พิมพ์หน้านี้ - ธรรมชาติที่มองเห็น

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: แก้วประภัสสร ที่ 07 มีนาคม 2010, 09:49:PM



หัวข้อ: ธรรมชาติที่มองเห็น
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วประภัสสร ที่ 07 มีนาคม 2010, 09:49:PM

ลมพัดสะบัดโบก
ใบไม้โยกปลิวหวิวไหว
ระริกระรี้ไป
คล้ายกระดิ่งกริ่งกังวาน

ต้นอ้อล้อหยอกเย้า
โน้มพลิ้วเบาผสมผสาน
ดอกน้อยแย้มตระการ
ดูสวยสดและงดงาม

น้ำค้างยังพร่างพราว
ใสดุจราวเพชรสยาม
เกาะหญ้าเริงร่าตาม
ช่างสดชื่นระรื่นตา

เสียงของนกกระจิบ
ร้องจิ๊บจิ๊บเหมือนเรียกหา
สักพักเพื่อนบินมา
ร่อนถลาอยู่เคียงกัน

ธรรมชาติที่มองเห็น
เปรียบเหมือนเป็นสรวงสวรรค์
เปิดใจสัมผัสมัน
ย่อมเห็สนสุขอยู่ทุกยาม

แก้วประภัสสร
  07 /03 / 2553



หัวข้อ: Re: ธรรมชาติที่มองเห็น
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 08 มีนาคม 2010, 12:54:AM


ลมพัดสะบัดโบก
ใบไม้โยกปลิวหวิวไหว
ระริกระรี้ไป
คล้ายกระดิ่งกริ่งกังวาน

ต้นอ้อล้อหยอกเย้า
โน้มพลิ้วเบาผสมผสาน
ดอกน้อยแย้มตระการ
ดูสวยสดและงดงาม

น้ำค้างยังพร่างพราว
ใสดุจราวเพชรสยาม
เกาะหญ้าเริงร่าตาม
ช่างสดชื่นระรื่นตา

เสียงของนกกระจิบ
ร้องจิ๊บจิ๊บเหมือนเรียกหา
สักพักเพื่อนบินมา
ร่อนถลาอยู่เคียงกัน

ธรรมชาติที่มองเห็น
เปรียบเหมือนเป็นสรวงสวรรค์
เปิดใจสัมผัสมัน
ย่อมเห็นสุขอยู่ทุกยาม

แก้วประภัสสร
  07 /03 / 2553




ตัวอักษรเล็กมากครับท่านพี่ ขออนุญาตขยายนะ
อ่านแล้วเพราะ....ของดีเลยต้องขยาย   หุหุ


   emo_12
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)
 


หัวข้อ: Re: ธรรมชาติที่มองเห็น
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 08 มีนาคม 2010, 02:05:AM
กิ้งก่าท้าความร้อน
มิหลบซ่อนไอแดดเผา
เมื่อแล้งได้แฝงเงา
มาคลุมค้างสร้างริ้วรอย

ทองกวาวพราวดอกพร่าง
คือความต่างทางถดถอย
ผลิบานก้านดอกคอย
น้ำค้างหยดมารดริน

ใบไม้ย้ายที่อยู่
ไม่ขอสู้อยู่ในถิ่น
จากกิ่งดิ่งสู่ดิน
เหลือนิยามนามหน้าแล้ง


หัวข้อ: Re: ธรรมชาติที่มองเห็น
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 08 มีนาคม 2010, 04:04:AM
ม่านหมอกกอดรัตติกาล
ยินเพลงขับขาน
เพียงแว่วแผ่วผ่านได้ยิน

ป่าลึกนึกภาพศิลปิน
ร่วมคีตศิลป์
ในดินพนาป่าไพร

นั่นคือหรีดหริ่งเรไร
กู่ร้องก้องไพร
ตามเนินไศลไพรวัน

ยินท่วงทำนองสุขสันต์
บรรเลงร่วมกัน
เสนาะเลาะผ่านโสตทรวง

ดึกดื่นคืนนี้เลยล่วง
สรรพสิ่งทั้งปวง
นิทราลาแรมลงนอน

เหลือเรานั่งทอดอาวรณ์
มีเพื่อนเพลงกลอน
ขับกล่อมในยามราตรี


หัวข้อ: Re: ธรรมชาติที่มองเห็น
เริ่มหัวข้อโดย: plak ที่ 08 มีนาคม 2010, 09:44:AM
ธรรมชาติมองเห็นนั้นเด่นชัด
ลมสัมผัส  ไม้งาม อร่ามสี
ไม่ถนัด เขียนกลอน วอนปราณี
เขียนแบบนี้ ตอบไป ได้ไหมคุณ

ทุกบทสวย รวยศิลป์ กลิ่นธรรมชาติ
สายลมสาด วาดไว้ ให้หอมกรุ่น
มีสายน้ำ ไหลเย็น เน้นการุณ
ขอขอบคุณ สร้างสรรค์ ปันไมตรี








หัวข้อ: Re: ธรรมชาติที่มองเห็น
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วประภัสสร ที่ 09 มีนาคม 2010, 05:19:PM


ลมพัดสะบัดโบก
ใบไม้โยกปลิวหวิวไหว
ระริกระรี้ไป
คล้ายกระดิ่งกริ่งกังวาน

ต้นอ้อล้อหยอกเย้า
โน้มพลิ้วเบาผสมผสาน
ดอกน้อยแย้มตระการ
ดูสวยสดและงดงาม

น้ำค้างยังพร่างพราว
ใสดุจราวเพชรสยาม
เกาะหญ้าเริงร่าตาม
ช่างสดชื่นระรื่นตา

เสียงของนกกระจิบ
ร้องจิ๊บจิ๊บเหมือนเรียกหา
สักพักเพื่อนบินมา
ร่อนถลาอยู่เคียงกัน

ธรรมชาติที่มองเห็น
เปรียบเหมือนเป็นสรวงสวรรค์
เปิดใจสัมผัสมัน
ย่อมเห็นสุขอยู่ทุกยาม

แก้วประภัสสร
  07 /03 / 2553




ตัวอักษรเล็กมากครับท่านพี่ ขออนุญาตขยายนะ
อ่านแล้วเพราะ....ของดีเลยต้องขยาย   หุหุ


   emo_12
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif[/url])
 


หัวข้อ: Re: ธรรมชาติที่มองเห็น
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วประภัสสร ที่ 09 มีนาคม 2010, 05:20:PM
ขอบคุณที่ช่วยขยายตัวหนังสือให้ค่ะ