พิมพ์หน้านี้ - ทางโลก

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: ศรีอุดร ที่ 12 เมษายน 2010, 12:54:AM



หัวข้อ: ทางโลก
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 12 เมษายน 2010, 12:54:AM
อรุณทองส่องฟ้านภาสาง
ดอกไม้บาน....คลี่กาง....ริมทางถนน
เหมือนแย้มยิ้มยืนอยู่ให้ผู้คน
ที่เวียนวนพ้นผ่านเดินสัญจร

ไก่ก็ขันขานโต้งนอกโรงเล้า
บอกว่าเช้าสว่างฟ้าสางก่อน
เป็นเหมือนนาฬิกาปลุกลุกจากนอน
นี่ก็ตอนวันใหม่ให้ทำงาน

วันเก่าเก่าผ่านไปอยู่หลายครั้ง
แต่ก็ยังคิดถึงซึ่งวันผ่าน
เหมือนวันนี้คือวันเก่าอีกเนานาน
พอเปลี่ยนกาลพรุ่งนี้เล่า....ก็เก่าแล้ว

ออกทำงานหาเงินเพลินจ่ายซื้อ
มีสองมือจ่ายจองอย่างคล่องแคล่ว
ซื้อสิ่งของสะดวกกลัวพวกแซว
ยินแว่วแว่วนินทาว่าเราจน

เที่ยวไม่เบื่อ เหนือ-ใต้ไปมาหมด
ได้ลิ้มรสอาหารผ่านน่าสน
มียศเกียรติ...ต่าง ต่าง สังคมคน
สังสรรค์บนความสุขสนุกใจ

เรามนุษย์เกิดมาชีวาหนึ่ง
ความสุขซึ่ง...ไม่เสพ ลง...คงไม่ได้
ทุกทุกอย่างกระทำคือกำไร
ควรหาใส่ เติมต่อ ให้พอดี

อันทางธรรมจะขาดประมาทนั้น
คงโศกศัลย์ภายหลังทางสุขศรี
ละเลยสุขใส่ใจบุญไม่มี
คิดเช่นนี้ระทมมิสมควร

มีทางโลก...ทางธรรม...ช่วยค้ำหลัก
ความสุขจักแบ่งจัดถูกสัดส่วน
ทั้งสุขใจสุขกายมากมายมวล
คิดทบทวน ทุกทาง ช่างสำคัญ!


หัวข้อ: Re: ทางโลก
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 12 เมษายน 2010, 08:57:AM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_010.gif)

เช้าวันใหม่ใสสว่างแดดสางส่อง
สาดแตะต้องมาลีหลากสีสัน
หอมรินรื่นชื่นใจอยู่ในวัน
ผกาพรรณตื่นรับกับยามเช้า

ใต้ฟ้ากว้างพลางเดินอย่างเพลินย่าง
ผ่านแถวทางหวานชื่นและขื่นเศร้า
หากแบกเก็บเจ็บไหม้..คงไม่เบา
ขอเลือกเอาสิ่งดีไว้ที่ใจ

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_010.gif)


หัวข้อ: Re: ทางโลก
เริ่มหัวข้อโดย: ..ทักษมน.. ที่ 12 เมษายน 2010, 09:44:AM
สัจธรรมค้ำจุนผู้หนุนเนื่อง
ให้คิดทำทุกเรื่องตามเฟืองได้
สมาธิเสริมผลิตให้จิตใจ
เป็นบันไดรักษาศีล..ได้ยินมา

เพียงศีลห้าฆารวาส..ยังพลาดผิด
ยิ่งผูกติดอบาย..หลายปัญหา
เหตุแห่งทุกข์ยุคเข็ญ..ที่เป็นมา
ถึงเวลา..ปัญญาดับ..จิตปรับไว

เพียงเรารู้ทันเท่า..เจ้าสติ
ผลที่ผลิคือใบดอก..ที่ออกใช่
หมั่นฝึกจิตคิดทำดี..ทุกทีไป
อยู่ที่ใด?คนก็รัก.."ทักษมน"

พูดเอาดีใส่ตน..ให้คนอ่าน
จะมองผ่านหรือเน้นก็เป็นผล
มิได้หวังยาวยืน..รักหมื่นคน
ทางโลกตนพลุ่งพล่าน..ผ่านทางธรรม


หัวข้อ: Re: ทางโลก
เริ่มหัวข้อโดย: p^boy ที่ 12 เมษายน 2010, 10:06:AM
ตะวันโด่นอนคิดบิดขี้เกี้ยจ
หลังยาวเหยียดไก่ขันยังหรรษา
ยามค่ำคืนดึกดื่นลืมเวลา
เช้าจึงมาขี้เกี่ยจนอนเหยียดกาย

โอ้ตายแล้วสองโมงยืนธงชาติ
คงไม่อาจโอ้เอ้หมิ่นเหม่สาย
ไปทำงานก็ช้ามันน่าอาย
ทั้งวุ่นวายรีบเร่งเกรงไม่ทัน

อยู่ทางโลกมีธรรมก็ฉ่ำอยู่
แต่นึกดูธรรมหายหลบเหหัน
โลกธรรมทำกะโลกโฉลกกัน
แต่เรามันทิ้งธรรมไม่นำพา





หัวข้อ: Re: ทางโลก
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 12 เมษายน 2010, 01:16:PM
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_010.gif[/url])

เช้าวันใหม่ใสสว่างแดดสางส่อง
สาดแตะต้องมาลีหลากสีสัน
หอมรินรื่นชื่นใจอยู่ในวัน
ผกาพรรณตื่นรับกับยามเช้า

ใต้ฟ้ากว้างพลางเดินอย่างเพลินย่าง
ผ่านแถวทางหวานชื่นและขื่นเศร้า
หากแบกเก็บเจ็บไหม้..คงไม่เบา
ขอเลือกเอาสิ่งดีไว้ที่ใจ

([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_010.gif[/url])


สิ่งดี ดี...มีสุข...สนุกสนาน
อย่าลืมการมอบสู่เป็นผู้ให้
เมื่อมีสุขแบ่งปันทั่วกันไป
โลกจะได้ใสสดแสนงดงาม

การให้ที่เป็นสิ่งสุดยิ่งใหญ่
คือการให้ผู้คนอีกล้นหลาม
ให้กับให้ให้นั้นปันทุกยาม
คงเป็นความสุขแน่ที่แท้จริง


หัวข้อ: Re: ทางโลก
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 12 เมษายน 2010, 01:26:PM
สัจธรรมค้ำจุนผู้หนุนเนื่อง
ให้คิดทำทุกเรื่องตามเฟืองได้
สมาธิเสริมผลิตให้จิตใจ
เป็นบันไดรักษาศีล..ได้ยินมา

เพียงศีลห้าฆารวาส..ยังพลาดผิด
ยิ่งผูกติดอบาย..หลายปัญหา
เหตุแห่งทุกข์ยุคเข็ญ..ที่เป็นมา
ถึงเวลา..ปัญญาดับ..จิตปรับไว

เพียงเรารู้ทันเท่า..เจ้าสติ
ผลที่ผลิคือใบดอก..ที่ออกใช่
หมั่นฝึกจิตคิดทำดี..ทุกทีไป
อยู่ที่ใด?คนก็รัก.."ทักษมน"

พูดเอาดีใส่ตน..ให้คนอ่าน
จะมองผ่านหรือเน้นก็เป็นผล
มิได้หวังยาวยืน..รักหมื่นคน
ทางโลกตนพลุ่งพล่าน..ผ่านทางธรรม

ผ่านทางธรรมผ่องศรีก็ดีแล้ว
ช่างเพริศแพร้วธรรมะไม่ถลำ
เดินบานทางโลกาเป็นประจำ
อย่าลืมนำธรรมนั้นป้องกันภัย.


หัวข้อ: Re: ทางโลก
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 12 เมษายน 2010, 01:31:PM
ตะวันโด่นอนคิดบิดขี้เกี้ยจ
หลังยาวเหยียดไก่ขันยังหรรษา
ยามค่ำคืนดึกดื่นลืมเวลา
เช้าจึงมาขี้เกี่ยจนอนเหยียดกาย

โอ้ตายแล้วสองโมงยืนธงชาติ
คงไม่อาจโอ้เอ้หมิ่นเหม่สาย
ไปทำงานก็ช้ามันน่าอาย
ทั้งวุ่นวายรีบเร่งเกรงไม่ทัน

อยู่ทางโลกมีธรรมก็ฉ่ำอยู่
แต่นึกดูธรรมหายหลบเหหัน
โลกธรรมทำกะโลกโฉลกกัน
แต่เรามันทิ้งธรรมไม่นำพา






แล้วธรรมท่านนั้นหายไปไหนเล่า
หรือลืมเอาวางลงไว้ตรงไหน
หรือทำตกล่วงหายหมายที่ใด
อย่าลืมไปเก็บมา...ช้าไม่ดี


หัวข้อ: Re: ทางโลก
เริ่มหัวข้อโดย: ..ทักษมน.. ที่ 12 เมษายน 2010, 02:17:PM
ธรรมะBoy มีทุกวัน ดันทุกวี่
เพราะท่านพี่ นอนแล้วกลับสลับตื่น
เปิดธรรมะกล่อมหอ..คลอทั้งคืน
แถมกลางวันยันกลางคืน..โทร.ทั้งวัน

เรื่องจริงผ่านจิ๋มค่ะคุณศรีอุดร.. Boyนอนกอดโน๊ตบุ๊ค..หลับยังยิ้มแป้น..หนูแอบ emo_86ย่องไปเอามาเล่นประจำ



หัวข้อ: Re: ทางโลก
เริ่มหัวข้อโดย: GreenMonkey ที่ 12 เมษายน 2010, 05:35:PM
emo_84 emo_84 emo_84
อันทางโลก โศกบนสุข ทุกสรรพสิ่ง
ปล้นฉกชิง ฉุดฆ่า น่าใจหาย
พอได้มี มีเงิน เกินสบาย
ก็ยิ่งหมาย ใคร่ครอง ลำพองตัว

ศีลทั้งห้า รักษาไว้ ก็ไม่ได้
เพราะหัวใจ ก่อกรรม กระทำชั่ว
ชีวิตโลก โศกหมอง ต้องมืดมัว
เพราะไม่กลัว บาปย้อน สะท้อนตน

แต่ทางธรรม นำทาง สร้างวิถี
ด้วยคิดดี ใฝ่ธรรมะ ชำระผล
บริสุทธิ์ ผ่องใส ในกมล
จึงเป็นคน สมค่า น่าภูมิใจ

ได้เกิดมา ทั้งที ที่เป็นมนุษย์
จะสูงสุด ตกต่ำ ธรรมยึดให้
เป็นแกนหลัก แกนกลาง ทางชีพชัย
เพื่อวันใหม่ ทางโลกอยู่ คู่ทางธรรม

.. GreenMonkey :: ลิงเขียว ..


หัวข้อ: Re: ทางโลก
เริ่มหัวข้อโดย: คนเมืองน้ำ ที่ 12 เมษายน 2010, 06:03:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_148.gif)

ในโลกนี้  รูปธรรม  มาตามกฎ
มี  รูป  เสียง  กลิ่น รส  อดไม่ไหว
หลงติดอยู่  รูปธรรม  กรรมของใคร
ชนทั่วไป  ฤางด  อดจิตตน

รุปลักษณ์กาย เกิดแก่  แก้ไม่ได้
กลิ่นรสคลาย นานไป ไม่เกิดผล
อายุมาก  เสียงขาดหาย  กายทุกข์ทน
ใจของคน รับ “ทางโลก”  โศกจีรัง

      “ คนเมืองน้ำ”
 

                  (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_148.gif)


หัวข้อ: Re: ทางโลก
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 12 เมษายน 2010, 07:02:PM
ในโลกนี้  รูปธรรม  มาตามกฎ
มี  รูป  เสียง  กลิ่น รส  อดไม่ไหว
หลงติดอยู่  รูปธรรม  กรรมของใคร
ชนทั่วไป  ฤางด  อดจิตตน



.............................................


เรามนุษย์เกิดมาชีวาหนึ่ง
ความสุขซึ่ง...ไม่เสพ ลง...คงไม่ได้
ทุกทุกอย่างกระทำคือ"กำไร"
ควรหาใส่ เติมต่อ ให้พอดี

อันทางธรรมจะขาดประมาทนั้น
คงโศกศัลย์ภายหลังทางสุขศรี
ละเลยสุขใส่ใจบุญไม่มี
คิดเช่นนี้ระทมมิสมควร

มีทางโลก...ทางธรรม...ช่วยค้ำหลัก
ความสุขจักแบ่งจัดถูกสัดส่วน
ทั้งสุขใจสุขกายมากมายมวล
คิดทบทวน ทุกทาง ช่างสำคัญ!


หัวข้อ: Re: ทางโลก
เริ่มหัวข้อโดย: ..ทักษมน.. ที่ 12 เมษายน 2010, 07:44:PM
เรามนุษย์เกิดมาชีวาหนึ่ง
ความสุขซึ่ง...ไม่เสพ ลง...คงไม่ได้
ทุกทุกอย่างกระทำคือ"กำไร"
ควรหาใส่ เติมต่อ ให้พอดี
อันทางธรรมจะขาดประมาทนั้น
คงโศกศัลย์ภายหลังทางสุขศรี
ละเลยสุขใส่ใจบุญไม่มี
คิดเช่นนี้ระทมมิสมควร
มีทางโลก...ทางธรรม...ช่วยค้ำหลัก
ความสุขจักแบ่งจัดถูกสัดส่วน
ทั้งสุขใจสุขกายมากมายมวล
คิดทบทวน ทุกทาง ช่างสำคัญ!(ท่านศรีอุดร)


*****************
emo_40  ขอจดจำ คำดี ที่มีหลัก
ไม่ใฝ่ฝัก โลภหลง ดงกระสัน
สิ่งที่เสีย..คือสิ่งได้ คล้ายคล้ายกัน
เพ่งพิศมัน ใช้สติ..ทิฐิบาน  emo_02

 emo_40  ถึงแม้เรา มิได้สุข กับทุกสิ่ง
จิตใสนิ่ง ก็เป็นสุข ทุกสถาน
ที่ว้าวุ่น หนุนนำ เพราะทำงาน
แต่รู้กาล ทาน-ศีล-ภาวนา  emo_02

 emo_40  มิมีใคร? สุข-ช้ำ ได้ค้ำฟ้า
ช่วยกันหา กวาดหยักใย ภายใน+หน้า
ภายนอกแต่ง น้อยไว้ ใช้ปัญญา
มุ่งเงินตรา..พอสิ้นนาม..ตามแต่บุญ

(อุ้ย...ตัวเองแต่งได้ไงนี่?สุดยอด..คงมาจากจิตใต้สำนึกของตนเป็นแน่แท้  emo_50 )






หัวข้อ: Re: ทางโลก
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 12 เมษายน 2010, 10:44:PM
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_148.gif[/url])

ในโลกนี้  รูปธรรม  มาตามกฎ
มี  รูป  เสียง  กลิ่น รส  อดไม่ไหว
หลงติดอยู่  รูปธรรม  กรรมของใคร
ชนทั่วไป  ฤางด  อดจิตตน

รุปลักษณ์กาย เกิดแก่  แก้ไม่ได้
กลิ่นรสคลาย นานไป ไม่เกิดผล
อายุมาก  เสียงขาดหาย  กายทุกข์ทน
ใจของคน รับ “ทางโลก”  โศกจีรัง

      “ คนเมืองน้ำ”
 

                  ([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_148.gif[/url])

๐ อันรูปรส..กลิ่นเสียง..เพียงสัมผัส
อาจกำหนัด..กลัดกลุ้ม..จนคลุ้มคลั่ง
ได้หลงใหล..ใจหมาย..เมื่อกายยัง
พอถูกฝัง..ก็สิ้น..กับอินทรีย์

๐ เหมือนเมฆหมอก..หลอกตา..พาหลงผิด
ควรข่มจิต..คิดครวญ..ให้ถ้วนถี่
โลกจะสวย..ด้วยธรรม..และกรรมดี
เอื้ออารี..มีสุข..กันทุกคน.



ที่ท่านพูดทั้งผองถูกต้องแล้ว
ถือเป็นแนวตระหนักในมรรคผล
เหมือนหนึ่งแสงแห่งธรรมนำหมู่ชน
ตั้งแต่ต้นจนหมายสุดปลายทาง.