|
หัวข้อ: ท้อแท้ใจ เริ่มหัวข้อโดย: ปลายฝัน ที่ 26 พฤษภาคม 2010, 01:40:PM ทำไมถึงเป็นไปได้ขนาดนี้ ทั้งที่ก็มีรักอยู่เคียงข้าง แต่ก็ดูเหมือนคล้ายกับความอ้างว้าง เหลียวมองสุดปลายทางก็ยังก้วางไกล ********************************** ชีวิตที่หมองหม่น แต่ก็ยังสุ้ทนเพื่อวันใหม่ มองหาใครสักคนที่เข้าใจ กับชีวิตที่ไร้ใครนำพา *********************** ท้อแท้เสียเหลือเกิน ที่ต้องเผชิญกับเคราะห์กรรม คิดไปใจยิ่งช้ำ คงเป็นวรกรรมที่ทำมา ************************ ฉันเหนื่อยฉันท้อฉันรอกับความหัวง คอยเติมเสริมพลังเพื่อไม่ให้ผลาดพลั้งครั้งต่อไป อยากก้าวไกลไปอย่างคงมั่น เพื่อให้ถึงฝันวาดไว้ในฉิพชีพ หัวข้อ: Re: ท้อแท้ใจ เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 26 พฤษภาคม 2010, 04:17:PM ...คิดถึงกลอนตอนเหย้าเฝ้าต่อฝัน คิดถึงวันต่อกลอนตอนห่วงหา คิดถึงกลอนบทเก่าที่เนาพา ต่ออักษราสดใสในกลอนกานท์ ...คิดถึงกวีวินกลิ่นอักษร คิดถึงตอนออนมาพาประสาน คิดถึงพี่-พี่เราเฝ้าจดจาร คิดถึงกานท์วานลำเนาดูเข้าที ...กลอนบทเก่าที่เคยเหย้าเหมือนเงาฝัน ท้อแท้พลันไร้คนสร้างทางสุขขี คิดถึงวันเก่า-เก่าที่เรามี คืนราตรีจะหวนกลับหรือลับไกล... ...จึงเกิดความท้อแท้แพ้กลอนกาพย์ ไร้ระนาบมาทาบเคียงเรียงไฉน ไร้แรงรักปักแล้วแก้วฤทัย ท้อแท้ใจไกลกวีฤดีคอย... emo_30 emo_30 หัวข้อ: Re: ท้อแท้ใจ เริ่มหัวข้อโดย: จ้อง เจรียงคำ ที่ 26 พฤษภาคม 2010, 05:00:PM หนึ่งแนวร่วมความเหงาเฝ้าคิดถึง บทกลอนซึ่งซึ้งรสพลันถดถอย เคยร่วมวงก๊งกัน..พลันแตกรอย เคยร่วมซอย..ปากแมว..พูดแซวกัน คึดถึงความครื้นเครง..วังเวงนัก คิดถึงน้อง..พ้องพัก..ใจชักหวั่น คิดถึงใคร..คนเก่า..เหงาเงียบงัน หวังสักวัน..วกกลับ..มาขับกลอน หัวข้อ: Re: ท้อแท้ใจ เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 26 พฤษภาคม 2010, 05:27:PM ๐คิดถึงด้วย ช่วยกัน ลั่นคิดถึง กลอนซึ้งๆ หยอกเย้า ชอบเล่าขาน หายไปไหน หรือหลง วงวันวาน คนที่บ้าน อ่านกลอน นั่งนอนคอย ๐ตำนานเทพ พฤทธิ์ ลิขิตเขียน คำอ้อนเนียน เขียนคล้อง จองคำร้อย กลอนออเซาะ ฉอเลาะ เสนาะกลอย สัมผัสถ้อย ร้อยเรียง เสียงกลอนไทย ๐เพียงได้อ่าน กานท์กวี เป็นศรีสุข ต่อกลอนรุก บุกรับ เข้าจับใส่ เป็นกลอนร้อย รวมมิตร สะกิดใจ สานสุขได้ ในคำ ลำนำกลอน........ ***เมฆา...*** หัวข้อ: Re: ท้อแท้ใจ เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 26 พฤษภาคม 2010, 07:01:PM มิตรภาพ..ซาบซึ้ง..ตรึงดวงจิต
หมู่มวลมิตร..จิตร้อย..ถ้อยอักษร ต่อกลอนกานท์..ขานขับ..รับอิงอร ดั่งพรหมพร..บ้านกลอนไทย..ซึ้งไมตรี หัวข้อ: Re: ท้อแท้ใจ เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 26 พฤษภาคม 2010, 08:35:PM (http://www.klonthaiclub.com/pic/fell_006.jpg) (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_125.gif) ...บาดอารมณ์...ขมใน...ใจพิลึก (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_126.gif)ห้วงสำนึก...แน่นนัก...รักศักดิ์ศรี มันรื้นล้น...ท้นไหล...มาหลายที เพ-ลาที่...มีบางคน...มาค้นทวน ................................................... ...ต่อกลอนไป...มิได้หมาย...ชิงชัยเด่น หวังประเด็น...คือไมตรี...ที่กลับหวล อาจไม่งาม...ถ้อยคำ...ล้ำรัญจวน แต่ต่างล้วน...เลอค่า...ภาษาใจ ................................................... ...อยู่ที่ไหน...กันหนอ...ยังรออยู่ เคยขับคู่...ควบกลอน...อ้อนความหมาย เคยโอบเอื้อ...เกื้อหนุน...ละมุนละไม แนะทางให้...ไขแก้...ดูแลกัน .................................................. ....สัมผัสใจ...ศิลปิน...กวินแท้ ย่อมรู้แน่...แลกระจ่าง...ทางสร้างสรรค์ อักษรา...พาน้ำใจ...ไหลรวมกัน มิอาจกั้น...ด้วยระบบ...ทำนบใด... ..........................//ทอฝัน หัวข้อ: Re: ท้อแท้ใจ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 26 พฤษภาคม 2010, 09:02:PM (http://www.klonthaiclub.com/pic/fell_014.gif) ดูนกน้อยเฝ้ารังทั้งคิดนึก ให้รู้สึกแตกต่างทางวิถี เป็นอย่างเราเข้ามั่งหรอกทั้งปี มีเสรีมีปีกย่อมคิดบิน ไปในโลกแห่งหวังอย่างใจหมาย ความเดียวดายไม่หวั่นพรั่นถวิล เที่ยวทั่วรอบเขตุแคว้นแห่งแผ่นดิน ด้วยแรงบินแรงพลังที่ตั้งใจ แต่นกนั่นพลันหยุดอยู่กับที่ ความเสรีลดน้อยคอยหวงไข่ มันวนเวียนห่วงหาเฝ้าอาลัย จะเป็นด้วยเหตุใดใครอาจรู้ นกมีไข่..แต่เราไม่มีปีก สุดจะหลีกลำเนาจึงเฝ้าอยู่ ดูนกน้อยหวงรังอย่างชื่นชู อย่างไม่รู้การพลัดพรากการจากลา (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) หัวข้อ: Re: ท้อแท้ใจ เริ่มหัวข้อโดย: สายไหม ที่ 01 มิถุนายน 2010, 07:38:PM เป็นดั่งนก ปีกหัก ไร้หลักจับ
ตะวันลับ ลมหลอน จะนอนไหน แหงนมองฟ้า ถามดาว ก็เศร้าใจ ยามนี้ไร้ สำเนียง เสียงเคยชิน เคยคิดถึง ทุกคราว เมื่อเราห่าง ใยอ้างว้าง ดั่งนก ที่ผกผิน หนาวเจ้าเอ๋ย หนาวใจ ที่ไม่ชิน เมื่อรักสิ้น พลัดพราก หนีจากกัน ขอเพียงหลัก สักครั้ง ให้รั้งติด ให้ได้คิด พักฝื้น ตื่นจากฝัน บอกคิดถึง ได้ไหม มอบให้กัน เพียงครั้งเดียว เท่านั้น ก่อนฉันไป ******************************************** ไม่คิดถึง กันแล้วเหรออ ทำไมไม่ตอบเลย ขอแค่ครั้งเดียวก็ได้ ตอบผมหน่อย ว่ายังคิดถึงกัน หัวข้อ: Re: ท้อแท้ใจ เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 01 มิถุนายน 2010, 08:22:PM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_011.gif) ...ยินคำวอน...อ้อนละไม...ของใครหนึ่ง (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_010.gif)เขียนกลอนซึ้ง...ส่งใจจริง...ถึงหญิงไหน หวานและเศร้า...เหงาล้น...ระคนไป คิดถึงใคร...อยู่หนอ...รอต่อกลอน ......................................... ...เขาไม่มา...วันนี้...ยังมีเพื่อน ไม่ลี้เลือน...ยังยั่วเย้า...เฝ้าหลอกหลอน อีกมากมาย...หลายคน...บนบ้านกลอน ต่างออดอ้อน...ออนมา...เฮฮากัน ......................................... ...ฝากถึงคน...ชื่อสายใหม...รสนุ่มหวาน ส่งกลอนกานท์...วาจา...มาปลอบขวัญ คนบ้านนี้...เขาคิดถึง...ทุกครึ่งวัน อ่านกลอนกัน...แล้วต่อด้วย...ช่วยกันดัน(กระทู้) ..............................//ทอฝันค่ะ หัวข้อ: Re: ท้อแท้ใจ เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 01 มิถุนายน 2010, 08:53:PM ถ้าอย่างนั้นสายใย ดันให้ก่อน
เกิดบ้านกลอน วอนด้วย มาฃ่วยฝัน ถึงจะเหงาเขาไม่สนคนคุ้นกัน แต่ใจฉัน มันว่า ขอบ้ากลอน หัวข้อ: Re: ท้อแท้ใจ เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 02 มิถุนายน 2010, 09:06:AM ...จากสายไหม...สู่สายใย...ชายคนหนึ่ง เราเคยทึ่ง...แอบปลื้ม...จนลืมถอน อรรถรส...บทคำ...ลำนำกลอน คล้ายอิงอ้อน...ซ่อนกล...ไว้บนกานท์ ............................................ ...รูปพรรณ...สัญฐาน...ท่านเหลาหล่อ มิได้ยอ...เกินไป...ใช่ไหมนั่น คนบางนี้...เขารู้...อยู่ทั่วกัน คนชอบดัน...แสนดี...พี่สายใย ............................................ ...ด้วยเคารพ...ศรัทธา...มาแต่ต้น ติดตามยล...ผลงาน...ท่านขานไข อีกซาบซึ้ง...ไมตรี...มีน้ำใจ เทิดท่านไว้...เป็นครู...คู่บ้านกลอน... .........................//ทอฝัน...ด้วยความเคารพค่ะ หัวข้อ: Re: ท้อแท้ใจ เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 02 มิถุนายน 2010, 09:53:AM (http://img532.imageshack.us/img532/7145/769awaytostayfriendsfor.jpg) ท้อแท้ใจ..ใครเล่า..เขาล่วงรู้ น้ำตาพรู..พรั่งริน..ไม่สิ้นสาย อุปสรรค..ขวากหนาม..ท่วมท่ามกาย ใจสลาย..มลายสิ้น..ทั้งอินทรีย์ . ท้อแท้ใจ..ใครเลย..จะเผยจิต กัลยาณมิตร..ชิดช่วยชี้ คอยห่วงหา..อาดูร..พูนไมตรี ให้ใจนี้..มีน้ำใส..ไล้ชโลม หัวข้อ: Re: ท้อแท้ใจ เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 02 มิถุนายน 2010, 06:16:PM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif) ...บนทางเดิน...อันยาวไกล...หากใจท้อ (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif)พายุก่อ...รอระบัด...จึงพัดโหม ไฟอารมณ์...ตรมทุกข์...เริ่มลุกโลม กายจิตโทรม...โทมมนัส...รุมรัดใจ .............................................. ...คือกำแพง...แกร่งกร้าน...ต้านพายุ ไฟประทุ...ดับลง...ตรงน้ำใส ประโลมกาย...มลายทุกข์...ปลุกฤทัย คือน้ำใจ...มิตรแท้...ให้แก่กัน .............................................. ...มั่นใจเถิด...ตรงนี้...มีคนรัก คอยทายทัก...อักษรา...พาสรวลสรรค์ ห่างไกลตัว...หัวใจ...เราใกล้กัน สื่อสัมพันธ์...สรรสร้าง...ไม่ร้างไกล .............................................. ...เรียงร้อยความ...ห่วงใย...ไปสู่มิตร ร่ายลิขิต...คำกลอน...อ้อนความหมาย หวังบรรเทา...ทุกข์ร้อน...ให้ผ่อนคลาย หลอมหัวใจ...มวลมิตร...ศิษย์บ้านกลอน... ...........................//ทอฝัน |