|
หัวข้อ: กลอนสุภาษิต ลองอ่านดู ติชมกันได้ครับ อยากรู้จริงๆ เริ่มหัวข้อโดย: ศรีนวล ที่ 17 พฤษภาคม 2010, 04:30:PM มือ ก็ทำแต่ชั่วให้มัวหมอง
ถือสาก ครองเอาไว้ใครจะเห็น ปาก กลับพูดว่าตัวฉันนั้นดีเด่น ถือศีล เป็นกิจวัตรหัดประจำ ช.โชคชัย อันนินทากาเลเหมือนเทกรวด มันจะปวดเจ็บเพียงใดเมื่อไร้หิน ใครนินทาอย่าสนใจทำไม่ยิน เดี๋ยวสักวันมันก็สิ้นเรื่องนินทา ช.โชคชัย น้ำ ไหลนิ่งอย่าไปไว้ใจนัก นิ่ง สักพักเขาไม่รู้การเคลื่อนไหว ไหล เอื่อยเอื่อยให้ลงปลงตายใจ ลึก ลงไปใครจะรู้ว่าน้ำแรง ช.โชคชัย รักดี หมั่นขยันเรียนเพียรศึกษา ห่ามจั่ว หน้าไม่เหนื่อยหนักจักสุขสม รักชั่ว คร้านไม่เอางานพาลตรอมตรม ห่ามเสา หนักทับถมจนวันตาย ช.โชคชัย ใจ ของคนมากมายหลายรูปแบบ คน ใจแคบใจดีมีทุกหน ยากแท้ นักจะซึ้งถึงกมล หยั่งถึง คนควรคิดพินิจดู ช.โชคชัย น้ำ เมื่อท่วมเอ่อล้นคนไม่เห็น ลด ลงแล้วจึงเด่นเห็นความหลัง ตอ แหลมคมเปรียบความผิดที่ปิดบัง ผุด ความชั่วที่ฝังหยั่งมานาน ช.โชคชัย แกว่ง เท้าไปไม่ดูให้รอบครอบ เท้า จึงบอบช้ำเจ็บเหน็บปัญหา หา แต่เรื่องให้ตัวต้องหมองกายา เสี้ยน นั้นหนาเจ็บนักเมื่อปักตีน ช.โชคชัย ปิด ทองพระที่คนเห็นให้เต็มที่ ทอง คงมีแต่ข้างหน้าพาให้หมอง หลัง องค์พระปฏิมาไม่ทาทอง พระ จะงามสมค่าครองอย่างไรกัน ช.โชคชัย ต่อหน้าทำนอบน้อมถ่อมกายา ให้เขาเชื่อเขาเมตตาพาหลงใหล เมื่อลับหลังนินทาเขาต่อใครใคร พวกนี้ไซร้ลิงหลอกเจ้าอย่าเข้าเชย ช.โชคชัย หัวข้อ: Re: กลอนสุภาษิต ลองอ่านดู ติชมกันได้ครับ อยากรู้จริงๆ เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 17 พฤษภาคม 2010, 04:47:PM สุภาษิตข้อคิดดีมีมานาน [/color][/size][/font]โบราณกาลท่านสอนสั่งวางเปรยเปรียบ อักษรสานวรรณกรรมทำทำเนียบ เป็นคำคมสมที่เปรียบเทียบให้คิด |