/2023724/100494410)
"สานฝัน พันบท"
บนหนทางพันบทที่ขับขาน
เป็นตำนานบ้านกลอนที่แสนไกล
เหล่าน้องพี่ชื่นชมสุกสกาว
เป็นดวงดางแห่งฝันชาวบ้านกลอน (๙๑๖))

โค้งสุดท้ายพันบทไม่ห่างไกล
รวมดวงใจขับขานต่อบทกลอน
ตั้งแต่หนึ่งถึงพันเหล่าอรชร
แทบทุกตอนบทกลอนซึ้งตรึงใจ(๙๑๗)
---พลังศรัทธา---
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_008.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 14 สิงหาคม 2010, 02:35:PM


ฮัศจรรจิต  คิดไม่ตก น้องคนงาม
พี่ลามปราม อำน้อง ใจหวั่นไหว
เล่นอำกัน น้องเค้าเขิน ละลายใจ
ทำกันได้ นะพี่ สุวิจักขณ์(918)

พระอาทิตย์อัสดง

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_001.jpg)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 14 สิงหาคม 2010, 02:43:PM
แสนดีใจคิดว่าถึงหนึ่งพัน
จิตอัศจรรย์พาพี่หายง่วงนอน
เก้าร้อยเก้าไปพันอรชร
อ่านบทกลอนตาลายพาพี่งง(๙๑๙)
---พลังศรัทธา---
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_008.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 14 สิงหาคม 2010, 02:50:PM


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_010.gif)

ฮัศจรรจิต  คิดไม่ตก น้องคนงาม
พี่ลามปราม อำน้อง ใจหวั่นไหว
เล่นอำกัน น้องเค้าเขิน ละลายใจ
ทำกันได้ นะพี่ สุวิจักขณ์(918)
-พระอาทิตย์อัสดง-

แสนดีใจคิดว่าถึงหนึ่งพัน
จิตอัศจรรย์พาพี่หายง่วงนอน
เก้าร้อยเก้า ไปพัน อรชร
อ่านบทกลอน ตาลาย พาพี่งง(๙๑๙)
---พลังศรัทธา---

พากันแซว สาวสาว ให้หน้าตื่น
พาชื่นมื่น ขำขำ นวลอนงค์
ทำเอาจน น้องนาง ต้องไปปลง
อัสดง เข้ามา เสียบต่อแทน(920)
 -พระอาทิตย์อัสดง-

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_010.gif)





หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 14 สิงหาคม 2010, 04:28:PM
๙๒๑.ผลของการไม่ใคร่ใตร่ตรองก่อน
จะรำฟ้อนกลอนเพลงบรรเลงแผน
ต้องคิดครวญทวนไว้ใฝ่กลอนแกน
มันยากแสนเพียงใดพี่ไต่มา

๙๒๒.กว่าจะคว้าคำเคียงใช่เพียงครั้ง
ต้องเติมหวังเติมไฟใฝ่ศึกษา
ขุดค้นเพื่อต่อเพิ่มเติมวิชา
ใช่จะมาให้สอนอ้อนทุกวรรค

๙๒๓.อัศจรรย์จิตอย่าลิขิตผิดข้อ
เสียงหัวร่อลั่นบ้านเพดานหัก
ครบหนึ่งพันนั้นกลอนตอนสำลัก
ต้องตามหลักตำราว่าไปตาม

เป็นซะเอง แต่ไม่มากไม่ข้ามทีเป็นร้อยเนาะ/font]


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 14 สิงหาคม 2010, 08:21:PM
๙๒๑.ผลของการไม่ใคร่ใตร่ตรองก่อน
จะรำฟ้อนกลอนเพลงบรรเลงแผน
ต้องคิดครวญทวนไว้ใฝ่กลอนแกน
มันยากแสนเพียงใดพี่ไต่มา

๙๒๒.กว่าจะคว้าคำเคียงใช่เพียงครั้ง
ต้องเติมหวังเติมไฟใฝ่ศึกษา
ขุดค้นเพื่อต่อเพิ่มเติมวิชา
ใช่จะมาให้สอนอ้อนทุกวรรค

๙๓๓.อัศจรรย์จิตอย่าลิขิตผิดข้อ
เสียงหัวร่อลั่นบ้านเพดานหัก
ครบหนึ่งพันนั้นกลอนตอนสำลัก
ต้องตามหลักตำราว่าไปตาม

ปล.โทษฐานยืมจมูกคนอื่นหายใจ อิอิ


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_007.gif)
มาหัวเราะ อีกที อย่าว่ากัน
ว่าพี่นั้น ลงผิด เก้าสามสาม
น้องเลยมา บอกกล่าว กลัวไม่งาม
ต้องเลขตาม เก้าสองสาม เปลื่ยนให้ที(924)
+พระอาทิตย์อัสดง+
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_007.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 14 สิงหาคม 2010, 08:45:PM
(http://widget.sanook.com/static_content/full/graphic/cf9bcf0036eaebd4a9a6f065e6a9b5db_1205466700.gif)



(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_024.gif)

มาหัวเราะ อีกที อย่าว่ากัน
ว่าพี่นั้น ลงผิด เก้าสามสาม
น้องเลยมา บอกกล่าว กลัวไม่งาม
ต้องเลขตาม เก้าสองสาม เปลื่ยนให้ที(924)

ยังไม่เห็น แม้เงา เข้ามาดู
ใจหดหู่ รู้ไหม พ่อคนดี
อัสดง เลยลง ตามที่มี
อย่ามาตี เค้านะ ให้ใจเสีย(925)

เอ๊ะวันนี้ คนบ้านกลอน เป็นอะไร
ยังสงสัย ไม่หาย ทำไมเนี้ย
ลงเลขผิด ซ้ำซ้ำ ให้ขวัญเสีย
หรืออ่อนเพลีย อ่อนล้า อยากครบพัน(926)

ใจเย็นเย็น เพื่อนพ้อง ที่บ้านกลอน
กลับไปนอน เต็มตา พาใจฝัน
ด้วยใจรัก เป็นห่วง และผูกพัน
สองคนนั้น จูงมือ กันไปนอน(927)

+ยามพระอาทิตย์อัสดง+

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_024.gif)

ปล.วันนี้มีอารัยให้ขำขำ ที่บอกให้จูงมือกันไปนอน 2 คน น้อง อัศจรรย์จิต  กับ  พี่ สุวิจักขณ์  อิอิ  อัสดง แวะมาแซวเล่นอย่าถือสากันนะ  แต่ก็ดีค่ะ มีอารัยมาให้ลืม ความเหงาไปได้บ้าง ขอบคุณ ทั้งสองท่านเลยค่ะ จากใจ



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 14 สิงหาคม 2010, 09:33:PM
(http://new.goosiam.com/news2/admin/my_documents/my_pictures/D5A_ลูกไก่นับเลขเป็น.jpg)
"นับเลขผิด"
สุดแสนขำหัวเราะ อดไม่ไหว   
หลายตาใครหลงเลขนับผิดตอน
สองสามสามอีกไกลอย่ารีบจร
ขออ้อนวอนคอยช้ากันนิดนึง(๙๒๘)

ขำท้องแข๊งบ่ายโมงยันสองทุ่ม 
แอบหลังพุ่มพันบทสุดตราตรึง
เหล่ากวีนับเลขพาให้ทึ่ง 
เลขผิดจึงขำขันฮาทุกวัน(๙๒๙ ) 

---พลังศรัทธา---
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_008.gif)

ท่านสุวิจักขณ์ก็ตาลาย นับเลขผิดสงสัย ไม่ได้พักผ่อนกลัวไม่ถึงพันบท
ขอแซวนิดนึง เพราะตอนบ่ายน้องอัศจรรย์จิตพาพลังศรัทธาขำกลิ้ง


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 14 สิงหาคม 2010, 10:13:PM
(http://www.thaipoem.com/forever/img/storymember/2948-11022.jpg)
เสียงกระซิบแว่วมาจากสายลม
พาระทมหวั่นไหวน่าโศกสันต์
ใบไม้ไหวโอนอ่อนแปรเปลี่ยนวัน
หมดแสงจันทร์หลงไหลคืนราตรี(๙๓๐)

รุ่งอรุณทอแสงเป็นสีทอง
กลิ่นละอองไอน้ำชื่นชีวี
เหม่อมองฟ้าสดใสซึ้งฤดี
สุดเปรมปรีหลงห้วงในฤทัย(๙๓๑)
---พลังศรัทธา---
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_008.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แม่ค้าหน้าหวาน ที่ 15 สิงหาคม 2010, 12:28:AM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_023.gif)
พึ่งฟื้นไข้...เปิดคอม...มาด้อมมอง
เห็นพี่น้อง...วางอักษร...กลอนพริ้วไหว
ช่างไพเราะ...เสนาะซึ้ง...ตรึงทรวงใน
อ่านแล้วให้...อมยิ้ม...พริ้มละมัย (932)
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_023.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 15 สิงหาคม 2010, 09:50:AM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_069.gif)
มา เฉลิมฉลองโหมกลองลั่น
มา เกาะกลุ่มรุมกันทั้งไกลใกล้
มา เริงรื่นชื่นชมสมฤทัย
มา รวมใจบรรจบครบบทพัน (๙๓๓)

ร่วม เรียงร้อยถ้อยรจน์จากบทเริ่ม
ร่วม ประเดิมเสริมศิลป์ประพิณสรรค์
ร่วม นำน้อมพร้อมพจน์บทจำนรรจ์
ร่วม ประพันธ์ฉันท์พ้องป้องประพรม(๙๓๔)

เดิน เกี่ยวก้อยคล้อยเคลื่อนสองเดือนกว่า
เดิน อุตส่าห์เสกสรรปั้นประสม
เดิน เคียงคู่ครวญคร่ำพร่ำคารม
เดิน ชื่นชมเชิดชูรู้ถึงชัย(๙๓๕)

สู่ ฝั่งฝันวันใฝ่ใกล้ถึงฝัน
สู่ ความหวังวานวันไม่สั่นไหว
สู่ ความจริงแจ่มจังสมดังใจ
สู่ เส้นชัยได้ชมภิรมย์เชย(๙๓๖)

ทาง เส้นนี้พี่น้องร่วมร้องรับ
ทาง ประดับนับร้อยถ้อยเฉลย
ทาง เพริศพริ้งหญิงชายร่ายรำเพย
ทาง นี้เคยเอ่ยคำคอยคร่ำครวญ(๙๓๗)

ฝัน ไปไกลเกือบถึงซึ่งฝั่งฝัน
ฝัน รำพันรำพึงซึ้งคำสรวล
ฝัน เป็นจริงดั่งใจไม่เรรวน
ฝัน ยังหวนโหยหาคราฝันคืน(๙๓๘)
           ....แงซาย...


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_067.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 15 สิงหาคม 2010, 10:14:AM
(http://img804.imageshack.us/img804/2483/poem1111.jpg)


ลุ้นระทึก  ครึกโครม  โหมโรงใหญ่
พันบทใกล้  ดั่งหมาย  ใครชมชื่น
ไม่กี่บท  จดจาร  ขานขับกลืน
ร้อยเรียงรื่น  ชื่นฟ้า  อภิรมย์..๙๓๙

กวีเอย  เผยคำ  ลำนำหวาน
ร้อยประสาน  จารเรียง  เคียงคำสม
สู่เป้าหมาย  ใจแน่ว  แนวนิยม
ใครชื่นชม  คมคาย  หลายสำนวน..๙๔๐


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 15 สิงหาคม 2010, 11:26:AM
๙๔๑.แดดเช้าสาดวาดกลอนอ้อนคนอ่าน
ส่งถ้อยสารสื่อสอคลอกระสวน
จะแดดฝนทนเขียนเวียนสำนวน
ความแปรปรวนอากาศไม่อาจคลาย

๙๔๒.คำยังค้างสร้างสรรค์ไม่ทันครบ
ลั่นกลองรบต่อสู้สู่จุดหมาย
ถึงคำน้อยคอยค้นกระวนกระวาย
เพื่อถึงปลายหมายเป้าพะเน้าพะนอ

๙๔๓.กลิ่นกาแฟแก่ฟุ้งพุ่งกวนจิต
ลิ้นรอฤทธิ์กาแฟแก่นั่นหนอ
ช่วยกระตุ้นคุ้นเคยเคล้าเคียงคอ
เขียนกลอนต่อได้เติมเพิ่มพลัง


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 15 สิงหาคม 2010, 12:04:PM
...วางดินสอ2Bไม่ดีแน่
ต่อกลอนแก้แบบสดได้รสขลัง
กาแฟคลุ้งพุ่งเติมเพิ่มพลัง
คีย์แป้นดั่งพลุแตกมาแทรกกลอน...(944)


...แดดเริ่มแรงแสงร้อนคล้ายวอนเว้า
อยากยั่วเย้าเพื่อนพี่ตรงนี้ก่อน
กระชับใจใส่คำย้ำอาทร
ก่อนแรมรอนซ่อนร่างเหมือนอย่างเคย...(945)


...ก่อนกลอนจบครบพันฝันบรรลุ
หวังบรรจุถ้อยความรวมนามเผย
หากบอกได้ไขมาอย่าช้าเลย
วอนให้เอ่ยชื่อเรียงมาเคียงคำ...(946)


...ชื่อ"ทอฝัน"บ้านกลอนอ้อนไปทั่ว
ชื่อเล่นชัวร์คือ"ดรีม"ช่างงามขำ
เรียกชื่อไหนก็ซึ้งถึงประจำ
ที่อยากทำ...คือรู้จัก...รักทุกคน...(947)
............................//ดรีม"ทอฝัน"

<object style="height: 344px; width: 425px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/385PMzidCIg


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 15 สิงหาคม 2010, 12:13:PM

...เข้าต่อเติมเสริมฝันวันละหน่อย
มาไม่บ่อยเพราะงานการสับสน
เป็นขาจรวอนคำนำปะปน
เฝ้าตามค้นทั้งกาพย์โคลงจรรโลงกานท์..........................(๙๔๘)

...ใกล้จะถึงฝั่งรอพอพันบท
กวีจดแต่งแต้มแซมประสาน
ขาประจำนำร่องท่องกังวาน
ร่วมขับขานจารกลอนวอนถึงพัน...................................(๙๔๙)

...เสาร์อาทิตย์แวะมาพาเติมต่อ
ซึ้งคำพ้อขอแถมแกมใจฉัน
ร่ายให้ถึงตรึงแกนแทนชีวัน
สานประพันธ์วันละนิดชิดกวี......................................(๙๕๐)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 15 สิงหาคม 2010, 12:17:PM
951.ผันเสียงสู่อู่คำให้ล้ำเลิศ
พราวพริ้งเพริศผ่องแผ้วแนววิถี
ประสมสร้อยพลอยคำนำวลี
ผดุงคำนำชี้วิธีกล

952.ชื่อสร้อยเสียงเรียงไว้ให้คนเรียก
ให้พร่ำเพรียกเรียกหาอย่าฉงน
นาม"พี่นก"วิหคเหินเดินกลอนวน
หลายคนบ่นกลอนอะไรไม่ได้ความ

953.เถอะอภัยในถ้อยร้อยเรื่องผิด
พลั้งความคิดไม่เด่นพอขออย่าหยาม
ส่งกลอนเกี้ยวเกี่ยวฝัน-พยายาม
หวังอร่ามเรืองรุ่งจรุงกลอน


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 15 สิงหาคม 2010, 12:35:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_143.gif)

คุณสุวิจักขณ์ ตื่นจากฝัน ดื่มกาแฟ
ตื่นแล้วแน่ แท้หรือเนี้ย จากที่นอน
มาแซวพี่ ว่ากลับ ไปดูกลอน
ที่วางวอน รอคอย พี่ไปแก้(954)

ให้อถัย ไม่ใช่ เป็นเรื่องใหญ่
ด้วยหัวใจ คนกลอน ไม่ผันแปร
ไม่ได้หยาม คนดี เป็นแน่แท้
อย่ายอมแพ้ นะจ๊ะ เลยพ่อคุณ(955)

+ยามพระอาทิตย์อัสดง+

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_143.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 15 สิงหาคม 2010, 12:54:PM
(http://hilight.kapook.com/imghilight1/1_1050.jpg)
"ผลบุญทาน"
ร่วมสร้างธรรมเสริมสุขนำวิถี
ทั้งชีวีสดใสแห่งผลบุญ
ทุกวันพระเข้าวัดได้เจือจุน
นำเป็นทุนกำไรแห่งชีวิต(๙๕๖)

ทั้งคำสอนพุทธะอยู่ใจตน
ชีวิตวนเวียนว่ายตามลิขิต
เมื่อละดับสังขารสงบจิต
ตามชีวิตสร้างบุญแห่งผลทาน(๙๕๗)
---พลังศรัทธา---
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_008.gif)

     


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 15 สิงหาคม 2010, 01:11:PM

"ใกล้มาทุกนาที"
กลอนพันบทยิ่งใกล้ทุกนาที 
ต่างเปรมปรีสุขสันต์คอยขับขาน
ต่างน้องพี่ตื่นเต้นใจเบิกบาน
ที่สืบสานพันบทให้ถึงฝัน(๙๕๘)

ทั้งพี่น้องรวมใจกลอนพันบท
ต่างจำจดขับขานคอยประชัน
ระยะทางใกล้มาอยู่ทุกวัน
คอยลุ้นกันพับบทสำเร็จไว(๙๕๙)
---พลังศรัทธา---
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_005.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 15 สิงหาคม 2010, 01:21:PM


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_021.gif)

ตื่นมาแล้วอัสดงมาลงกลอน
ขอเว้าวอนพี่น้องอย่าไปไหน
ด้วยใจรักผูกพันยิ่งกว่าใคร
มีเยื่อใยไม่ห่างจากบ้านกลอน (960)

พอตื่นมาก็แซวกันให้กลาด
ไปตลาดซื้อข้าวกินกันก่อน
กลับมาพักอึดใจหลับตานอน
ค่อยลงกลอนสานฝันครบพันใจ (961)


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_021.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 15 สิงหาคม 2010, 01:48:PM

(http://planet.kapook.com/files/photo/0/70433_676711863.jpg)
เห็นอาทิตย์อัศดงที่สานต่อ
นั่งจดจ่อหน้าคอมไม่ไปไหน
อยากให้ถึงพันบทสมดั่งใจ
อีกไม่ไกลนวลน้องจะถึงฝัน(๙๖๒)
หาข้าวทานหยุดพักเติมพลัง     
จะสมหวังพับบทไปด้วยกัน
ถึงอรุณทอแสงสำเร็จฝัน
พ้นคืนวันจันท์ฉายถึงพันเอย(๙๖๓)
---พลังศรัทธา---
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_005.gif)








หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 15 สิงหาคม 2010, 01:53:PM
 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)

๙๖๔ พอดีรอ ขอบทนะ
เห็นจะจะเพื่อนกลอน ออนกันเฉย
สมองช้าปัญญาตื้อฝีมือเชย
ไม่อยากเผยเอ่ยชื่อคือสายใย
 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 15 สิงหาคม 2010, 01:57:PM
    ๐..ลมเย็นเย็น เอนกาย ฟังสายฝน
ที่รินหล่น ปนลม พรมไหวไหว
หนาวก็แนบ แอบอ้อน หมอนข้างไป
ซบอุ่นไอ ผ้าห่ม ชมฝนริน....965...

   ๐..ท่องหนังสือ เตรียมสอบ ตอบโจทย์ทัก
ให้ประจักษ์ หนักแน่น เหมือนแก่นหิน
จำแน่วแน่ แท้จริง สิ่งประทิน
ความรู้สิ้น กลิ่นวิชา ตำราเรา.....966...
 
    ๐..อย่าให้หลง ดงดอน ตอนต้องตอบ
อย่าหลงขอบ กรอบขู่ ผู้ใดเขา
ตอบตามเห็น เป็นจริง สิ่งบรรเทา
แล้ว ปากคำ ของเรา จะเข้าทาง....967...

แฮะๆๆ สอบปากคำ ฮ่าๆๆๆ โทษฐานขโมยหัวใจใคร ก็ไม่รู้ อิอิๆๆ emo_121


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 15 สิงหาคม 2010, 02:07:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_129.gif)

อยากให้ครบ พันบท ใจจดจ่อ
อยากจะต่อ พันกลอน ด้วยใจบาง
อยากจะบอก หัวใจ ไม่จืดจาง
รักนำทาง ใจนี้ คงไม่เชย(968)

รีบมาจ่อ ลงต่อ จากศรัทธา
ด้วยวาจา คำคม ที่คุ้นเคย
ส่งใจมา เว้าวอน อยากเฉลย
เพราะไม่เคย ได้ใจ มาแนบครอง(969)

มาหวังต่อ อย่าให้ ครบพันใจ
หวังพี่ใกล้ เข้ามา ใฝ่ปรองดอง
แต่ไม่ทัน ที่จะ ได้ลงกลอน
พี่ลงก่อน น้องขาดใจ ไปทุกที(970)

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_129.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 15 สิงหาคม 2010, 02:16:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_007.gif)

อยากจะฝาก พี่เมฆา พ่อคนหล่อ
ก็มาต่อ ตัดหน้า น้องคนนี้
ทำน้องหงาย หน้าแตก เย็บทั้งปี
พ่อคนนี้ ชอบทำ ให้ช้ำใจ (971)

ยังมีลุง สายใย มาตั้งบท
ทำรัดทด อดสู ได้ยังไง
แต่เอาเถอะ พ่อคุณ หนูอภัย
แต่งต่อใหม่ ด้วยใจ มาเต็มดวง(972)

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_007.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 15 สิงหาคม 2010, 02:23:PM
...หงิงหงิง..งงงง...ง่อนแง่น
โลดแล่น...เริงร่า...ริกรี้
โอนอ่อน...กลอนเกลา...เข้าที
เซ้าซี้...ชี้ชวน...ควรคิด...(973)


...บ่ายบ่าย...บ้างบ่น...เบื่อเบื่อ
ยืดเยื้อ...ย้อนยอก...บอกบิด
หิวหิว...ห่างหาย...หน่ายนิด
มวลมิตร...จิตแจ้ง...แจงมา.../ทอฝัน(974)

...เก่งจังเลย"อาทิตย์..." พี่ตามไม่ทัน ฝากไว้ก่อนน้าาาา...!!! หิวข้าวแล้ววว...


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 15 สิงหาคม 2010, 02:44:PM

ตัวพลังศรัทธาใจหวั่นไหว
อีกไม่ไกลพันบทของแก้วตา
พาพี่นี้ตื่นเต้นตลอดมา
ต่างพกพาอักษรเป็นคู่ใจ(๙๗๕)

หลากหลายคำเป็นมนต์ประทับจิต
ต้องสถิตย์ในหว้งดวงฤทัย
ทั้งสำเนียงขีดเขียนช่างเสกสรรค์
ของคืนวันลุ่มหลงในบทกลอน(๙๗๖)
---พลังศรัทธา---
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_008.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 15 สิงหาคม 2010, 02:53:PM
ใกล้เข้าแล้วความฝันที่สรรสร้าง
ดูกระจ่างทางใกล้ไหวโอนอ่อน
กับพันบททดอยู่ดูทุกตอน
เร่งเร่าร้อนกลอนเผยเปรยราคา  977

เห็นบทกลอนวิ่งฉิวเป็นทิวแถว
ของนักกลอนแนวแนวแจ๋วมากหน้า
ต่างก็วักกวักมือสื่อลีลา
อย่างตั้งตาขับเขี้ยวเลี้ยวเข้าวิน 978

จะตัดหน้าพาทีมีแอบหลง
ให้งวยงงหลงทางบ้างหลงถิ่น
ยังไม่ท้อต่อกลอนเป็นร่อนบิน
ลมปราณสิ้นบิ่นลงคงไม่ยอม 979

จะเฝ้ามองคอยดูท่านผู้หาญ
ที่สำราญกานท์ร้อยคอยถนอม
จะเร่าร้อนตอนนี้คลี่พะยอม
เร่งตีฝ่าด่านล้อมป้อมหนึ่งพัน 980

ไม่สามารถต่อบ้างอย่างสันทัด
จึงขอจัดหัวใจไว้เชียร์นั่น
ขอทุกคนวิ่งไล่ให้ทันควัน
เราจึงตั้งรางวัลที่เลขดี 981

เก้าเก้าเก้าเราชอบตอบเอาไว้
หากท่านใดได้ครองต้องตัวนี้
เอาไปเลยรางวัลที่ฉันมี
สามคะแนน..กำลังดี..พลีให้กัน...อิอิ  982

 emo_108  emo_68  emo_108


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 15 สิงหาคม 2010, 03:47:PM
"สานฝันพันบท"
นั่งเชียร์ลุ้นหัวใจแทบจะวาย
ต้องเรียงรายอักษรคอยเสกสรรค์
ใกล้จะถึงพันบทให้ครบครัน   
บนหนทางปลายฝันไม่ห่างไกล(๙๘๓)

กลอนพันบทต้องจบครบวาระ
แม้ระยะหนทางที่แสนไกล
ครบพันบทสมดั่งในดวงใจ
เชื่อมเยื่ยใยผูกรักสามัคคี(๙๘๔)

รวมร้อยใจน้องพี่ชาวบ้านกลอน
ที่ขับสอน บทกลอนของกวี
กลอนพันบทเกิดก่อสร้างความดี
ต่างร่วมมีจารึกเป็นสำคัญ(๙๘๕)

ต่อจากนี้พันบทเป็นตำนาน
ที่ขับขานบ้านกลอนร่วมสานฝัน
จะเก็บชื่อจากหนึ่งจนถึงพัน
เพื่อยืนยันสานฝันบทกวี(๙๘๖)

ต่างรวมใจเหนียวแน่นดุจดั่งขอน   
คอยอาทรผูกรักสามัคคี
ลืมความทุกข์ขื่นขมสร้างไมตรี
เหล่ากวีอรชรต่างผูกพัน(๙๘๗)

หลากความคิดมากมายที่สานต่อ
ต่างเกิดก่อรวมใจคอยสร้างฝัน
ทั้งทั่วทิศถิ่นฐานคอยแบ่งปัน
อัศจรรย์ใจแท้ไม่ผิดหวัง(๙๘๘)

ทั้งลุงป้าน้าอาที่ผูกพัน
สุดตื้นตันขับขานเป็นกำลัง
ทั้งแรงใจสุดเหวี่ยงไม่สิ้นหวัง
บนความฝันมีมากดว้ยไมตรี(๙๘๙)

มาวันนี้จดจำอยู่ในใจ
หลากหลายวัยร่วมกลอนสามัคคี
ขอขอบคุณน้องพี่สุดเปรมปรี
สิ้นราตรี ผูกพัน ยังยืนยง(๙๙๐)
---พลังศรัทธา---
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_005.gif)
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ในที่สุดกลอนพันบทก็มาถึงเส้นทางสุดท้าย
ขอขอบคุณ ทุกทุกกำลังใจ ขอบคุณทุกบทกลอน ที่ร่วมกันสานฝันนี่ละคือความสามัคคีของคนบ้านกลอนไทย


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 15 สิงหาคม 2010, 03:48:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_129.gif)

อยากขอบคุณ คนแรก ที่บ้านกลอน
ที่คอยสอน อาทิตย์ อัสดง
อยากจะบอก ทุกวัน อย่างมั่นคง
ดวงสมพงษ์ ลุงปรางค์ กราบขอบคุณ(991)

คนที่สอง คงเป็น เพื่อนคนนี้
แม่ค้าพี่ หน้าหวาน มาเป็นทุน
ให้กำลัง แรงใจ ค่อยเกื้อหนุน
ชั่งเป็นบุญ มีเพื่อน ใจเกินร้อย(992)

คนที่สาม เป็นใคร ไปไม่ได้
ด้วยหัวใจ เปี่ยมพลัง มิเคยด้อย
ใจที่มี สรรคำ งามชดช้อย
แอบมาจอย ทุกวัน ด้วยศรัทธา(993)

คนที่สี่ คนนี้ ที่เคารพ
น้อมนอบนพ คือป้า กลุมาตา
อยากจะบอก สักคำ ด้วยวาจา
ป้ากลุขา หนูรัก และห่วงใย(994)

คนที่ห้า สาวสวย รวยเสน่ห์
มีความแท่ ในตัว ไม่สงสัย
ก็พี่dream คนสวย รวยน้ำใจ
ขอฝากไป กับใจ แม่คนงาม(995)

คนที่หก พี่เมฆา พ่อสุดหล่อ
ชอบมาต่อ ตัดหน้า กันเสียเนี้ย
ทำเอาเรา ไหวหวั่น เสียจนเพลีย
เกิดมาเตี้ย เราขาสั้น จะทันใคร(996)

คนที่เจ็ด พี่e-no หายไปนาน
เอ๊ะเมื่อวาน พึ่งเห็น แว๊ปไปไหน
ปล่อยให้เรา นั่งคอย บ้านกลอนไทย
โถพี่ใย ลืมน้อง ให้คอยนาน(997)

คนที่แปด พี่nara สุดน่ารัก
ชอบพี่นัก เมื่อครั้ง แต่ก่อนกาล
ฝันหวานหวาน ทุกวัน เมื่อพบพาน
เป็นตำนาน ความรัก อัสดง(998)

คนที่เก้า  masapaer แรงความคิด
แนบสนิท บทกลอน ด้วยมั่นคง
แต่งพันบท ความนัย ใจซื่อตรง
มิเคยปลง ลงกลอน ไม่ถอดใจ(999)

ขอขอบคุณ เพื่อนพ้อง กันทั่วหน้า
มาหลั่นล้า เปรมปรี ทั่วพงไพร
ครบพันบท ฉลอง บ้านกลอนไทย
ด้วยน้ำใจ ด้วยรัก ด้วยไมตรี (1000)

+พระอาทิตย์อัสดง+
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_129.gif)

หมายเหตุ .  ขอโทษด้วยนะค่ะ ถ้าไม่ได้เอยชื่อใคร จริงๆ อยากจะเอาชื่อของทุกคนมาลงให้ครบ แต่คงเป็นไปไม่ได้ เพาะว่า ยามพระอาทิตย์อัสดง ไม่รู้จักหมดทุกคน แต่อยากบอกว่า รักคนบ้านกลอนไทย ที่นี่ทุกคนน่ารัก รักบ้านกลอนที่เป็นกำลังใจ ให้ฝึก ภาษาไทย ให้แข็งแรงขึ้น ขอบคุณทุกๆคน ด้วยรักจากใจ ยกให้หมดเลย

                                                                       +ยามพระอาทิตย์อัสดง+


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 15 สิงหาคม 2010, 04:34:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_011.gif)
..พระอาทิตย์อัสดงมาทรงกลด
เมื่อจบบทพันเพ่งเปล่งรัศมี
เสียงแซ่ซ้องร้องรำพร่ำวจี
ร่วมยินดีมีฝากจากแงซาย

..เสียงไชโยโห่ร้องก้องสนั่น
เมื่อบทพันเพียรถึงซึ่งจุดหมาย
หกสิบศิลป์สร้างสรรค์พรรณราย
สามสิบเก้าเป็นชายมาร่ายเรียง

..ร่วมกันสานกานท์กลอนถึงตอนจบ
เมื่อมาครบบทพันสนั่นเสียง
ช่างสดใสไพเราะเสาะสำเนียง
เผยเผดียงดูเด่นสมเป็นดาว

..แสงระยิบระยับประดับฟ้า
เหล่าดาราพาพร่างอยู่กลางหาว
เปล่งประกายฉายส่องมองแพรวพราว
สุกสกาวขาวใสไร้ราคี

..ประโคมคำนำเคียงเป็นเสียงครื้น
ให้เริงรื่นชื่นตามีราศี
ผูกสัมพันธ์ฉันท์สนิทมิตรกวี
ยกความดีให้"ทอฝัน"ผู้สรรค์กานท์..ฯ
            ...แงซาย...


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_071.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 15 สิงหาคม 2010, 04:35:PM
ผ่านมาอ่านกลอนกานท์ครบพันแล้ว
งามเพริศแพร้วแพรวพจน์สนุกสนาน
หนึ่งบทน้อยร้อยมาร่วมเคียงกานท์
สดุดีทุกท่านท่ามพันกลอน



 emo_100 เย... ดีใจด้วยค่ะ  ครบพันแล้ว


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 15 สิงหาคม 2010, 04:38:PM
ไชโย.....................พันบทครบแล้วร่วมฉลองชัยชนะแห่งความเพียร
และความสามัคคีของคนบ้านกลอนไทย
emo_100 emo_108 emo_89 emo_89 emo_89 emo_89 emo_89 emo_89


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า(ครบแล้ววว...ไชโย!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 15 สิงหาคม 2010, 05:43:PM
...พักทานข้าวเดี๋ยวเดียวแล้วเลี้ยวกลับ
โอ!ประทับใจจริงมิ่งสมร
น้ำตาไหลใจอิ่มปริ่มคำกลอน
สื่อสะท้อนซ้อนทบครบฝันแล้ว

...ถึงเวลารุ่นใหญ่ช่วยไขแก้
ร่วมดูแลถ้วนหน้ามาเป็นแถว
เร่งจัดเจียรบรรจงให้ตรงแนว
เชิญครูแก้วศิษย์ขวัญมาสรรคำ

...เรื่องสัมผัสขัดเขินเดินไม่สวย
พีเอ็มช่วยแจ้งใจให้คมขำ
ปรับเปลี่ยนปรุงเปรมปรีด์ชี้ลำนำ
ทุกถ้อยคำล้ำค่าน่านิยม

...ย้อนไปอ่านแต่เริ่มเพิ่มอรรถรส
หากมีพจน์วลีใดไม่เหมาะสม
อธิบายเอื้อกันปันคารม
เมื่อเสร็จสมสวยสรรพจึงจับโชว์...
............................................................//ทอฝัน

...ขอร้องครู พี่ๆและเพื่อนๆ ช่วยกันปรับปรุงกลอนพันบทนี้ให้สวยงามอีกครั้งนะคะ ตรงไหนที่อ่านแล้วคิดว่า ต้องแก้ไขพีเอ็มแจ้งกันได้เลยนะคะ
หรือจะโพสต์เป็นกลอนก็ได้ค่ะ ....มีความสุขจริงๆเล้ยยย!!! คนบ้านกลอนน่ารักทุกคน...นายเต็งเจ้าของกระทู้จารู้ไหมเนี่ย?????


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Kotchanan ที่ 15 สิงหาคม 2010, 07:17:PM


อ้าว......ครบแล้วเร๊อะ
ว่าจะปิดท้ายซะหน่อย ......... ฝันสลายเลย
 
  emo_29


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 15 สิงหาคม 2010, 07:24:PM


ยินดีด้วยค่ะ..หลานๆขยันมากเลย..โดยเฉพาะคนปิดท้าย"ยามพระอาทิตย์อัสดง"
.."พลังศรัทธา" อีกคน.."แงซาย"  "เจ้าทอฝัน"..และอีกหลายๆท่านที่มาแต่งร่วมกันประจำ..


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 15 สิงหาคม 2010, 07:39:PM


อ้าว......ครบแล้วเร๊อะ
ว่าจะปิดท้ายซะหน่อย ......... ฝันสลายเลย
 
  emo_29

โอ๋ๆ...อย่าร้องไปเลยจ้า เดี๋ยวรอน้องๆ พี่ๆ มาตั้งขบวนใหม่ล่ะกันนะจ๊ะ emo_47


หัวข้อ: Re: เมื่อกลอนจบครบพัน...มาร่วมร้องเพลงกันดีกว่า...!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 15 สิงหาคม 2010, 08:07:PM
<object style="height: 344px; width: 425px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/i6000hd99MI
emo_89 emo_89 emo_89 emo_89 emo_89 emo_89


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 15 สิงหาคม 2010, 08:14:PM
 emo_89 emo_89  ขอแย่งไมล์ด้วยคนครับบบบบบบฉลองชัยพันบทไปถึงฝัน


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 15 สิงหาคม 2010, 09:37:PM

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_012.gif)

ยกความดี ทั้งหมด ให้เหล่ากวี
มาเปรมปรี สุขขี เป็นสีสรร
ร่วมจิต ร่วมใจ ร่วมผูกพัน
ความฝันนั้น คงไม่ ไกลมือเรา

ขอขอบคุณ เพื่อนพ้อง อีกสักครั้ง
ไม่หยุดยั้ง ประสาน ใจพริ้มเพรา
ด้วยแรงใจ คนบ้านกลอน ทุกลำเนา
ทุกคนเฝ้า กลมเกลียว สามัคคี

+ยามพระอาทิตย์อัสดง+

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_012.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า(รายชื่อผู้ร่วมแต่งกลอนพันบท)
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 15 สิงหาคม 2010, 10:34:PM
รายชื่อผู้ร่วมสานฝันพันบท
กุลมาตา   สายไหม   สายใย   ผู้ชายใต้เงา   ฟ้ามารสุรา   ปรางค์สามยอด   ดอกกระเจียว   เกล็ดนาคา  สุวรรณ  แม่ค้าหน้าหวาน   เด็กหนุ่มไม่รู้จักโต  มารเงา  ตะวันฉาย  กริชอักษร  ใบลาน  บ้านกลอนไทย  เมฆา  ดินแล้งหมดแรงใจ  ปากะญอ  มังกรเดียวดาย  ดินทราย  นายกระจอก  หยาดน้ำฟ้า  พลังศรัทธา  ยามพระอาทิตย์อัสดง  ไหมไทย  คนไร้ค่า  แงซาย  นันท์  แมวเมียว  จะเด็ด  ลมหวนหวนลม 
สุวิจักขณ์  บอมซองดุ๊ก  อัศจรรย์จิต  เซียนสุรา  มหาซังพิกุลแก้ว  εїзฌลาεїз   tingtong   boomarang
 e-no  mysmile  dream  nasmok   N   Monnangrum  masapaer   chaipan 1999    yutter    kongkaab   Webmaster   knight_95    Win_lovesoi   tanapok   kaya   nara   blackbear   khandoendin   jkrr   Nop

ปล. ขอขอบคุณ ทุกท่านที่มาช่วยกันสานฝัน รวมพลังกัน เห็นถึงความสามัคคี  และ ที่จะขาดไปมิได้ คนที่คอยให้กำลังใจ กับการ ยกมือให้และให้คะแนน  อยากฝากยินดีกับเจ้าของกระทู้ ตัวคงลอย เลยน้องเรา  และท้ายสุดนี้ ขอบคุณที่บ้านกลอนไทย ที่น่ารัก จะอยู่ดูแลกันตลอดไป ฝากเนื้อ ฝากตัว และฝากใจ 

                                                                +ยามพระอาทิตย์อัสดง+

                                                                    15  สิงหาคม  2010



หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 15 สิงหาคม 2010, 11:18:PM
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_129.gif[/url])

อยากขอบคุณ คนแรก ที่บ้านกลอน
ที่คอยสอน อาทิตย์ อัสดง
อยากจะบอก ทุกวัน อย่างมั่นคง
ดวงสมพงษ์ ลุงปรางค์ กราบขอบคุณ(991)

คนที่สอง คงเป็น เพื่อนคนนี้
แม่ค้าพี่ หน้าหวาน มาเป็นทุน
ให้กำลัง แรงใจ ค่อยเกื้อหนุน
ชั่งเป็นบุญ มีเพื่อน ใจเกินร้อย(992)

คนที่สาม เป็นใคร ไปไม่ได้
ด้วยหัวใจ เปี่ยมพลัง มิเคยด้อย
ใจที่มี สรรคำ งามชดช้อย
แอบมาจอย ทุกวัน ด้วยศรัทธา(993)

คนที่สี่ คนนี้ ที่เคารพ
น้อมนอบนพ คือป้า กลุมาตา
อยากจะบอก สักคำ ด้วยวาจา
ป้ากลุขา หนูรัก และห่วงใย(994)

คนที่ห้า สาวสวย รวยเสน่ห์
มีความแท่ ในตัว ไม่สงสัย
ก็พี่dream คนสวย รวยน้ำใจ
ขอฝากไป กับใจ แม่คนงาม(995)

คนที่หก พี่เมฆา พ่อสุดหล่อ
ชอบมาต่อ ตัดหน้า กันเสียเนี้ย
ทำเอาเรา ไหวหวั่น เสียจนเพลีย
เกิดมาเตี้ย เราขาสั้น จะทันใคร(996)

คนที่เจ็ด พี่e-no หายไปนาน
เอ๊ะเมื่อวาน พึ่งเห็น แว๊ปไปไหน
ปล่อยให้เรา นั่งคอย บ้านกลอนไทย
โถพี่ใย ลืมน้อง ให้คอยนาน(997)

คนที่แปด พี่nara สุดน่ารัก
ชอบพี่นัก เมื่อครั้ง แต่ก่อนกาล
ฝันหวานหวาน ทุกวัน เมื่อพบพาน
เป็นตำนาน ความรัก อัสดง(998)

คนที่เก้า  masapaer แรงความคิด
แนบสนิท บทกลอน ด้วยมั่นคง
แต่งพันบท ความนัย ใจซื่อตรง
มิเคยปลง ลงกลอน ไม่ถอดใจ(999)

ขอขอบคุณ เพื่อนพ้อง กันทั่วหน้า
มาหลั่นล้า เปรมปรี ทั่วพงไพร
ครบพันบท ฉลอง บ้านกลอนไทย
ด้วยน้ำใจ ด้วยรัก ด้วยไมตรี (1000)

+พระอาทิตย์อัสดง+
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_129.gif[/url])

หมายเหตุ .  ขอโทษด้วยนะค่ะ ถ้าไม่ได้เอยชื่อใคร จริงๆ อยากจะเอาชื่อของทุกคนมาลงให้ครบ แต่คงเป็นไปไม่ได้ เพาะว่า ยามพระอาทิตย์อัสดง ไม่รู้จักหมดทุกคน แต่อยากบอกว่า รักคนบ้านกลอนไทย ที่นี่ทุกคนน่ารัก รักบ้านกลอนที่เป็นกำลังใจ ให้ฝึก ภาษาไทย ให้แข็งแรงขึ้น ขอบคุณทุกๆคน ด้วยรักจากใจ ยกให้หมดเลย

                                                                       +ยามพระอาทิตย์อัสดง+



emo_89 emo_89 emo_89บทที่ 999  ไปแล้วคร๊าบ...+3  ตามสัญญานะคะ พระอาทิตย์อัสดง...เย้ !    emo_89 emo_89


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 15 สิงหาคม 2010, 11:31:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_007.gif)
บทที่ 999  ไปแล้วคร๊าบ...+3  ตามสัญญานะคะ พระอาทิตย์อัสดง...เย้ !   
 
ขอบคุณค่ะ ที่ทำตามสัญญา ที่ให้มา จะแบ่งให้ พลังศรัทธา ด้วย 1.5 คะแนน เป็นคะแนนรวมหัว

พลังศรัทธา ยอมลงให้ก่อน อัสดง เลยได้ลงสมใจ 10 บทหลัง  ให้ความดี แบ่งคะแนนให้คนล่ะครึ่งนะ

ขอบคุณ พี่ masapaer  ด้วยค่ะ น่ารักมาก กราบงามๆที่ตัก สักกี่ครั้งดี อิอิอิอิ อยากใกล้สาวสวย

                                                                   +ยามพระอาทิตย์อัสดง+

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_007.gif)


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 15 สิงหาคม 2010, 11:55:PM
จะเอาหมื่นบท ต่ออีกหรอ.............ยังสู้ไหวแรงใจไม่มีวันหมด เขียนชื่อเราผิดอ่า
emo_108 emo_108


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: nnn ที่ 15 สิงหาคม 2010, 11:57:PM
ฮ่าๆ

จะเอาคนละสามเลยเรอะ

ไม่สงสารคนคะแนนอนาถาเลย

เอ้าก็ได้

คนละสาม


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 15 สิงหาคม 2010, 11:58:PM
ถ้าแจกจ่ายคะแนน ให้ทุกคนที่รว่มแต่งคงจะดีนะครับ ยังงัยผมจะ emo_73เป็นคนนึงจะให้คะแนนคนที่ร่วมสานฝัน


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: nnn ที่ 16 สิงหาคม 2010, 12:04:AM
เข้าใจแล้วครับ...ต้องรอ 1 ชั่วโมงก่อนจึงจะให้ต่อได้

เที่ยงคืนกว่าแล้ว...คงไม่เกินพรุ่งนี้คลครบได้

คนอื่นๆผมก็จะให้คนละ 1 คะแนนก็แล้วกันนะครับ

ให้ซ้ำต้องรอนานแวะเวียนกระทู้ "มาแต่งกลอนให้ครบหมื่นบทถวายพ่อกันดีกว่า"ของผมด้วยนะครับ


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 16 สิงหาคม 2010, 12:06:AM
คุณครับผมกับน้องละน้องผมเขาชิงลงกลอนที่พันล่วงหน้ามาก่อนหน้านี้ไม่สงสารจัดแจงให้แคะแนน
หรอครับ อิอิ   สงสารอัศจรรย์จิตเค้านะ อุตส่าห์ลงล่วงหน้า909 แล้ว1000 อิอิ


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 16 สิงหาคม 2010, 12:09:AM
หมายถึงอย่างที่เขาบอกละครับ
คะแนนกลอนคุณไม่ถึง
ผมนึกว่าคุณไปเอาจากไหนให้ งงๆเหมือนกัน
อิอิ


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 16 สิงหาคม 2010, 12:35:AM
 emo_89
พลังศรัทธา ได้ให้คะแนนกำลังใจที่ชว่ยสานฝันพันบทให้ทุกคนละนะครับ คนละ 1คะแนน............................. emo_108 emo_108


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 16 สิงหาคม 2010, 12:40:AM

อยู่ดีๆมีคะแนนกำลังใจ
มามอบให้หลายคนจนสงสัย
ช่วยเขียนกลอนครบพันนั่นยังไง
แต่ เอ ใครให้หนอขอขอบคุณ

น่าชื่นใจน้องนุ่งแลลูกหลาน
ต่างสมานสามัคคีที่เกื้อหนุน
ช่วยลุ้นกลอนครบพันหมั่นเจือจุน
ช่างการุณเลื่องลือชื่อเรียงราย

นี่แหละหนาน้ำใจไทยทุกผู้
ร่วมกันกู้กลอนไทยให้แพร่หลาย
เยาวชนของชาติอีกมากมาย
ต่างขวนขวายเขียนกลอนอย่างกลมเกลียว

 emo_55

"ปรางค์  สามยอด"
ลุงปรางค์ดีใจกับทุกๆคนที่เข้ามาเขียนต่อกันจนครบ
ขอให้พวกเธอจงจำเริญๆเถิดนะ มีความสุขสนุกสนานกับการเขียนกลอนต่อไปเถิด เน้อ

 emo_60   emo_116   emo_95


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 16 สิงหาคม 2010, 12:43:AM
พลังศรัทธกดให้คะแนนกำลัง ทุกคนที่ร่วมสานฝันพันบทดว้ยกันครับลุงปรางค์

เมื่อยนิ้วเลย ต้องไปบริหารนิ้วมือก่อน


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 16 สิงหาคม 2010, 12:53:AM

พลังศรัทธกดให้คะแนนกำลัง ทุกคนที่ร่วมสานฝันพันบทดว้ยกันครับลุงปรางค์

เมื่อยนิ้วเลย ต้องไปบริหารนิ้วมือก่อน

พลังศรัทธาเอ๋ย.....

การกดให้คะแนนตามเจตนาของเธอนั้น เป็นสิ่งที่ดี แสดงถึงจิตใจที่งดงามของเธอ นะ

และทุกๆท่านที่กดให้คะแนนต่อกันในพันบทนี้

แต่..... ตามกฏกติกาการให้คะแนนแต่ละครั้งนั้น คนหนึ่งจะกดให้คะแนนคนอื่นๆได้ ชม.ละ 1 คะแนน เท่านั้น มิใช่หรือ?

งานนี้ต้องขอเชิญมดแดงหรือผู้ดูแลหน้านี้ มาช่วยชี้แจงให้กระจ่างด้วย เถิด นะ

ลุงปรางค์ จ้า


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 16 สิงหาคม 2010, 11:49:AM
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_007.gif[/url])
บทที่ 999  ไปแล้วคร๊าบ...+3  ตามสัญญานะคะ พระอาทิตย์อัสดง...เย้ !   
 
ขอบคุณค่ะ ที่ทำตามสัญญา ที่ให้มา จะแบ่งให้ พลังศรัทธา ด้วย 1.5 คะแนน เป็นคะแนนรวมหัว

พลังศรัทธา ยอมลงให้ก่อน อัสดง เลยได้ลงสมใจ 10 บทหลัง  ให้ความดี แบ่งคะแนนให้คนล่ะครึ่งนะ

ขอบคุณ พี่ masapaer  ด้วยค่ะ น่ารักมาก กราบงามๆที่ตัก สักกี่ครั้งดี อิอิอิอิ อยากใกล้สาวสวย

                                                                   +ยามพระอาทิตย์อัสดง+

([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_007.gif[/url])


เอ่อ.. emo_85  ดูท่าออกล่อแหลมหมิ่นเหม่ในการให้คะแนนนิด ๆ ๆ emo_19
เอาเป็นว่าจัดให้จ้ะ..พลังศรัทธาเอาไปหนึ่งน๊า...อาทิตย์สอง....ไม่เพิ่มไม่ลดกว่านี้นะจ๊ะ..ตามกติกา
หุหุ..กราบลงอกพี่สิจ๊ะ..ใกล้ชิดดี.... emo_51


หัวข้อ: Re: มาแต่งกลอนให้ครบพันบทกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Kotchanan ที่ 16 สิงหาคม 2010, 09:31:PM




แฟนคลับกลอนพันบทโปรดทราบ..................ถึงวาระปลดหมุดกระทู้นี้แล้วนะคะ   


 emo_103
โช๊ะเด๊ะๆๆ  (เสียงปลดหมุด)   
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif)