หัวข้อ: ...ไม่เคยลืมกลอนรัก... เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 23 มีนาคม 2010, 04:08:PM ...กลอนรักจริงพิงพักในอักษร รักทุกตอนกลอนเขียนเวียนเสนอ ทุกอักษรกลอนกานท์เข้าผ่านเจอ น่ากลัวเธอจะเผลอใจไปกับกลอน ...อยากแต่งกลอนอ้อนรักสลักแน่น ให้ความรักเป็นแกนแทนอักษร เป็นคู่ขวัญฝันสวาทไม่ขาดตอน จึงขอวอนกลอนรักเข้าปักจอง... ...อ่านกลอนเศร้าเผาใจให้ขื่นขม กลอนนิยมตรมจิตคิดหม่นหมอง อ่านกลอนเศร้าน้ำตาเข้าพาครอง เพราะเข้าใจทำนองของกวี ...อ่านกลอนรักภักดีที่มีให้ ช่วยให้ใจระรื่นชื่นสุขี แต่ระวังกลอนรักปักฤดี เปลี่ยนวิถีเป็นกลอนเศร้าเข้าทิ่มแทง... (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_077.gif) หัวข้อ: Re: ...ไม่เคยลืมกลอนรัก... เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 23 มีนาคม 2010, 08:07:PM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_012.gif) ในม่านหมอกมืดมนของคนโง่ จึงเซโซมาพักสำนักแฝง พอกำลังคืนกลับมีเรียวแรง จะถลาสู่แหล่งที่สมควร ผมนักกลอนอ้อนรักไม่หลายใจ อยู่แห่งหนตำบลใดไม่สงวน คำว่ารักหนักนี้เคยชี้ชวน หรือไม่ควรหากว่ารักรู้จักกัน เมื่อสังคมคนคนเมืองรู้เรืองรุ่ง เราลูกทุ่งรู้ทันวงสังสรรค์ เมื่อไม่เทียมเหลี่ยมสู้พอรู้ทัน คำว่ารักเคยแบ่งปันเลยแหวกแนว ผมเคยอยู่ศาลาคนเศร้าเศร้า หลายปีเหงาเปล่าจิตรชอบกินแห้ว จนมาอยู่บ้านกลอนไทยไร้วี่แวว สรุปแล้วรักและหวังยังเหมือนเดิม (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_012.gif) หัวข้อ: Re: ...ไม่เคยลืมกลอนรัก... เริ่มหัวข้อโดย: สายลมสีขาว ที่ 23 มีนาคม 2010, 09:06:PM ไม่เคยลืม กลอนรัก วรรคสดใส
ที่เคยเติม เพิ่มใจ ให้สุขสันต์ ไม่เคยหยุด ฉุดรัก ชักรำพัน เพียงแค่มี บางวัน สับสนไป อาจมีบ้าง ที่หลง ตรงกลอนเศร้า และบางที หลงเหงา เคล้าอ่อนไหว แต่ยังดี มีเธอเป็น กำลังใจ ฉันจึงเขียน กลอนรักได้ ไม่สร่างทรวง หัวข้อ: Re: ...ไม่เคยลืมกลอนรัก... เริ่มหัวข้อโดย: chaipan1999 ที่ 23 มีนาคม 2010, 10:49:PM emo_60สักวากลอนรักมาปักจิต เชยชมชิดแช่มชื้นชื่นโฉมฉาย สุดเสกสรรค์ดั่งสวรรค์บนหาดทราย ล้อมรอบรายรุมเร้ารักระเริง จินตการสานฝันช่วยกันแต่ง ทั้งรักแจ้งรักแอบแอบใจแทบเหลิง รำพันรักผ่านกลอนกานท์ร่วมบันเทิง จึงขอเชิญร่วมกลอนรักในสักวา... emo_102 emo_102 emo_102 emo_102 |