หัวข้อ: ~*~ สองฝั่งฟ้า ๒ ~*~ เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 05 พฤษภาคม 2010, 06:37:PM (http://i106.piczo.com/view/2/l/c/d/h/v/5/c/h/5/a/1/img/i163144323_75604_3.gif) (http://www.weekendhobby.com/offroad/pajero/picture%5C2710254811463.jpg) (http://i106.piczo.com/view/2/l/c/d/h/v/5/c/h/5/a/1/img/i163144323_75604_3.gif) (http://www.uppic666.com/images/vaj8k9pq03hyawg3eou9.gif) เมื่ออาลัยอาวรณ์เผยตอนแล้ว ฤๅจักแคล้วคลาดสิ้นถวิล, หวาน โอ้อกใจใยหนอทรมาน ดังปลิดปราณผลาญพร่าชีวาวาย แว่วดนตรีบรรเลงเพลงแผ่วพลิ้ว ก็คล้ายปลิดใจปลิวลิ่วลอยหาย ท่วงทำนองอ้อนเอื้อนเหมือนบรรยาย- บอกความหมายชายหนึ่งคำนึงครวญ ช่างอ่อนหวานรินไหลไหวระรื่น ปลุกเต้นตื่นอาวรณ์จนย้อนหวน ผ่านสายลมคลอเคล้ามาเย้ายวน ย้ำกำสรวลทรวงถวิล..จากถิ่นไกล รับรู้ถ้วนปรารถนาในท่าที ราววาดวีทรวงขวัญจนหวั่นไหว รับรู้ความเสน่หาและอาลัย ที่ลามไหลเอ่อท้นออกล้นทรวง หรือหมายรั้งอีกทรวงให้พ่วงถึง จึงโอนซึ้งซ่านอยู่อย่างรู้หวง ทั้งถ้อยพากย์ฝากย้ำร่ายบำบวง วอนถึงสรวง..ปวงนัยที่ใจปอง ฤๅอาจห้ามอาวรณ์แสนอ่อนหวาน รอแต่กาลเคลื่อนภพประสบ, สอง- ดวงฤทัยล่วงล้ำได้จำจอง ให้ผูกคล้องรัดล่ามเอาตามใจ กี่วัฏฏะสงสารจะพานพบ ได้ครันครบรูปนามตามสมัย กี่คืนวันผันเปลี่ยนหมุนเวียนไป จึงอาจพ่วงสายใยด้วยนัยเดียว ต่างครวญคร่ำถ้อยขานผ่านผืนฟ้า พรรณนา..ด้วยเศร้าปนเปล่าเปลี่ยว นานเท่าไรรอยฝันได้พันเกลียว เข้าโน้มเหนี่ยวผูกคล้องสองดวงมาน ถวิลดั่งลอยคว้างกลางหาวห้วง ยากเหนี่ยวหน่วงเลื่อนพ้องคล้องผสาน อยู่แต่ปวด เปื้อนป่นจนแหลกลาญ สูญสิ้นลับดับปราณเพียงผ่านคล้อย ขอตั้งจิตพิษฐานผ่านร่ายพจน์ บริบทจำหลักอักษรสร้อย กี่ภพชาติพลาดแล้วไม่แคล้วคอย ขอสบรอยดังถวิลจินตนา รอเพื่อถึงฝั่งฝันสิ้นคั่นเขต รวมนิเวศน์ร่วมหน อยู่บนหล้า หวังบุญเก่าเกื้อค้ำช่วยนำพา สมดังความปรารถนา..ร่วมฟ้าเดียว! (http://www.uppic666.com/images/vaj8k9pq03hyawg3eou9.gif) หัวข้อ: Re: ~*~ สองฝั่งฟ้า ๒ ~*~ เริ่มหัวข้อโดย: จะไม่เด็ด ที่ 05 พฤษภาคม 2010, 07:02:PM ช่างเหลือคำสาธยายรอบรายเขต แม้นิเวศน์ยังห่างไกลสุดใจเฉลียว พบคราหนึ่งยังซึ้งอยู่..แต่ผู้เดียว ความกลมเกลียวส่งผ่าน..ม่านประเพณี ที่ฝั่งฟ้าคราก่อนย้อนไปพบ ได้ประสบเนื้อเย็นเป็นสักขี ทอดสายตามาพบ...ก็สบฤดี ใจเหลือที่..จะสเน่หามิลาเลือน..อิอิ ....แบบว่า...มาแจมอะ หัวข้อ: Re: ~*~ สองฝั่งฟ้า ๒ ~*~ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 05 พฤษภาคม 2010, 07:58:PM โลกนี้กว้างทางไกลแม้ไหวหวั่น ยากฝ่าฟันต่อไปเมื่อไร้เพื่อน ในผิดถูกทุกสิ่งคอยติงเตือน ฟ้าดาวเกลื่อนอาจเปลี่ยวและเดียวดาย อันอารมณ์ข่มไว้ข้างในเถิด เมื่อมันเกิดมาความดีนี้ห่างหาย เอาเหตุผลค้นไขว่ไปทำลาย ซุกซ่อยอายเพราะเสียใจทำไมกัน เมื่อปัญหาเกิดมีแล้วหนีห่าง ยังแต่สร้างเสริมส่งให้คงผัน หากไม่แก้แพ้พ่ายเสียดายกัน เจ็บนั้นพลันมากมายกลายทวี ฟ้ากว้างไกลไยแคบแอบแอบคิด เมื่อมีมิตรมากมายแล้วหน่ายหนี ยิ้มรักนั้นมีค่าความปรานี กว่าความดีเย้ยหยันนั้นเข้าใจ |