หัวข้อ: ประชาสัมพันธ์ รางวัลพานแว่นฟ้า เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 21 เมษายน 2010, 03:27:PM เรียนทุกท่าน สมาชิกบ้านกลอนไทยที่เคารพ....
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับ สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ขอเชิญส่งเรื่องสั้นและบทกวีการเมือง ชิงรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี ๒๕๕๓ ตั้งแต่บัดนี้ ถึง วันที่ 30 เมษายน 2553 สนใจดูรายละเอียดได้ที่ http://www.parliament.go.th/parcy/division/panvanfar_index.php (http://www.parliament.go.th/parcy/division/panvanfar_index.php) นับถือยิ่ง ศรีอุดร 21เมษายน53 ปล.ขออภัยที่มาบอกช้าเพราะข้าพเจ้าเองก็พึ่งทราบมาวันนี้เองครับ. หัวข้อ: Re: ประชาสัมพันธ์ รางวัลพานแว่นฟ้า เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 21 เมษายน 2010, 03:43:PM ตัวอย่างสำนวนผู้ที่ได้รางวัล...
ขอขอบคุณทาง http://gotoknow.org/blog/100poem/288252 (http://gotoknow.org/blog/100poem/288252) และhttp://www.thaipoet.net/index.phplay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=thaipoetnet&thispage=22&No=360380 ตามลำดับ บทกวีรางวัลพานแว่นฟ้าชนะเลิศปี ๒๕๕๒ กระดาษแผ่นดิน ณ ที่นี้สุขดีกว่าที่ไหน ประชาธิปไตยเบ่งบานเต็มลานฝัน ไม่สร้างกฎกติกาให้ฆ่ากัน ไม่ขีดคั่นพื้นที่ด้วยสีใด เจ้าปกครองเขตแดนแผ่นกระดาษ ตวัดวาด....เส้นสื่อ....แสนซื่อใส ความตั้งใจจานเจือจากเนื้อใจ ปาดเหงื่อไคลจนแก้มน้อยเปื้อนรอยดำ บอก พ่อจ๋า ดูซิ...นี่ภาพหนู ยกรูปชู...แย้มยิ้ม อย่างอิ่มหนำ ตามองเพ่ง สักพัก แล้วพึมพำ กลั่นน้ำคำหยาดเยาว์เล่าเรื่องราว ว่า ตรงนี้หนูวาดราษฎร พานแว่นฟ้าคืออาภรณ์ผ่อนร้อนหนาว หน้าทุกหน้าอาบยิ้มอิ่มนานยาว ใต้ดวงดาวสันติภาพทาบแสงทอ ไม่ลงสี หนูคงไม่ลงสี ไม่อยากมี เหลือง แดง แบ่งแม่พ่อ เช่นร้อยพันอันธพาลผ่านหน้าจอ บ้างหลอกล่อบ้างก่นด่าไม่น่าฟัง เขาคงมีภาพวาดกระดาษเขา หลอมรูปเงาร้ายร้ายระบายหวัง เขาคงขีดสงครามความเกลียดชัง สงสารจัง กระดาษ, ราษฎร อยากลบรอยลบล้างด้วยยางลบ หยุดจุดจบ หดหู่ อุทาหรณ์ ก่อนตะกอนสกปรก ตกตะกอน ฝังทุกข์ร้อน แนบภาพ ตราบนิรันดร์ ณ ที่นี่ นาทีนี้ คือที่ไหน ? ใครหนอใครแลเหลียวหนึ่งเสี้ยวฝัน กับสังคมแตกต่างถึงทางตัน ภาพเหล่านั้น ลบเลือน เปื้อนน้ำตา นิตยา พูนเพิ่ม นักเรียนโรงเรียนสทิงพระวิทยา บทกวีรางวัลพานแว่นฟ้า เปลวเทียนแห่งแผ่นดิน เคี่ยวคนจนเข้มลึกผนึกเนื้อ ฟั่นด้ายเป็นไส้เชื้อเนื้อฉายฉาน หล่อมหลอมกาลเวลามาเนิ่นนาน ตั้งเทียนเป็นต้นฐานปฐพี แกะดอกเป็นดวงดอกออกสะพรั่ง หลอมรวมร่วมพลังถนัดถนี่ เปล่งเปลวธวัชวาบตราบนานปี บางเวลาริบหรี่มีมือบัง จุดเชื้อเติมต่อเชื้อเนื้อช่อชั้น จุดแสงแห่งร้อยพันแจ่มสรรค์หวัง ขับมืดทมิฬมารสานพลัง เป็นเปลวปลั่งเปล่งกล้าประชาชี ยะเยี่ยมยอดกอดเทียบเสียบแสงฟ้า พสุธาผสานรักสร้างศักดิ์ศรี จรุงสุขทุกข์ทลายทั้งหลายมี ทอแสงแห่งวิถี ทุกที่ทาง ถักใยเป็นไส้ยาวก้าวต่อทิศ ถักใจให้แจ้งคิดจิตกระจ่าง ธรงธรรมนำเด่นเป็นแกนกลาง พริบพริบพร่างพราวแสงแต่งแผ่นดิน น้ำตาเทียนคือน้ำทิพย์พริบหยดหยาด น้ำตาราษฎร์คือเลือดเนื้อเพื่อฐานถิ่น ปรุงน้ำอดน้ำทนผลชีวิน แปรเป็นสินเป็นสื่อคือเดือนดาว บางคราคลุกเลือดเนื้อจุดเชื้อแสง ไปตกแต่งวิญญาณตระการหาว กระสุนชั่วเผด็จการอันปวดร้าว กบฏกร้าวกระทืบเทียนเวียนล้มลง ยิ่งกดดันยิ่งฝันใฝ่ให้โชติช่วง ยิ่งแหนหวงเสรีภาพอาบแสงส่ง ยิ่งปิดหูปิดตาจะท้าตรง ไม่ขลาดเขลาเมาหลงกลัวดงปืน ริ้วรอยร้อยพันร่างยังเจ็บลึก พานแว่นฟ้าตราผนึกสำนึกตื่น เอาประชาธิปไตยได้กลับคืน ให้หยัดยืนอยู่คู่ฟ้าประชาชน บำเพ็ญแสงส่องแผ่นดินยินไปทั่ว สลายมัวมืดมิดปิดแห่งหน สร้อยแสงสว่างไสวในผู้คน ประโยชน์ผลผลิตผลมงคลชัย จุดน้อยมาแต่เนื้อเชื้อไฟโชติ เรืองเรืองโรจน์รุ่งหล้าสืบสมัย บ่มพลังฝังคิดบ่มจิตใจ ไส้ต่อไส้ต่อแสงแห่งปวงประชา เคี่ยวเข้มเต็มความคิดหลอมจิตรักษ์ แจ้งประจักษ์เคลื่อนไหวในคุณค่า เปล่งเปลวปรากฏการณ์ส่องผ่านมา เป็นแสงกล้ากอดแผ่นดินถิ่นฐานไทย นาย ภูวดล ภูภัทรโยธิน ผู้ร้อยกรอง รางวัลชมเชย บทกวีพานแว่นฟ้า พ.ศ. 2550 |